สมัยโคะฟุน
สมัยโคะฟุน : เป็นสมัยหัวเลี้ยวหัวต่อจากสมัยก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยประวัติศาสตร์ : การกำเนิดอาณาจักรยามาโตะ จากจดหมายเหตุจีนและญี่ปุ่น จดหมายเหตุจีนได้แก่ เว่ยจิ ซ่งซูย์และจดหมายเหตุญี่ปุ่นได้แก่ โคชิกิและนิฮองโชกิ : การปกครองแบ่งออกเป็นประชาคมกลุ่มเล็กๆ 7,000 ถึง 10,000 หลังคาเรือน มีชนชั้นหัวหน้าปกครอง : จดหมายเหตุซ่งซูย์ (ค.ศ.420-70) กล่าวถึงตระกูลยามาโตะรวมประชาคมเข้าไว้ในอำนาจเมื่อราวศตวรรษที่ 5 : กำเนิดอาณาจักรยามาโตะ ปกครองโดยจักรพรรดิ
ลักษณะทางสังคมของอาณาจักรยามาโตะ : หลักฐานทางโบราณคดีมีสุสาน และ เครื่องประดับสุสาน : สุสาน มีลักษณะเป็นสุสานเนินดิน มีคูน้ำล้อมรอบ และสุสานก่อด้วยหิน มีระเบียงทางเดินนำสู่คูหา สุสานที่ใหญ่โตมีชื่อเสียงคือ สุสานจักรพรรดิโอชิน (ครองราชย์ ค.ศ.346- 395) วัดความยาวได้ 419 เมตร สูง 35.8 เมตร รวมคูน้ำล้อมรอบจะมีความยาวถึง 500 เมตร สุสานจักรพรรดินินโตกุ (ครองราชย์ ค.ศ. 395-427) วัดความยาวได้ 486 เมตร วัดรอบบริเวณรวมคูสามชั้นวัดได้ถึง 1,000 เมตร : เครื่องประดับภายในสุสาน มีคันฉ่องสำริด หินโค้งมะกะตะมะ เครื่องประดับภายใต้อิทธิพลจากเกาหลี เช่นมงกุฎทอง ต่างหูทอง เครื่องประดับม้า : ตุ๊กตาฮานิวะ อิทธิพลจากจีน หรือเกาหลี
สรุป สมัยยายอยและโคะฟุนเป็นช่วงเวลาที่อิทธิพลจากจีนและเกาหลีแพร่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและงานพิธีกรรมของชาวพื้นเมือง นับเป็นก้าวใหม่ของความเจริญทางอารยธรรมและเทคโนโลยี และยังเพิ่มความหรูหราให้แก่วัฒนธรรมของชาวพื้นเมืองด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ไม่อาจต้านทานกระแสธารแห่งวัฒนธรรมรุ่นใหม่พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่สูงกว่าที่พุทธศาสนานำเข้ามา รวมถึงการรับรู้ภาษาเขียนและการพัฒนาของอาณาจักรยามาโตะ ( เกียวโต นาระ และโอซากา ) ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจที่โดดเด่นขึ้นมา และเป็นตัวแปรที่กดดันให้สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และสมัยหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งประวัติศาสตร์ปิดฉากลงเหลือไว้แต่เพียงมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่