A, An, The By T’Sumana Hanlamyuang.

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
โดย ครูวาสนา ขีดสร้อย โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ อ.เมือง จ.แพร่
Advertisements

Are you a student ? Yes, I am or No , I’m not .
How ใช้ถามเกี่ยวกับอาการ ( manner ) การคมนาคม และการขนส่ง How can I get to the police station ? By taking the white bus. How did she walk ? slowly.
Who Who broke my pencil ? Wichian Who has got my book ? Danai Who is your teacher ? Mr. Kasem.
Unit 1 Present Simple Tense.
Pronouns Pronouns (คำสรรพนาม) คือ คำที่ใช้แทนที่คำนาม
Exercise 4: Page 41.
Wh-Question.
Question Tag MRS.NITTAYA PROMJAN UDOMDARUNEE SCHOOL.
Invitations Invitations ตอนที่ 3 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
Object pronouns Aj. Ramita Temtae
Indirect Question without Question Word.
Question Tag Question Tag
Will และ Be Going To.
Question Tag Question Tag ตอนที่2 ครูรุจิรา ทับศรีนวล
 How do we improve the test?  Why do we have to improve the test?
Part of Speech Conjunction.
English for everyday use
ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
At the party ครูรุจิรา ทับศรีนวล. Communi cation Describing past events การบรรยาย เหตุการณ์ในอดีต ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
ครูรุจิรา ทับศรีนวล. Invitations Invitations Invitations.
by Sasithorn Gaysornmas
Indirect Question word
At the party ตอนที่ 1 ครูรุจิรา ทับศรีนวล ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
Passive Voice By Witchuma Singhaphukam No.40 Soytreemook Boutoom No.41
ครูรุจิรา ทับศรีนวล. สนทนา โต้ตอบ ตามสถานการณ์ ที่กำหนดให้ ได้ถูกต้อง.
ครูรุจิรา ทับศรีนวล “Room service”. “Room service”
ครูรุจิรา ทับศรีนวล Important birthdays ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
กลุ่ม rraid. What's your name. คุณชื่ออะไร = Miss Bangon Buntanoom How old are you. - คุณอายุเท่าไหร่ = Ages 36 Years What you have finished your course.
ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปึที่ 4 Grammar & Reading ครูรุจิรา ทับศรีนวล.
ประกอบการเรียนการสอน วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน 3 (อ 33101)
Noun clauses as Quoted speech Versus Reported speech
Present Continuous Tense
Pronoun คือ คำที่ใช้แทนคำนาม แบ่งออกเป็น
Verb to have (have, has)
ยินดีต้อนรับเข้าสู่กิจกรรมการ เรียนการสอน โดยใช้สื่อประสม Power Point จัดทำโดย นางไพเราะ มาตะราช โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ อ. เมือง จ. กาญจนบุรี สพท. กจ.
By T’ Sumana Hanlamyuang. 1. First conditional or real condition ประโยคเงื่อนไขแบบที่ 1 ใช้เมื่อต้องการ แสดงเงื่อนไขที่ตั้งไว้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะ.
By T’Sumana Hanlamyuang
แบบฝึกหัด Relative clauses
UNIT 1 A1 Hello, Mr. Jones Part I.
D 2 E 1 S E M N G ม. I G I T Grammar A L 4.0.
D I G I T A L 4.0 Pronoun ENG M.1 Sem. 1 Grammar
สื่อการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ชุดฝึกเขียนสรุป (Writing Summary)
Mrs. Rattanaporn Lawsawas Ban Huaybong School, Nakhonsawan
คำเทศนาหัวข้อที่ 3: ประกาศข่าวดี SERMON 3: PREACHING GOOD NEWS
Modals-Ability By T’Sumana Hanlamyuang.
By T’Sumana Hanlamyuang
Letter of Condolence & Sympathy จดหมายแสดงความเสียใจและความเห็นใจ
1. นี่เป็นสิ่งที่พระเยซูทรงทำ พระองค์ทรงรักษาทุกคน ที่เจ็บป่วยให้หายดี
เรื่องราวของวันคริสต์มาส
Adjective Clause (Relative Clause) An adjective clause is a dependent clause that modifies head noun. It describes, identifies, or gives further information.
อย่ากลัวสิ่งใดเลย Fear Nothing. อย่ากลัวสิ่งใดเลย Fear Nothing.
Reported Speech Statements
Direct Speech Vs Indirect Speech
Modals-Certainly (must, can't)
ตอนที่ 3: ท่านเป็นผู้ชอบธรรมได้อย่างไร?
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
1 ยอห์น 1:5-7 5 นี่เป็นเรื่องราวซึ่งเราได้ยินจากพระองค์และประกาศแก่ท่าน คือพระเจ้าทรงเป็นความสว่าง ในพระองค์ไม่มีความมืดเลย 6 ถ้าเราอ้างว่ามีสามัคคีธรรมกับพระองค์แต่ยังดำเนินในความมืด.
คุณลักษณะของเพื่อนที่ดีที่สุด
1 E 1 S E M N G Adverb of frequency
ที่มาและหน่วยงานกาชาดต่างๆ
By T’Sumana Hanlamyuang
การสร้างประโยคง่ายๆจากคำศัพท์
Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน.
แล้วไงเกี่ยวกับความจริง What About Truth?
1. พระเยซูทรงต้องการให้เราเป็น เหมือนพระองค์
2 E 2 S E M N G Requests and Replies
บทที่ 2 การวัด.
บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง ภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพ
Help please me. I want to go home
ใบสำเนางานนำเสนอ:

A, An, The By T’Sumana Hanlamyuang

Article (A/ An/ The) Article คือคำนำหน้านามมีทั้งหมด 3 ตัวคือ “a/ an/ the” แบ่งเป็นการใช้อย่างกว้าง ๆ 3 แบบคือใช้ a/ an นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง และใช้ “the” นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์หรือพหูพจน์ และคำนามนับไม่ได้ที่ชี้เฉพาะเจาะจง  

การใช้ A และ An “A” ใช้นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะหรือสระที่ออกเสียงพยัญชนะ เช่น a university, a student ส่วน “An” ใช้นำหน้าคำนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ (a, e, i, o, u) หรือพยัญชนะที่ออกเสียงสระ เช่น an eagle, an hour 1. ใช้นำหน้าคำนามนับได้เอกพจน์เมื่อมีความหมายว่า “หนึ่ง” (แต่ในภาษาไทยอาจไม่จำเป็นต้องแปลว่า “หนึ่ง” เสมอไป) โดยไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นอันไหนหรือคนไหน ตัวอย่าง John is a good friend of mine. The following story is an interesting one.

2.ใช้กับคำนามเอกพจน์ที่แสดงอาชีพ เช่น an actress, an actor, a lawer, a dentist, a singer และใช้กับคำนามเอกพจน์ที่ตามหลัง v. to be ตัวอย่าง He is a student. A cheerful person is always in a good mood.

3. ใช้กับคำนามเกี่ยวกับเวลา ราคา และการชั่ง/ ตวง/ วัด มีความหมายเท่ากับ “Per (ต่อ)” เช่น 30 baht an hour, 2 baht a litre, three times a week. ตัวอย่าง Rome was not built in a day. It costs 5 baht a kilo. ** แต่ถ้าเป็นการบอกปริมาณ เช่น เป็นกิโล/ หลา/ เมตร/ โหล/ ลิตร/ ปอนด์ จะต้องใช้ “the” นำหน้าหน่วยที่บอกปริมาณเหล่านี้ “by + the + kilo/ yard/ metre/ dozen/ litre/ pound” ตัวอย่าง Petrol in Thailand is sold by the litre.  

4. ใช้นำหน้าคำนามที่ตามหลังกริยา ซึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนเติมเต็มของกริยา ไม่ใช่กรรมของกริยาดังกล่าว ตัวอย่าง He became a bachelor. 5. ใช้กับวลีบางวลีต่อไปนี้ be a pity                      at a distance                take a walk                  keep in a secret be a shame                   at a discount                take an interest            have a good time in a hurry                     in a sentence                make a speech on an average ตัวอย่าง I am in a hurry to get to my class. It’s a shame that he said it.  

6. ใช้ “a” นำหน้า “large/ small/ minor + part of” หมายเหตุ : หากหน้า “part of” เป็น “greater/ larger/ greatest/ largest” จะต้องใช้ “the” นำหน้า “part of” แต่ถ้าหน้า “part of” ไม่มีคุณศัพท์เหล่านี้ไม่ต้องเติม article หน้า “part of” ตัวอย่าง Part of the book is torn. I forgot a small part of my lecture. Ubol’s father gave her the largest part of his wealth.  

7. ใช้ “a” นำหน้า “little” (ใช้กับนานนับไม่ได้) และ “few” (ใช้กับนามนับได้พหูพจน์)   a little/ a few = มีน้อย แต่พอมีอยู่บ้าง       little/ few = มีน้อยจนแทบจะไม่มีเลย   ตัวอย่าง There are a few mistakes in his papers.  

8. ใช้นำหน้าคำนามที่เป็นชื่อโรคเกี่ยวกับอาการปวดหัวตัวร้อน หรือมีไข้เล็กๆ น้อย ๆ Have + a + headache/ cough/ cold/ fever/ pain/ toothache/ heart attack ตัวอย่าง I had quite a headache yesterday. หมายเหตุ : โรคที่เกี่ยวกับความรู้สึก ซึ่งใช้ในความหมายพหูพจน์ จะใช้ “the” นำหน้า เช่น the creeps(ความรู้สึกขยะแขยง), the horrors (ความกลัวมาก ๆ), the dumps (ความมีอารมณ์ขุ่นมัว) : ถ้าเป็นชื่อโรคทั่ว ๆ ไปจำไม่มี article นำหน้า เช่น hives (ลมพิษ), cancer, AIDS, Malaria ตัวอย่าง Whenever he eats shrimp, he gets hives. (Shrimp = กุ้งฝอย) Many people are afraid of AIDS.

9. ใช้นำหน้าคำนามที่เป็นจำนวน เช่น a couple, a score, a dozen, a hundred, a thousand, a million, half a dozen ตัวอย่าง I saw USA a couple of weeks ago.   10. ใช้นำหน้าคำอวยพรในโอกาสต่าง ๆ เช่น Merry Christmas, Happy New Year ตัวอย่าง I wish you a Merry Christmas and a Happy New Year.  

11. ใช้ a, an นำหน้านามเอกพจน์นับได้ซึ่งไปเรียงตามหลังคำคุณศัพท์โดยมี such อยู่ข้างหน้า   Such + a + Adjective + Noun     ตัวอย่าง It is such a hot day he can’t work. มันเป็นวันที่ร้อนเสียจนเขาทำงานไม่ได้ It is such an interesting movie I can’t stand seeing. มันเป็นภาพยนตร์ที่น่าสนใจจนผมอดดูไม่ได้  

การใช้ The 1. ใช้นำหน้าคำนามที่ชี้เฉพาะเจาะจง โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมี Relative Clause (อนุประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “who/ whom/ which/ whose/ that/ where”) อนุประโยคหรือบุรพบทวลี (วลีที่ขึ้นต้นด้วยคำบุรพบท เช่น in/ on/ at) มาขยายอยู่ข้างหลังคำนามนั้น เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่าหมายถึงใครคนใดหรืออย่างไร ตัวอย่าง - The person whom you know is my music teacher. - The flowers which Jim has picked up are new in the vase. - Adam, the football coach, will resign this year.

2. ใช้นำหน้าคำนามที่ผู้พูดและผู้ฟังรู้จักกันดีว่าหมายถึงใครคนใดหรืออะไร จนไม่ต้องอธิบายอีก หรือบางคำนามนั้นกล่าวมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ตัวอย่าง - The man is here. - That’s a book. Please put the book back on the shelf.   3. ใช้นำหน้าคำนามที่ต้องการจะย้ำหรือเน้น หรือมีค่าควรที่จะกล่าวถึง ตัวอย่าง - He made the speech of the occasion. - The basis of all effective oral and written work is the correct sentence.  

4. ใช้นำหน้าคำคุณศัพท์เพื่อทำให้คำนั้นกลายเป็นคำนาม ตัวอย่าง       the good (คนดี / ความดี)          the poor (คนจน/ ความยากจน) the happy (ความสุข)                 the wicked (คนชั่ว/ ความชั่วร้าย) The good is preferable to the beautiful. The lucky always get what they want.   5. ใช้นำหน้าคำคุณศัพท์ในขั้นสูงสุด ตัวอย่าง He is the best student in class. I will give you the lowest price I can.

6. ใช้นำหน้าชื่อคนหรือชื่อสกุลที่มีความหมายพหูพจน์ เช่น the smiths (ครอบครัวสมิธ) the Miss Alexanders (นางสาวอเล็กซานเดอร์ หลายคน) ตัวอย่าง The Smiths left for Europe yesterday. Have you heard of the Miss Alexanders’ arrival?

กรณีที่ไม่ใช้ Article (ที่มีในข้อสอบบ่อย ๆ) ไม่ใช้นำหน้าคำนามนับไม่ได้ เช่น Light      Blood        Butter        Cheese Coffee Food Life       Beer      Money Bread  Milk          Shrimp Water    Ice tea Music  Time     Oil     Sugar Meat       Silk        Salt        Pepper Earth (ดิน)

Ex. Fish and chips, ham and eggs, spaghetti and meat balls are single dishes in American restaurants. (chips = มันเทศที่หั่นเป็นชิ้นๆ) ***ยังไม่หมดนะคะ ยังมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำนำหน้านามอีกเยอะที่เราต้องศึกษา สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากความรู้อื่นๆ ค่ะ สู้ๆ ขยันๆ ค่ะ***

Complete the following sentences with A, AN or THE: 1. We have … Complete the following sentences with A, AN or THE: 1. We have ….. beautiful garden. ….. garden is full of roses. 2. Is fencing ….. popular sport in ….. world? No, it isn’t. 3. I'd like ….. glass of orange juice please. 4. Can you give me ….. envelope, please?    Certainly. Oh! Where’s ….. envelope? 5. Is there ….. post office near here? 6. They’re at ….. cinema. 7. My brother is in ….. classroom. 8. Would you like ….. hamburger? 9. Selena has got ….. cat.     What is ….. cat’s name? 10. ….. school is very cold. Hasn’t it got ….. central heating system?     It has, but ….. central heating is broken down.

Complete the following sentences with A, AN or THE: 1 Complete the following sentences with A, AN or THE: 1. We have a beautiful garden. The garden is full of roses. 2. Is fencing a popular sport in the world? No, it isn’t. 3. I'd like a glass of orange juice please. 4. Can you give me an envelope, please?    Certainly. Oh! Where’s the envelope? 5. Is there a post office near here? 6. They’re at the cinema. 7. My brother is in the classroom. 8. Would you like a hamburger? 9. Selena has got a cat.     What is the cat’s name? 10. The school is very cold. Hasn’t it got a central heating system?     It has, but the central heating is broken down.

Complete the following sentences with A, AN or THE: 1 Complete the following sentences with A, AN or THE: 1. Danny wanted _____new bicycle for Christmas. a) A b) AN c) THE 2. Jennifer tasted _____birthday cake her mother had made. a) A b) AN c) THE 3. The children have _____new teacher called Mr. Green. a) A b) AN c) THE

4. All pupils must obey _____rules. a) A b) AN c) THE 5 4. All pupils must obey _____rules. a) A b) AN c) THE 5. Dad turned on _____radio to listen to _____news. a) A/A b) A/THE c) THE/THE 6. Alex is in Boston studying for _____MBA. a) A b) AN c) THE

7. The teacher read _____interesting article from the newspaper 7. The teacher read _____interesting article from the newspaper. a) A b) AN c) THE 8. There was _____ huge crowd of people outside the church. a) A b) AN c) THE 9. Julie talked for _____ hour about her school project. a) A b) AN c) THE

10. _____ European expert was invited to speak to the committee 10. _____ European expert was invited to speak to the committee. a) A b) AN c) THE 11. The Mississippi river is in _____ United States of America. a) No article b) AN c) THE 12. It would help us if you gave _____ honest opinion. a) A b) AN c) THE

----------Answers---------- 1. (a)   2. (c)   3. (a)   4. (c)   5. (c)   6. (b)   7. (b)  8. (a)   9. (b)   10. (a)   11. (c)   12. (b)