เตชิษฐ์ เรือง ไพศาล
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้า กระแสตรงทำงาน ข้อมูลภายในเป็นข้อมูลดิจิตอล ….. แทนข้อมูลเหล่านี้ด้วยแรงดันไฟฟ้า ข้อมูลเหล่านี้เป็นคำสั่งและข้อมูลให้แก่ โปรแกรมต่างๆ คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างไร
เริ่มเปิดเครื่อง ไฟฟ้าวิ่งเข้าไปใน Power Supply ผ่านไปบน เมนบอร์ด CPU เริ่มทำงานที่ตำแหน่งของ BIOS BIOS เริ่มทำงาน ทำการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ พื้นฐานต่างๆ VGA, RAM, H.D., F.D., ค่า Config ใน CMOS ค้นหา Bootstrap Program ใน Master Boot Record โหลดข้อมูลจาก Master Boot Record เพื่อ โหลด O.S. O.S. เริ่มทำงาน เมื่อเริ่มเปิดเครื่อง
รอรับอินพุทจากผู้ใช้ Command Line, Graphic ทำงานตามคำสั่งนั้น รันโปรแกรมต่างๆ ควบคุมฮาร์ดแวร์ เรื่องความปลอดภัย, ความถูกต้องของข้อมูล, เสถียรภาพ จะทำงาน โดยวนรอบไปเรื่อยๆจนกว่าจะ Shutdown ดังนั้น OS ก็เป็นโปรแกรมเหมือนกัน แต่จะได้ ทำงานบ่อยครั้งที่สุด เมื่อ OS ทำงาน
BIOS เป็น Chip ตัวหนึ่งที่อยู่บน Mainboard หน้าที่ของมันได้แก่ การทำงานของ BIOS
เป็นการทดสอบระบบสำหรับส่วนที่จำเป็น สำหรับการทำงานของ PC เมื่อเปิดเครื่องจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนของ POST ก่อน POST (POWER-ON SELF TEST) VGA -> RAM ->Keyboard->….
หลังจากที่ POST ทำงานเสร็จแล้ว BIOS ก็ จะอ่านค่าการเซ็ทต่างๆจาก CMOS เพื่อ กำหนด Configuration ต่างๆให้กับระบบ การทำงานของโปรแกรม SETUP
BIOS จะโหลดโปรแกรมใน ROM ของตนเอง เข้าไปใน RAM แล้วทำงานแบบ Resident ( อยู่ใน RAM ตลอด ) Interrupt Vector โปรแกรมที่ใช้ติดต่อกับฮาร์ดแวร์พื้นฐานในระดับ ล่าง (System Call) BIOS PROGRAM
เมื่อรันการทำงานของโปรแกรม Setup แล้ว ก็จะเข้าสู่การบูท (Bootstrap) โดยจะมี หลักการดังนี้ 1. อ่านโปรแกรมที่ Sector แรกของสื่อ (Disk) (Boot Sector) เข้ามาไว้ใน RAM แล้วให้ CPU ทำงาน 2. โปรแกรมใน Boot Sector เรียกว่า Master Boot Record จะทำการบอกตำแหน่ง ของ OS. ในดิสก์ที่จะโหลดเข้ามาใน RAM แล้วเริ่มทำงาน หลังจากนี้ก็จะเป็นการทำงานของ O.S. ส่วน โปรแกรมหรือ OS สามารถเรียกใช้งาน BIOS ได้จาก Interrupt Vector และ BIOS Program การบูท
การเคลื่อนที่ของข้อมูลในระบบ หลังการบูท
มี 2 ประเภท System Bus (CPU RAM) I/O Bus (I/O CPU) ระบบบัส
ติดต่อระหว่างอุปกรณ์ I/O กับ CPU มี 3 ประเภท ( ที่นิยม ) PCI USB SATA I/O BUS
การทำงานของ I/O BUS
การติดต่อระหว่าง I/O กับ CPU เพื่อรับ / ส่ง ข้อมูลนี้จะเป็นการติดต่อแบบ Interrupt เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงาน เนื่องจาก CPU ทำงานเร็วกว่า I/O มาก ดังนั้น เมื่อ I/O ต้องการติดต่อกับ CPU ก็จะ ส่งสัญญาณมาบอกกับ CPU และ CPU จะ หยุดงานที่กำลังทำอยู่เพื่อให้บริการ I/O ตัว นั้น การอินเทอร์รัพท์ CPU I/O Hey I want to send some. INT. O.K.
IRQ (Interrupt Request Number) เป็น หลายเลขที่แสดงว่า “ ใคร ” เป็นผู้ Interrupt เข้ามา หากไม่มี IRQ CPU ก็จะไม่รู้ว่าใครเรียกมา IRQ มีค่ามาตรฐานสำหรับอุปกรณ์พื้นฐานเช่น Keyboard หากเป็นอุปกรณ์เพิ่มเติมในสมัยก่อนเรา จะต้องเซ็ทเอง โดยการเซ็ท IRQ จะเซ็ทจาก Jumper ที่ตัวอุปกรณ์ หากเป็นสมัยนี้ที่เป็น Plug & Play ไม่ต้องทำ แบบเดิม OS จะกำหนดให้เราเอง IRQ หมายเลขแสดงการอิน เทอร์รัพท์
Start->Settings->Control Panel- >System สามารถดู IRQ ได้ใน CONTROL PANEL
การ CONFLICT ของ IRQ
อุปกรณ์ I/O ทุกตัวจะมี Controller ของ ตนเอง ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ที่ควบคุมการทำงาน ระดับไฟฟ้าและกลไกของอุปกรณ์ Device Driver เป็นโปรแกรมที่ควบคุม อุปกรณ์ I/O อีกทีหนึ่ง ( สั่งงานผ่าน Controller นั่นเอง ) อุปกรณ์พื้นฐานไม่ต้องติดตั้ง Driver เพราะ อยู่ในโปรแกรม BIOS อยู่แล้ว อุปกรณ์ที่เราต่อเพิ่มจะต้องติดตั้งโปรแกรม Driver DEVICE DRIVER
การทำงานแบบเป็นระดับชั้น ของ PC Programs Library O.S. Driver Hardware Function Call System Call Controller
เมื่อเราเปิดโปรแกรมใดๆ ให้ทำงาน มันจะโหลด คำสั่งและข้อมูลเข้าไปใน RAM และสั่งงาน CPU ให้ ทำงาน ดังนั้น หากเราเปิด โปรแกรมขึ้นมาหลาย โปรแกรมระบบก็จะช้าลง เพราะ RAM เริ่มเต็ม เมื่อ RAM เต็มจะใช้ Harddisk เข้ามาช่วย ( เรียกว่า Paging) เมื่อโปรแกรมทำงาน
พอร์ท
CPU จะติดต่อกับ I/O แต่ละตัวผ่านทาง Address เหล่านี้ ดูได้ใน Control Panel I/O ADDRESS
Q & A