Countable & Uncountable Nouns

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
โดย ครูวาสนา ขีดสร้อย โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ อ.เมือง จ.แพร่
Advertisements

ADJECTIVE !!!.
จัดทำโดย ด.ญ.ณาชา จุฑาวิจิตรธรรม no.5 ด.ญ. สิรามล โสมนัส no.7
สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
Present Simple Tense Nouns.
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
Are you a student ? Yes, I am or No , I’m not .
How ใช้ถามเกี่ยวกับอาการ ( manner ) การคมนาคม และการขนส่ง How can I get to the police station ? By taking the white bus. How did she walk ? slowly.
Singular-Plural โดยทั่วไปเติม s หลังนามเอกพจน์ เช่น Singular Plural
Who Who broke my pencil ? Wichian Who has got my book ? Danai Who is your teacher ? Mr. Kasem.
ครั้งที่ 2 บทที่ 1 8 มิถุนายน 2553
Unit 1 Present Simple Tense.
ครั้งที่ 4 บทที่ 1 14 มิถุนายน 2553
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ปรับปรุง 8 กุมภาพันธ์ 2554.
Wh-Question.
Parts of Speech ( ชนิดของคำ )
Article A, an, the.
Active and Passive Active and Passive กรรมวาจก.
Indirect Question without Question Word.
Question Tag Question Tag
Kru Srithong Bovornkosolchit
Will และ Be Going To.
Question Tag Question Tag ตอนที่2 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
ครูรุจิรา ทับศรีนวล. อ่านเรื่องสั้น ๆแล้ว ตอบคำถามได้
Present Continuous.
 How do we improve the test?  Why do we have to improve the test?
Part of Speech Conjunction.
English for everyday use
Question Tag Question Tag ตอนที่3 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
At the party ครูรุจิรา ทับศรีนวล. Communi cation Describing past events การบรรยาย เหตุการณ์ในอดีต ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
by Sasithorn Gaysornmas
ครูรุจิรา ทับศรีนวล Dates and plans ตอนที่ 4. ครูรุจิรา ทับศรีนวล Dates and plans Dates and plans Dates and plans.
Indirect Question word
At the party ตอนที่ 1 ครูรุจิรา ทับศรีนวล ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
Passive Voice By Witchuma Singhaphukam No.40 Soytreemook Boutoom No.41
ครูรุจิรา ทับศรีนวล. สนทนา โต้ตอบ ตามสถานการณ์ ที่กำหนดให้ ได้ถูกต้อง.
ครูรุจิรา ทับศรีนวล “Room service”. “Room service”
ครูรุจิรา ทับศรีนวล “Edinburgh” ตอนที่ 1 ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปึที่ 4 Grammar & Reading ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
ใบความรู้ เรื่อง ประโยคสนทนาที่น่ารู้ โดย อ. สิริพร กุ่ยก ระโทก.
Some & Any ภาษาอังกฤษ นายวิรุฬห์ อนันตผล ม.5/7 เลขที่ 7
TOPIC: Bedroom/ Things in the bedroom. closet slippers picture bed sheets curtains blanket bookcase wardrobe poster pillow clock lamp nightstand Read.
Healthy eating.
A.The simple present of the verb To Have The Simple Present of the verb to have is slightly irregular, since the bare infinitive is have, whereas the form.
Present Continuous Tense
Pronoun คือ คำที่ใช้แทนคำนาม แบ่งออกเป็น
Verb to have (have, has)
ยินดีต้อนรับเข้าสู่กิจกรรมการ เรียนการสอน โดยใช้สื่อประสม Power Point จัดทำโดย นางไพเราะ มาตะราช โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ อ. เมือง จ. กาญจนบุรี สพท. กจ.
By T’ Sumana Hanlamyuang. 1. First conditional or real condition ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 ใช้เมื่อต้องการ แสดงเงื่อนไขที่ตั้งไว้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะ.
By T’Sumana Hanlamyuang
Review 2.
D 2 E 1 S E M N G ม. I G I T Grammar A L 4.0.
D I G I T A L 4.0 Pronoun ENG M.1 Sem. 1 Grammar
Modals-Ability By T’Sumana Hanlamyuang.
By T’Sumana Hanlamyuang
Adjective Clause (Relative Clause) An adjective clause is a dependent clause that modifies head noun. It describes, identifies, or gives further information.
นวัตกรรมการบริการสารสนเทศ ในยุคประเทศไทย 4.0
Plurals.
Direct Speech Vs Indirect Speech
Modals-Certainly (must, can't)
D I G I T A L 4.0 Noun ENG M.2 Sem. 1 Grammar
At home.
D 1 E 1 S E M N G ม. I G I T Prepositions A L 4.0.
Present Simple Tense.
1 E 1 S E M N G Present Progressive
1 E 1 S E M N G Adverb of frequency
1. พระเยซูทรงต้องการให้เราเป็น เหมือนพระองค์
นโยบายการศึกษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 21 เมษายน 2559.
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพ
Help please me. I want to go home
ใบสำเนางานนำเสนอ:

Countable & Uncountable Nouns นามนับได้ นามนับไม่ได้ By T’ Sumana Hanlamyuang

คำถามเพื่อหาคำตอบ 1.นามนับได้คืออะไร 2.นับไม่ได้คืออะไร มีหลักเกณฑ์ในการแยกแยะอย่างไร ก่อนอื่นลองเดาซิว่าฝรั่งถือว่าคำนามต่อไปนี้ตัวใดนับได้ ตัวใดนับไม่ได้ chalk (ชอล์ก)   soap (สบู่)  paper (กระดาษ)  water (น้ำ) tea (ชา) เฉลย …….คำนามดังกล่าว  เช่น chalk (ชอล์ก)  soap (สบู่) ฝรั่งถือว่าเป็นนามนับไม่ได้  นักเรียนหลายคนสังสัยว่าทำไมถึงนับไม่ได้ เดี๋ยวค่อยเฉลยกันนะคะ

นามนับได้นับไม่ได้คืออะไร???? นามนับได้ คือ นามที่นับได้เป็นตัว ๆ เวลานับก็นับตัวของมันเลย (มีหลายชิ้นส่วนประกอบกัน) นามนับไม่ได้  คือ นามที่ไม่สามารถนับตัวของมันได้ ต้องนับภาชนะที่บรรจุ หรือว่าอย่างอื่นแทน

มีหลักเกณฑ์ในการแยกแยะอย่างไร หลักเกณฑ์คร่าวๆ แต่ว่าใช้ได้ดีคือว่า นามนับได้ มีหลายองค์ประกอบหรือหลายชิ้นส่วนรวมกัน นามนับไม่ได้ มีองค์ประกอบเดียว

นามนับได้ มีหลายองค์ประกอบ หมายความว่า ต้องเอาหลายชิ้นส่วนมาประกอบกันนะคะ  และแต่ละชิ้นส่วนก็มีชื่อเรียกของมันเอง เช่น  bike (จักรยาน) ก็จะประกอบไปด้วยล้อ อาน โซ่ ฯลฯ   chair (เก้าอี้)  ประกอบไปด้วยเหล็ก ไม้ เบาะรองนั่ง ฯลฯ bird ประกอบไปด้วยปีก  ขา  หัว ฯลฯ เป็นต้น คำอื่นๆ ก็เหมือนกัน และเวลานับเขาก็จะนับ ดังนี้ a cat  แมวหนึ่งตัว / five cats แมวห้าตัว a man ผู้ชายหนึ่งคน / two men  ผู้ชายสองคน a car รถยนต์หนึ่งคัน / many cars รถยนต์หลายคัน อ้าวแล้วทำไมหลายตัว เติม s แต่บางตัวไม่เติม กลับเปลี่ยนรูปไป เช่น man เป็น men คำถามนี้จะตอบในหัวข้อ นามเอกพจน์ นามพหูพจน์ (Singular & Plural)

นามนับไม่ได้ มีเพียงองค์ประกอบเดียว หมายความว่า ไม่ว่าจะแบ่งแยกออกไปอย่างไร  เราก็ยังเรียกชื่อเดิมของมันอยู่ดี  ปกติจะเป็นสารหรือของเหลวต่าง ๆ   เช่น กระดาษ  นักเรียนหลายคนคิดว่ากระดาษนับได้  (ภาษาไทยนับได้แต่ฝรั่งบอกว่า No) แต่ลองฉีกกระดาษออกมาซิคะ ไม่ว่าจะฉีกออกมากี่ชิ้น มันก็ยังเป็นกระดาษเหมือนเดิมใช่ไหมคะ อีกสักสองสามคำนะคะ ให้นักเรียนลองเอาสิ่งของต่อไปนี้มาหั่นออกสักสิบชิ้น ได้แก่  chalk, soap   ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกับ paper ใช่ไหมคะ ส่วนคำนามนับไม่ได้มีอะไรบ้าง การนับคำนามที่นับไม่ได้ทำอย่างไร เราจะได้เรียนรู้ในหัวข้อ นามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

ฉะนั้นสรุปได้ว่า นามนับได้ คือ  นามที่แบ่งแยกแล้วจะไม่สามารถเรียกชื่อเดิมได้ นามนับไม่ได้  คือ  นามที่แบ่งแยกแล้วจะมีชื่อเรียกเดิม นี่คือหลักการคร่าวๆ ที่ฝรั่งแบ่งแยกความแตกต่างระหว่างนามนับได้ และนามนับไม่ได้ ไม่ต้องเถียงเขานะคะ เพราะเรากำลังเรียนรู้หลักภาษาของเขา เขาว่ามาอย่างนี้ เราก็จดจำไว้แล้วกัน  

หลักการและการใช้ Countable Nouns   1. สามารถใช้จำนวนนับ ( 1,2,3,…) นำหน้าเพื่อนับจำนวนได้ 3 cats,    5 apples,    ten birds 2. สามารถใช้ a และ an นำหน้าได้ a pen, a dog, a ruler an elephant, an orange, an ear, an egg 3. สามารถทำเป็นรูปพหูพจน์ได้ dog = dogs,   cat = cats pen = pens ,   egg = eggs

หลักการและการใช้ Countable Nouns 4. ใช้ How many + นามพหูพจน์ เพื่อถามจำนวน  How many birds are there in the zoo?  There are ten birds.  How many sisters do you have?  I have two sisters.

หลักการและการใช้ Uncountable Nouns 1. ไม่สามารถใช้จำนวนนับ ( 1,2,3,…) นำหน้าเพื่อนับจำนวนได้      oil, soap, water 2. ไม่สามารถใช้ a และ an นำหน้าได้      tea, coffee 3. ไม่สามารถทำเป็นรูปพหูพจน์ได้  เป็นได้เพียงรูปเอกพจน์เท่านั้น      tea = teas      coffee = coffees    ผิดนะคะ  4. ใช้  How much+ นาม  เพื่อถามปริมาณ     How much sugar do you want?    How much milk do you drink a day? 5. เป็นได้เฉพาะนามเอกพจน์ ใช้กริยาเอกพจน์    Water  is  cool.    Sugar  is  sweet.

countable nouns สามารถอยู่ได้ทั้งในรูปเอกพจน์ ( Singular ) หรือ พหูพจน์ ( Plural ) ซึ่งทั้ง 2 มีรายละเอียดดังนี้ 1. Singular count nouns (นามนับได้เอกพจน์) คือ นามนับได้ที่มีจำนวนเพียงแค่ 1 เดียว เช่น a book , a woman , a wish , an idea นามนับได้เอกพจน์ มีข้อกำหนดในการใช้อยู่ว่าไม่สามารถนำไปใช้โดดเดี่ยวได้ จะต้องมี determiner นำหน้าเสมอ เช่น the table  , that English teacher  , a bird  , my latest idea นำหน้าด้วย quantifier some new books , a few teachers , lots of good ideas  

2. Plural count nouns (นามนับได้พหูพจน์) คือ คำนามนับได้ที่มีจำนวนมากกว่า 1 ขึ้นไป ในภาษาอังกฤษจะมีวิธีระบุให้ทราบว่าคำนามเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1 ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ - โดยทั่วไปจะให้วิธี เติม S ข้างหลังคำ book เป็น books  , dog เป็น  dogs ,  friend เป็น friends - คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s , sh, ss ,ch , x , z จะใช้วิธีเติม -es ข้างหลังคำ class เป็น classes  , watch เป็น  watches , gas เป็น gases , wish เป็น wishes , box เป็น boxes  -คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน  y เป็น i แล้วเติม es เช่น lady เป็น  ladies  , country เป็น  countries , party เป็น  parties แต่ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติมเพียง s เช่น boy เป็น  boys  , day เป็น days  , play เป็น plays  

- คำนามที่ลงท้ายด้วย o  และหน้า o เป็นพยัญชนะ เติม es เช่น tomato เป็น  tomatoes , hero เป็น   heroes คำนามที่ลงท้ายด้วย o บางคำ ก็เติมแค่ s เพียงอย่างเดียว เช่น auto เป็น  autos , piano เป็น pianos , bamboo เป็น bamboos   -  คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe เปลี่ยนให้เป็น v แล้วเติม es เช่น thief ( ขโมย )     thieves life ( ชีวิต )     lives knife ( มีด )     knives wife ( ภรรยา )     wives

แต่ก็มีคำยกเว้นต่อไปนี้ที่เติมแค่ s belief ( ความเชื่อถือ)     beliefs dwarf ( คนแคระ )     dwarfs brief ( สำนวนคดีความ )     briefs grief  ( ความเศร้าโศก )     griefs chef ( หัวหน้าพ่อครัว )     chefs gulf ( อ่าว )     gulfs chief ( หัวหน้า)     chiefs reef (หินโสโครก )     reefs cliff ( หน้าผา )     cliffs safe ( ตู้นิรภัย)     safes  

- คำที่ทำให้เป็นนามพหุพจน์โดยเปลี่ยนภายในคำ man ( ผู้ชาย )     men woman (ผู้หญิง )     women louse  ( เหา,หมัด )     lice mouse ( หนู )     mice ox ( วัว )     oxen foot ( เท้า )     feet child ( เด็ก )     children tooth ( ฟัน )     teeth

- คำต่อไปนี้เหมือนกันทั้งรูปพหูพจน์ และ เอกพจน์ aircraft ( เครื่องบิน ) herring ( ปลาเฮอริง ) deer ( กวาง ) species ( ชนิด ) carp ( ปลาคาร์พ ) salmon ( ปลาซาลมอน ) bison ( วัวกระทิง ) corps ( กองร้อย ) fish ( ปลา )

mackerel ( ปลาแมคเคอเรล ) shellfish( สัตว์น้ำที่มีเปลือก ) series ( ชุด ) sheep ( แกะ ) trout ( ปลาเทร้า ) barracks ( โรงเรือนทหาร ) ** จะเห็นได้ว่าการแปลงคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีมากมายหลายแบบ ซึ่งการจะรู้ให้ได้ทั้งหมดนั้น ส่วนหนึ่งต้องมาจากการหมั่นสังเกต **

uncountable nouns คือ นามที่ไม่สามารถนับจำนวนได้ การทำความเข้าใจในส่วนนี้จะต้องทราบก่อนว่า ภาษาอังกฤษใช้วิธีมองสิ่งต่าง ๆ ในภาพรวม จึงมีคำบางประเภทที่ไม่สามารถจะนับได้ เช่น น้ำตาล ,น้ำ เป็นต้น การกระทำต่างๆที่เป็นรูปธรรม( abstract nouns ) ตัวอย่าง uncountable nouns Concrete : เช่น  water, milk, butter, furniture, luggage, iron,equipment,clothing,garbage, junk Abstract  : เช่น anger, courage, satisfaction,happiness,knowledge ชื่อภาษา:  เช่น English,German,Spain กีฬาต่างๆ : เช่น hockey, football, tennis ชื่อวิชาต่างๆ : เช่น  sociology, medicine, anthropology กิจกรรมต่างๆ : swimming, eating อื่นๆ : news, money,mail ,work,homework,gossip, education, weather, difficulty, information,feminism, optimism,machinery,information, research,traffic,scenery,breakfast, accomodation, advice, permission

หลักการใช้ uncountable nouns - มีรูปเป็นเอกพจน์ ซึ่งถ้าเป็นการกล่าวถึงโดยทั่วไป และไม่เคยกล่าวมาก่อน ไม่ต้องมีคำ articles (a ,an , the) ใด ๆ นำหน้าทั้งสิ้น We ate a lot of foods > We ate a lot of food We bought some new furnitures > We bought some new furniture That’s a useful information > That’s useful information - ทำให้เป็นพหูพจน์ได้โดยบอกจำนวนตามภาชนะที่บรรจุ กลุ่ม น้ำหนัก และลักษณะนาม เช่น two cups of water, three pieces of information, five patches of sunlight three games of hockey, two lumps of sugar I need two lumps of sugar for my coffee.  ฉันกินกาแฟต้องใส่น้ำตาล  2  ก้อน

นอกจากนี้ยังมีคำ nouns ที่เป็นได้ทั้ง Countable และ Uncountableคำนามบางคำสามารถเป็นได้ทั้งนามนับได้และนามนับไม่ได้ แล้วแต่การใช้ เช่น abuse ( ใช้ในทางที่ผิด ) faith ( ความเชื่อ ) nature  ( ธรรมชาติ ) adulthood ( ความเป็นผู้ใหญ่) fear ( ความกลัว ) paper ( กระดาษ ) afternoon ( ตอนบ่าย ) fiction ( เรื่องอ่านเล่น ) passion ( หลงใหล ) age ( อายุ )

Exercises A. Are these nouns countable or uncountable. 1. water 2 Exercises A. Are these nouns countable or uncountable? 1. water 2. fruit 3. coconut 4. bread 5. DVD 6. meat 7. ball 8. snack 9. glasses 10. pen 11. milk 12. chair 13. gasoline 14. table 15. cream 16. money 17. oil 18. insect 19. sofa 20. yogurt 21. school 22. bus 23. food 24. chocolate 25. ship

Exercises A. Are these nouns countable or uncountable. 1. water (U) 2 Exercises A. Are these nouns countable or uncountable? 1. water (U) 2. fruit (U) 3. coconut (C) 4. bread (U) 5. DVD (C) 6. meat (U) 7. ball (C) 8. snack (C) 9. glasses (C) 10. pen (C) 11. milk (U) 12. chair(C) 13. gasoline (U) 14. table (C) 15. cream (U) 16. money (U) 17. oil (U) 18. insect(C) 19. sofa (C) 20. yogurt(U) 21. school (C) 22. bus (C) 23. food (U) 24. chocolate (U) 25. ship (C)

Decide whether these nouns are countable (C) or uncountable (U) 1 Decide whether these nouns are countable (C) or uncountable (U) 1. The children are playing in the garden. 2. I don't like milk. 3. I prefer tea. 4. Scientists say that the environment is threatened by pollution. 5. My mother uses butter to prepare cakes. 6. There are a lot of windows in our classroom. 7. We need some glue to fix this vase. 8. The waiters in this restaurant are very professional. 9. My father drinks two big glasses of water every morning. 10. The bread my mother prepares is delicious.

11. Drivers must be careful; the road is slippery. 12 11. Drivers must be careful; the road is slippery. 12. Some policemen are organizing road traffic to avoid any accidents. 13. I bought three bottles of mineral water for our picnic. 14. I'd like some juice please! 15. Successful candidates will join the camp later this year. 16. A rise in oil prices is inevitable since there is more and more world demand for energy. 17. The exercises on this website are interesting. 18. Dehydrated babies must drink a lot of water. 19. Adult illiterates learn through a special government program. 20. I met some nice people when I was walking along the beach.  

Decide whether these nouns are countable (C) or uncountable (U) 1 Decide whether these nouns are countable (C) or uncountable (U) 1. The children are playing in the garden. C 2. I don't like milk. U 3. I prefer tea. U 4. Scientists say that the environment is threatened by pollution. C 5. My mother uses butter to prepare cakes. U 6. There are a lot of windows in our classroom. C 7. We need some glue to fix this vase. U 8. The waiters in this restaurant are very professional. C 9. My father drinks two big glasses of water every morning. C 10. The bread my mother prepares is delicious. U

11. Drivers must be careful; the road is slippery. C 12 11. Drivers must be careful; the road is slippery. C 12. Some policemen are organizing road traffic to avoid any accidents. C 13. I bought three bottles of mineral water for our picnic. C 14. I'd like some juice please! U 15. Successful candidates will join the camp later this year. C 16. A rise in oil prices is inevitable since there is more and more world demand for energy. U 17. The exercises on this website are interesting. C 18. Dehydrated babies must drink a lot of water. U 19. Adult illiterates learn through a special government program. C 20. I met some nice people when I was walking along the beach. C