ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น AJ.2 : Satit UP
สมัยสาธารณรัฐ : ยุคคอมมิวนิสต์ : (ค.ศ. 1949 – ปัจจุบัน) ยุคแรก ยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือ เรียกกันว่ายุคโบราณ ยุคที่สอง คือ ยุคกลาง ยุคที่สาม คือ ยุคใหม่
ยุคโบราณ
ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคโบราณ ยุคหิน (Paleolithic Age) 10000 ปีมาแล้ว ยุคโจมง(Jomon period) ยุคยะโยอิ(Yayoi period) ประมาณ 300 ก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 250
ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคหิน (Paleolithic Age) - จะหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์และเก็บของป่าเป็นหลัก ยุคโจมง (Jomon period) - เกิดในช่วงประมาณ 10,000 ปีที่แล้วมา - เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินที่ประณีตมากขึ้น - ใช้อาวุธที่เป็นธนูในการล่าสัตว์ - มีการผลิตเครื่องปั้นดินเผาเอาไว้ใช้สำหรับใส่อาหาร โดยเครื่องปั้นดินเผาโจมงจะมีเอกลักษณ์ตรงที่มีลวดลายเป็นเชือกที่สวยงาม (ซึ่งเครื่องปั้นดินเผานี้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองอย่างมาตามที่บันทึกไว้ใน "นิฮงโชะกิ"(Nihonshoki) ซึ่งเป็นหนังสือเล่มแรกของญี่ปุ่น ได้กล่าวไว้ว่าประเทศญี่ปุ่นก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 มกราคม 660 ปีก่อนคริสตกาล
ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคยะโยอิ(Yayoi period) (คำว่ายะโยอินั้น เป็นชื่อของแขวงหนึ่งในเขตบุงเกียว กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่มีการค้นพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับยุคนี้) - ช่วงเวลาประมาณ 300 ก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 250 - การปลูกข้าว(เริ่มทำการเกษตรหลัก) - ตีโลหะ การทำเครื่องใช้โลหะ (มักจะใช้เครื่องมือเครื่องใช้ที่ผลิตจากเหล็กในการทำเกษตรกรรม) ซึ่งได้รับความรู้มาจากผู้อพยพชาวจีนแผ่นดินใหญ่ - ส่วนดาบที่ทำด้วยทองแดงและกระจก จะถูกใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ - การเคารพบูชาภูตผีปีศาจ - เริ่มมีการจัดแบ่งงานในการปกครอง ทำให้ช่องว่างระหว่างผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้การปกครอง
ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคยะโยอิ(Yayoi period) (ต่อ) - บันทึกทางโบราณครั้งแรกที่ปรากฏชื่อเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นคือ หนังสือจีนราชวงศ์ฮั่นเมื่อปีค.ศ. 57 (พ.ศ. 600 ) ซึ่งชาวญี่ปุ่นถูกเรียกว่าพวกวา หรือ วะ - ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 อาณาจักรที่ทรงอำนาจมากที่สุดในญี่ปุ่น คือ ยะมะไทโคะกุ(Yama-taikoku) ปกครองโดยราชินีฮิมิโกะ(Himiko) ซึ่งเคยส่งคณะทูตไปยังประเทศจีนผ่านทางเกาหลีด้วย - คาดกันว่าประเทศญี่ปุ่นเริ่มใช้ชื่อประเทศว่า "นิฮง (Nihon)" ครั้งแรก ในช่วงครึ่งหลังคริสต์ศตวรรษที่ 7 โดยพบหลักฐานในหนังสือของสาสน์ของทูตในปี ค.ศ. 701 (พ.ศ. 1244 ) ความหมายของคำว่า นิฮง มาจากการถือว่า "เป็นต้นกำเนิดของพระอาทิตย์เมื่อมองจากแผ่นดินใหญ่ของจีน" และโดยการทูตแล้ว ในสมัยนั้นถือว่าญี่ปุ่นมีฐานะเท่าเทียมกับแผ่นดินใหญ่
ยุคที่สอง หรือ ยุคกลาง
ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง ยุคคลาสสิก หรือ ยุคเริ่มอารยธรรมญี่ปุ่น - ยุคนารา(นาระ) - ยุคเฮอัง ยุคศักดินาญี่ปุ่น
ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง - การปกครองแบบโชกุนเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นและลดทอนอำนาจของจักรพรรดิลง - เป็นยุคเริ่มสมัยระบบศักดินาของญี่ปุ่น
ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง ยุคโคะฟุง - มีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณที่ราบยะมะโตะ - เป็นชื่อยุคที่ตั้งตามชื่อสุสานที่นิยมสร้างกันอย่างแพร่หลายในยุคนี้ - การถ่ายทอดอารยธรรมจากจีน - ลัทธิขงจื้อและศาสนาพุทธ เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น - การแพทย์เบื้องต้น การดาราศาสตร์ และการใช้ปฏิทิน - มีการติดต่อค้าขายกับอาณาจักรบนคาบสมุทรเกาหลีมากขึ้น - ญี่ปุ่นได้รับเอาตัวอักษรแบบจีนที่มีรากฐานมาจากอักษรภาพ มาใช้เป็นตัวกลางในการสื่อสาร ยุคอะซึกะ (ค.ศ. 592-710) - มีศูนย์กลางอยู่ที่อะซึกะ จังหวัดนะระ - ระบบการปกครองของจีนมาใช้เป็นแนวทางในการปกครอง - ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 6 ราชวงศ์สุยของจีน ญี่ปุ่นส่งคณะราชทูต ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับจีน ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้มีผลให้ญี่ปุ่นรับเอานวัตกรรมจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาอย่างมากมาย
ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง ยุคนะระ - ตั้งเมืองหลวงถาวรแห่งแรกของญี่ปุ่นขึ้นที่ เฮโจเกียว (ซึ่งเป็นเมืองที่สร้างเลียนแบบมาจากเมืองฉางอาน เมืองหลวงของประเทศจีน) - ยังคงพบเห็นวัฒนธรรมที่เป็นศิลปะอิทธิพลแบบจีน
ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง ยุคเฮอัง (ค.ศ. 794-1192) - การล่มสลายของยุคนะระ - ศูนย์กลางอยู่ที่ เมือง เฮอังเกียว (Heiankyou) (หรือเกียวโตในปัจจุบัน) - ยุคนี้ อารยธรรมญี่ปุ่นเริ่มที่จะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น (มากกว่าการลอกเลียนวัฒนธรรมของจีนแบบที่แล้วๆมา) - เป็นยุคคลาสสิคของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโดยแท้ - ศิลปะ อารยธรรมถูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น - ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 อำนาจการปกครองตกไปอยู่ในมือของตระกูลฟุจิวะระ เกิดการต่อสู้ของตระกูลนักรบต่างๆเพื่อแย่งชิงอำนาจ โดยเฉพาะตระกูลมินะโมะโตะ(Minamoto) และตระกูลไทระ ในที่สุดตระกูลมินะโมะโตะ
ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง ยุคคะมะกุระ (ค.ศ. 1192-1333) - เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 1728 (ค.ศ. 1185) - อำนาจการปกครองตกอยู่ในตระกูลมินะโมะโตะ(Minamoto) - อำนาจของการการปกครองตกอยู่ในตำแหน่งโชกุน (ด้วยความที่พระจักรพรรดิ์อ่อนแอ โชกุนเลยยึดอำนาจเบ็ดเสร็จปกครองญี่ปุ่นทั้งหมด โดยยังคงมีพระจักรพรรดิ์อยู่ด้วยแต่ไม่มีอำนาจในการปกครองอะไร) - แนวคิดเรื่องความกล้าหาญและการรักในเกียรติยศตามวิถีชีวิตของซามูไร เป็นที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก (เป็นยุคที่ ซามูไร เฟื่องฟู) - บ้านเมืองของญี่ปุ่นปกครองโดยชนชั้นปกครองที่รองลงมาจากโชกุนอีกที ที่เรียกกันว่า ไดเมียว - ค.ศ. 1213 (พ.ศ. 1761) อำนาจการปกครองก็ตกไปอยู่ในมือของตระกูลโฮโจแทน - กองทัพมองโกล(สมัยราชวงศ์หยวน)ได้บุกเข้าทำสงครามกับตอนเหนือของเกาะคิวชู
ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) ยุคที่ 2 หรือ ยุคกลาง ยุคมุโระมะจิ (ค.ศ. 1392-1573) - ชาวโปรตุเกส ซึ่งเป็นชาวตะวันตกกลุ่มแรก ก็ได้เริ่มเข้ามาสู่ญี่ปุ่น - การปกครองระบอบโชกุนเกิดการเสื่อมถอยลงในยุคนี้เช่นกัน และทำให้เกิดเป็นสงครามกลางเมืองที่กินเวลายาวนานกว่า 100 ปี ยุคอะซุจิโมโมะยะมะ - ยุคนี้เป็นยุคสั้นๆ ที่มีการพัฒนาด้านสิ่งทอ เซรามิก ภาพวาด เครื่องเงิน และอุปกรณ์เกี่ยวกับชา
ยุคที่สาม หรือ ยุคใหม่
ยุคที่สาม (ค.ศ. 1603 - ปัจุบัน ) ยุคที่สาม (ค.ศ. 1603 - ปัจุบัน ) ยุคที่ 3 หรือ ยุคใหม่ แบ่งออกเป็น 2 ยุค ย่อย - ยุคใกล้(ยุคเอโดะ) - ยุคปัจจุบัน (สมัยเมจิเป็นต้นมา) - ในยุคนี้ประเทศญี่ปุ่นเปิดประเทศแลทำการติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศมากยิ่งขึ้น - โชกุนและไดเมียว ถือเป็นผู้ที่ไม่มีอำนาจทางการปกครอง
ยุคที่สาม (ค.ศ. 1603 - ปัจุบัน ) ยุคที่สาม (ค.ศ. 1603 - ปัจุบัน ) ยุคเอะโดะ - เป็นจุดเปลี่ยนของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่สำคัญเป็นอย่างมาก - โชกุนที่ชื่อ Toyotomi Hideyoshi สูญเสียอำนาจให้กับตระกูล Tokugawa ทำให้ตระกูล Tokugawa จึงขึ้นครองอำนาจแทน โดยมี Ieyasu Tokugawa เป็นโชกุนคนแรก - ย้ายเมืองหลวงจาก เกียวโต มาเอโดะ(Edo)(หรือโตเกียวในปัจจุบันนี้) ในปี ค.ศ. 1603 - โชกุนอิเอะยะสึ โตกุงะวะ - สร้างแบบแผนทางการเมืองและสังคมขึ้นมาใหม่ - การหลั่งไหลเข้ามาของชาวยุโรปในยุคนี้ - ญี่ปุ่นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นอย่างมาก - ชาวญี่ปุ่นบางคนโดยเฉพาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์กันเป็นจำนวนมากจนโชกุนต้องมีคำสั่งห้ามเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในประเทศเพื่อระแวงศาสนาคริสต์ และห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ยกเว้นกลุ่มพ่อค้ากลุ่มเล็กๆ ชาวเนเธอร์แลนด์ - ทำการปิดประเทศ 265 ปี (ค.ศ. 1603 – 1868) - ไม่รับอารยธรรมอิทธิพลจากภายนอกและให้ญี่ปุ่นมีความเป็นตัวของตัวเอง
ยุคกลาง (ค.ศ. 250 - ) สมัยเมจิ(Meiji) - ในปี ค.ศ. 1853(พ.ศ. 2396) สหรัฐอเมริกาสามารถจูงใจญี่ปุ่น ให้ลงนามในสนธิสัญญาเพื่อผูกสัมพันธไมตรีกับประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ และในปีเดียวกันนั้นเอง ญี่ปุ่นได้ทำสนธิสัญญากับประเทศรัสเซีย อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ ตามมาด้วย ซึ่งการกดดันของต่างชาติ - การปิดประเทศของญี่ปุ่นก็ต้องมีอันสิ้นสุดลง เมื่อกองเรือสหรัฐอเมริกา เอาเรือที่มีแสนยานุภาพสูงมากมาบังคับให้ญี่ปุ่นต้องเปิดประเทศ โดยกองทัพอเมริกาได้ บังคับให้ญี่ปุ่นเซ็นต์สัญญาเปิดประเทศในปี ค.ศ. 1868 - หลังเปิดประเทศอิทธิพของโชกุนก็หมดบทบาทลง และ คืนอำนาจให้กับพระจักรพรรดิพระจักรพรรดิ์จึงกลับมามีอำนาจปกครองประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง - การสิ้นสุดของอำนาจของตระกูลโตกุกะวะ (เป็นการสิ้นสุดการมีอำนาจของโชกุนเหนือพระจักรพรรดิ) - ทำให้ระบบศักดินาของโชกุนโตกุงาวะสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2410 (ค.ศ. 1867) - การเปิดประเทศ - เปลี่ยนชื่อจาก Edo มาเป็น Tokyo ที่มีความหมายว่า เมืองหลวงแห่งทิศตะวันออก - การเสื่อมอำนาจของตระกูลโตกุกะวะ + อำนาจโชกุนหมดลง + การเปิดประเทศ + เปลี่ยนชื่อจาก Edo มาเป็น Tokyo เรียกช่วงเวลานี้ว่า Meiji Restoration Period ต่อจาก Edo Period
ยุคกลาง (ค.ศ.) สมัยเมจิ(Meiji) - สมัยเปิดประเทศ - พัฒนาประเทศให้เข้าสู่ยุคของอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว - เปลี่ยนชื่อจาก Edo มาเป็น Tokyo ที่มีความหมายว่า เมืองหลวงแห่งทิศตะวันออก - พัฒนาระบบการเมือง - ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ตั้งคณะรัฐมนตรี และสภาบันนิติบัญญัติระบบ 2 สภา ขึ้นเพื่อปกครองบ้านเมือง แทนการปกครองแบบเดิมที่เป็นระบบศักดินา - ญี่ปุ่นเข้าร่วมสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ซึ่งชัยชนะที่ญี่ปุ่นได้รับ ทำให้ญี่ปุ่นยึดครองไต้หวัน - ญี่ปุ่นก็ยังได้รับชัยชนะในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น และสามารถยึดครองเกาะแซคคาลินตอนใต้มาครอบครอง - หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ประเทศญี่ปุ่นก็กลายเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก สมัยไทโช และโชวะ - สภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำไปทั่วโลก หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 - พรรคการเมืองทั้งหมดก็ยุบรวมกันเป็น ‘พรรคการเมืองแห่งชาติ’ ซึ่งมีหน้าที่ในการปกครองญี่ปุ่นในเวลาต่อมาและนำญี่ปุ่นเป็นผู้รุกรานในสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 - เมื่อญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ค.ศ. 1945 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในลงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นจึงจำเป็นต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายสัมพันธมิตรที่นำโดย พลเอกดักลาส แม็คอาเธอร์ ของสหรัฐอเมริกาญี่ปุ่นต้องยินยอมทำตามข้อกำหนดต่างๆมากมายในฐานะที่ตนนั้นเป็นฝ่ายแพ้สงคราม เช่น ห้ามมีกองกำลังปกป้องประเทศ และสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้กับญี่ปุ่น เป็นต้น - การฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจหลังสงครามโลก ญี่ปุ่นก็ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและชาติอื่น - หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นเน้นในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการศึกษา สนับสนุนการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม หรือเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ญี่ปุ่นสามารถพัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างรวดเร็ว ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากการแพ้สงครามเท่านั้น ประเทศญี่ปุ่นสามารถฟื้นตัวเองกลับมายืนขึ้นอย่างสง่าผ่าเผยได้อีกครั้ง พร้อมกับการเป็นประเทศที่มีบทบาทในหมู่ประชาคมระหว่างประเทศที่มากขึ้นด้วย - GDP ของญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็ว จนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา และที่ 1 ของเอเชีย มายาวนาน จนถึงศตวรรษที่ 21 จึงถูกจีนแซงหน้าไปไม่นานมานี้ - ญี่ปุ่นสามารถชำระเงินค่าปฏิกรรมสงครามได้อย่างครบถ้วนภายในกลางทศวรรษที่ 1960 ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 20 ปี - จนเมื่อถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 รัฐบาลญี่ปุ่นก็เริ่มขยายความช่วยเหลือเข้าไปให้แก่ประชาคมโลก เนื่องจากญี่ปุ่นมีกำลังที่เพียบพร้อม ยุค มัยเฮเซ - ในปี ค.ศ. 1989 จักรพรรดิฮิโระฮิโตะได้เสด็จสวรรคตไป ทำให้จักรพรรดิอะกิฮิโตะขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่แทน และช่วงเวลาดังกล่าวนี้ก็ถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคโชวะ และหลังจากนั้น ยุคเฮเซ
ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) ยุคโบราณ ( ก่อนประวัติศาสตร์ – ค.ศ. 250 ) https://www.wonderfulpackage.com/article/v/105/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1 http://www.somsiritours.com/?ContentID=ContentID-100529102124223 http://www.siam.today/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/ http://www.japan-in-trachoo-view.com/japan-history-in-a-very-short/ https://en.wikipedia.org/wiki/History_of_Japan https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99 http://lms.thaicyberu.go.th/officialtcu/main/advcourse/presentstu/course/ww523/krutao/krutao-web2/contents/topic.htm