ก ครูวิเชาว์เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้าน กองทุนและธุรกิจชุมชน สามารถบริหารจัดการกองทุน และกลุ่มอาชีพ ด้วยกระบวนการ ๓ สร้าง คือ 1. การสร้างคน โดยการให้ความรู้ ปลูกจิตสำนึก และสร้างการมีส่วนร่วม 2. การสร้างองค์กร โดยการจัดตั้งกองทุนชุมชนและ กลุ่มอาชีพ 3. การสร้างภูมิคุ้มกัน โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อ อนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริประเพณีวัฒนธรรมของชุมชน รวมถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ข
ชื่อ นายวิเชาว์ นามสกุล สุนัน ตา เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย เกิดเมื่อ วันที่ 18 เดือน ตุลาคม พ. ศ อายุ 59 ปี ภูมิลำเนา บ้านโพธิ์ทอง เจริญ ต. เชิงดอย อ. ดอยสะเก็ด จ. เชียงใหม่ ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 94 หมู่ 9 ตำบล สันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี สาขา สังคมศึกษา ชื่อ นายวิเชาว์ นามสกุล สุนัน ตา เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย เกิดเมื่อ วันที่ 18 เดือน ตุลาคม พ. ศ อายุ 59 ปี ภูมิลำเนา บ้านโพธิ์ทอง เจริญ ต. เชิงดอย อ. ดอยสะเก็ด จ. เชียงใหม่ ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 94 หมู่ 9 ตำบล สันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือ วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี สาขา สังคมศึกษา 1
2 วิสัยทัศน์ “ รู้จักประสาน ทำงานด้วยใจ รัก ” “ ยึดคุณธรรมมาเป็นหลัก แน่ หนักไม่เอนเอียง ” ปรัชญา “ บารมีเกิดจากความดีที่สะสม ” คติการทำงาน “ ตั้งใจเป็นฐาน สร้างงานให้ เป็นหนึ่ง ” วิสัยทัศน์ “ รู้จักประสาน ทำงานด้วยใจ รัก ” “ ยึดคุณธรรมมาเป็นหลัก แน่ หนักไม่เอนเอียง ” ปรัชญา “ บารมีเกิดจากความดีที่สะสม ” คติการทำงาน “ ตั้งใจเป็นฐาน สร้างงานให้ เป็นหนึ่ง ”
3 ครูวิเชาว์เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกองทุนและ ธุรกิจชุมชน สามารถบริหารจัดการกองทุนและกลุ่มอาชีพ ด้วยกระบวนการ ๓ สร้าง คือ ๑. การสร้างคน โดยการให้ความรู้ ปลูกจิตสำนึก และสร้างการมีส่วนร่วม ๒. การสร้างองค์กร โดยการจัดตั้งกองทุนชุมชน และกลุ่มอาชีพ ๓. การสร้างภูมิคุ้มกัน โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริประเพณีวัฒนธรรมของชุมชน รวมถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ครูวิเชาว์เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกองทุนและ ธุรกิจชุมชน สามารถบริหารจัดการกองทุนและกลุ่มอาชีพ ด้วยกระบวนการ ๓ สร้าง คือ ๑. การสร้างคน โดยการให้ความรู้ ปลูกจิตสำนึก และสร้างการมีส่วนร่วม ๒. การสร้างองค์กร โดยการจัดตั้งกองทุนชุมชน และกลุ่มอาชีพ ๓. การสร้างภูมิคุ้มกัน โดยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริประเพณีวัฒนธรรมของชุมชน รวมถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
4 1.1 ให้ความรู้ใหม่ ๆ โดยการเล่าสู่กันฟังบ้าง เพื่อให้ผู้คน ได้สัมผัสข้อมูลใหม่ ๆ และเสนอแนวทางวิเคราะห์และ สังเคราะห์ข้อมูล ก่อนการสรุปเป็นความรู้ 1.2 ชี้นำให้เห็นถึงความก้าวหน้าของผู้อื่นและนำมา วิเคราะห์ประยุกต์ใช้ประโยชน์ 1.3 การจัดทำกิจกรรมใด ๆ ส่งเสริมให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะ ทำให้เกิดผลสำเร็จ ให้ผู้อื่นยอมรับผลงาน เพื่อสร้างความ ภาคภูมิใจในตนเอง เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเอง ส่งเสริมให้เกิดความกล้าที่จะทำกิจกรรมอย่างมั่นใจ
1.4 ส่งเสริมให้มีการจัดทำประชาวิจารณ์ ให้มีการรับฟังความ คิดเห็นจากผู้อื่น และกล้าที่จะเสนอความคิดเห็นของตนเอง ซึ่งเป็นการจัดสังคมตามแบบแนวราบ ทุกคนมีสิทธิมีเสียงเท่า เทียมกัน จนเกิดเป็นประชามติ ซึ่งต่างจากแนวดิ่ง หรือแนวการ สั่งการจากเบื้องบน ทำให้เห็นคุณค่าของตนเอง ซึ่งหมายถึงว่า ทุกคนมีส่วนร่วมทุกกรณี 5
6 2.1 กองทุนต่าง ๆ การจัดทำกิจรรมใด ๆ ก็ตามต้องมีแผนการทำงาน มี ปัจจัยหลัก เช่น คน รูปแบบ การบริหาร และที่สำคัญ คือ เงิน จึงต้องพยายามจัดตั้งกองทุนขึ้น โดยเริ่มจาก กองทุนเล็ก ๆ จนกว่าจะเกิดเป็นผล เป็นการดำเนินกิจกรรม เพื่อเป็นตัวอย่าง จนเกิดการตั้งกองทุนอื่น ๆ ตามมาทีหลัง เช่น - กองทุนพัฒนาหมู่บ้าน เพื่อแม่ศรีพันธ์ แม่ใย จัดตั้งปี กองทุนไม้คำสลี ก่อตั้งปี กลุ่มออมทรัพย์สัจจะ เพื่อกรผลิต ก่อตั้งปี กองทุนพัฒนาธันวา 50 ก่อตั้งปี สถาบันการจัดการเงินทุน ชุมชน ก่อตั้งปี 2551
7 2.2 กลุ่มอาชีพต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการประสานกันในทางแนวราบ และให้มี รายได้ สำหรับบุคคล จึงจัดตั้งกลุ่มอาชีพ ให้ทุกคนสมัครเป็น สมาชิกตามความสมัครใจ เมื่อมีหลายกลุ่มจึงเป็นการ ประสานกัน เหมือนเช่นใยแมงมุม กลุ่มอาชีพที่ตั้งขึ้นมี กลุ่มอาชีพขนมจีน ผลิตเส้นขนมจีนเพื่อจำหน่าย กลุ่มอาชีพแคบหมู แหนมหมู ผลิตแคบหมูเมือง แหนมหมูเพื่อจำหน่าย กลุ่มอาชีพดอกไม้ ใบตอง จัดบริการด้านพิธีการ สถานที่และดอกไม้งานพิธีต่าง ๆ กลุ่มเกษตรกร เลี้ยงปลา - กบ เลี้ยงปลาดุก - กบ ไว้ บริโภคและขาย
8 3.1 วัฒนธรรมและประเพณีต่าง ๆ ถือเป็นเส้นใยสำคัญ ในการที่จะหลอมรวมผู้คนให้มีความสามัคคีกันในหมู่คณะ จึง เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะประคับประคองกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในขอบเขต และสอดแทรกคุณธรรมที่เป็นรูปธรรมให้ จับต้องได้ พร้อมทั้งปฏิบัติอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เช่น ประเพณีขอพร หรือ ดำหัวผู้ใหญ่ ประเพณีส่งเคราะห์บ้าน ประเพณีทำบุญประจำปี ประเพณีสรงน้ำพระธาตุ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง การจัดฌาปณกิจผู้เสียชีวิต ทุกขั้นตอนจะปฏิบติ เช่นเดียวกันหมด ไม่ว่าผู้เสียชีวิตจะยากดีมีจน หรืออยู่ใน สถานะเช่นใด
9 3.2 กิจกรรมฮ่วมฮักฮ่วมแปง กิ๋นข้าวแลงโตยกั๋น ใน โอกาสที่เหมาะสม จะมีการนัดหมายนำข้าวปลาอาหาร มาร่วม รับประทานพร้อมกัน ถือโอกาสพบปะพูดคุยกัน แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกัน เหมือนมีการประชุมนอกรอบ ได้หลากหลาย ความคิดเห็น ไม่เกิน 3 ทุ่มก็เลิก แยกย้ายกันกลับบ้าน 3.3 กิจกรรมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปัน ให้มี การปลูกพืชผักสวนครัวหน้าบ้าน เพื่อให้ผู้อื่นเก็บกิน เรียกว่า “ เอื้ออาทร ” ทุกคนเก็บไปกินได้ ไม่ต้องขอ