ความเชื่อที่มีการประพฤติตาม ตอนที่ 3: ความเชื่อที่มีการประพฤติตาม Part 3: Faith In Action
1. ความเชื่อจำเป็นต้องมี การประพฤติตาม ยากอบ 2:14-23 “พี่น้องทั้งหลาย ถ้าคนหนึ่งอ้างว่ามีความเชื่อแต่ไม่สำแดงเป็นการกระทำจะมีประโยชน์อะไร? ความเชื่อแบบนี้จะช่วยเขาให้รอดได้หรือ? สมมุติว่าพี่น้องชายหญิงคนใดขาดแคลนเสื้อผ้าและอาหารประจำวัน ถ้าผู้ใดในพวกท่านพูดกับเขาว่า “ไปเถิด ขอให้ท่านเป็นสุข รักษาตัวให้อบอุ่นและอิ่มหนำเถิด” แต่ไม่เอื้อเฟื้อปัจจัยเลี้ยงชีพแก่เขาจะมีประโยชน์อันใด? เช่นกันความเชื่อเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการกระทำก็เป็นความเชื่อที่ไร้ประโยชน์” 1. Faith must have CORESPONDING actions. James 2:14-23
18 “แต่บางคนจะกล่าวว่า “ท่านมีความเชื่อส่วนข้าพเจ้ามีการกระทำ” จงแสดงความเชื่อของท่านที่ไม่มีการกระทำมา แล้วข้าพเจ้าจะแสดงความเชื่อของข้าพเจ้าด้วยสิ่งที่ข้าพเจ้ากระทำ 19 ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียวก็ดีแล้ว! แม้พวกผีมารก็ยังเชื่อเช่นนั้นและกลัวจนตัวสั่น คนเขลาเอ๋ย 20 ท่านต้องการหลักฐานว่าความเชื่อโดยปราศจากการกระทำนั้นเปล่าประโยชน์ ใช่ไหม?” 18 But someone will say, “You have faith; I have deeds.” Show me your faith without deeds, and I will show you my faith by my deeds. 19 You believe that there is one God. Good! Even the demons believe that —and shudder. 20 You foolish person, do you want evidence that faith without deeds is useless?
21 “พระเจ้าทรงถือว่าอับราฮัมบรรพบุรุษของเราเป็นผู้ชอบธรรม ก็เพราะการกระทำของเขาที่ถวายอิสอัคบุตรชายบนแท่นบูชาไม่ใช่หรือ? 22 ท่านก็เห็นแล้วว่าความเชื่อและการกระทำของเขาทำงานควบคู่กัน ความเชื่อของเขาครบถ้วนสมบูรณ์โดยสิ่งที่เขาได้ทำ 21 Was not our father Abraham considered righteous for what he did when he offered his son Isaac on the altar? 22 You see that his faith and his actions were working together, and his faith was made complete by what he did.
ของเขา” และเขาได้ชื่อว่าเป็นสหายของพระเจ้า” 23 และเป็นจริงตามพระคัมภีร์ที่ว่า “อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และความเชื่อนี้พระองค์ทรงถือว่าเป็นความชอบธรรม ของเขา” และเขาได้ชื่อว่าเป็นสหายของพระเจ้า” 23 And the scripture was fulfilled that says, “Abraham believed God, and it was credited to him as righteousness,” and he was called God’s friend.
ชายง่อยที่เมืองลิสตรา กิจการ 14:7-11 – 7 “และได้ประกาศข่าวประเสริฐที่นั่นต่อไป 8 ที่เมืองลิสตรามีชายขาพิการคนหนึ่งนั่งอยู่ เขาเป็นง่อยมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเดินเลย 9 คนนั้นนั่งฟังเปาโลพูด เปาโลมองตรงไปที่เขาเห็นว่าเขามีความเชื่อที่จะได้รับการรักษาให้หายได้ 10 จึงร้องว่า “จงลุกขึ้นยืน!” คนนั้นก็กระโดดขึ้นยืนและเริ่มเดินไป Lame man at Lystra. Acts 14:7-11 - 7 where they continued to preach the gospel. 8 In Lystra there sat a man who was lame. He had been that way from birth and had never walked. 9 He listened to Paul as he was speaking. Paul looked directly at him, saw that he had faith to be healed 10 and called out, “Stand up on your feet!” At that, the man jumped up and began to walk.
2. การประพฤติตามความเชื่อ 2 ประการ 2. Two corresponding actions to faith.
#1 ประพฤติตามพระวจนะของพระเจ้าด้วยความเชื่อ การอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อท่านประพฤติตามพระวจนะของพระเจ้าด้วยความเชื่อ #1 ACT on God’s Word in faith. Great miracles take place when you act on God’s Word in faith.
การอัศจรรย์ของเมืองเยรีโค โยชูวา 6:20 “เมื่อประชากรได้ยินเสียงเป่าแตรเขาแกะก็โห่ร้องสุดเสียง กำแพงเมืองเยรีโคก็พังครืนลงมา ชนอิสราเอลทุกคนบุกเข้ายึดเมือง” The miracle of Jericho Joshua 6:20 “So the people shouted when the priests blew the trumpets. And it Happened when the people heard the sound of the trumpet, and the people shouted with a great shout, that the wall fell down flat. Then the people went up into the city, every man straight before him, and they took the city.”
การอัศจรรย์ในการรักษาคนโรคเรื้อน 10 คน ลูกา 17:14, 19 - 14 “เมื่อพระองค์ทรงเห็นพวกเขาก็ตรัสว่า “จงไปแสดง ตัวต่อปุโรหิต” ขณะกำลังเดินไป พวกเขาก็หายโรคแล้ว... 19 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ลุกขึ้นไปเถิด ความเชื่อของเจ้าทำให้เจ้าหายโรค”” Healing miracle of 10 lepers Luke 17:14 & 19 - 14 When he saw them, he said, “Go, show yourselves to the priests.” And as they went, they were cleansed. …..19 Then he said to him, “Rise and go; your faith has made you well.”
#2 พูดความเชื่อของท่านออกมา มาระโก 11:12-14 - 12 “เช้าวันรุ่งขึ้นขณะออกจากหมู่บ้านเบธานีพระเยซูทรงหิว 13 พระองค์ทรงเห็นต้นมะเดื่อใบดกแต่ไกลก็เสด็จเข้าไปดูว่ามีผลหรือไม่ เมื่อทรงพบว่ามีแต่ใบไม่มีผลเพราะยังไม่ถึงฤดูออกผล 14 จึงตรัสแก่ต้นมะเดื่อนั้นว่า “ตั้งแต่นี้ไปจะไม่มีใครได้กินผลจากเจ้าเลย” และเหล่าสาวกได้ยินพระดำรัสนี้” #2 SPEAK God’s Word in faith. Mark 11:12-14 -12 The next day as they were leaving Bethany, Jesus was hungry. 13 Seeing in the distance a fig tree in leaf, he went to find out if it had any fruit. When he reached it, he found nothing but leaves, because it was not the season for figs. 14 Then he said to the tree, “May no one ever eat fruit from you again.” And his disciples heard
มาระโก 11:20-23 20 “ในเวลาเช้าขณะมาตามทางพวกเขาเห็น มาระโก 11:20-23 20 “ในเวลาเช้าขณะมาตามทางพวกเขาเห็น ต้นมะเดื่อเหี่ยวเฉาไปจนถึงราก 21 เปโตรนึกขึ้นได้จึงทูลพระเยซูว่า “รับบี ดูสิ! มะเดื่อที่ทรงสาบเหี่ยวเฉาไปแล้ว!” 22 พระเยซูตรัสตอบว่า “จงเชื่อ พระเจ้า 23 เราบอกความจริงแก่ท่านว่าหากผู้ใดสั่งภูเขาลูกนี้ว่า ‘จงทิ้งตัวลงทะเลไป’ และใจไม่สงสัยเลยแต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่เขาพูดก็จะเป็นจริงตามนั้น” Mark 11:20-23 - 20 Now in the morning, as they passed by, they saw the fig tree dried up from the roots. 21 And Peter, remembering, said to Him, “Rabbi, look! The fig tree which You Cursed has withered away.” 22 “Have faith in God,” Jesus answered. 23 “Truly I tell you, if anyone says to this mountain ‘Go, throw yourself into the sea,’ and does not doubt in their heart but believesthat what they say will happen, it will be done for them.
หญิงตกโลหิตได้รับในสิ่งที่พูดจากปากของเธอและเชื่อในหัวใจของเธอ มาระโก 5:28, 34 28 “เพราะนางคิดว่า “ขอเพียงได้แตะฉลองพระองค์เท่านั้นเราก็จะหายโรค”... 34 พระองค์ตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย ความเชื่อของเจ้าทำให้เจ้าหายโรค จงกลับไปด้วยสันติสุขและพ้นจากความทุกข์ทรมานเถิด”” The woman with the issue of blood received what she said with her mouth and believed in her heart. Mark 5:28 & 34 – 28 For she said, “If only I may touch His clothes, I shall be made well. ….. 34 And He said to her, “Daughter, your faith has made you well. Go in peace, and be healed of your affliction.”
This is how you received salvation: นี่คือวิธีที่ท่านรับความรอด โรม 8:8-10 8 “แต่ความชอบธรรมนั้นว่าอย่างไร? “ถ้อยคำนี้อยู่ใกล้ตัวท่าน อยู่ในปากและอยู่ในใจของท่าน” คือถ้อยคำแห่งความเชื่อที่เรากำลังประกาศอยู่ 9 นั่นคือถ้าท่านยอมรับด้วยปากของท่านว่า “พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” และเชื่อในใจของท่านว่าพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย ท่านก็จะได้รับความรอด 10 เพราะท่านเชื่อด้วยใจ จึงทรงให้ท่านเป็นผู้ชอบธรรม และเพราะท่านยอมรับด้วยปาก จึงทรงให้ท่านรอด” This is how you received salvation: Romans 10:8-10
3. กุญแจสำคัญสู่การสารภาพความเชื่อของท่าน ลูกา 6:45 “คนดีย่อมนำสิ่งดีออกจากความดีที่สะสมไว้ในใจ ของตน ส่วนคนชั่วก็นำสิ่งชั่วออกจากความชั่วที่สะสมไว้ในใจ ของตน เพราะปากย่อมเอ่ยสิ่งที่เอ่อล้นออกมาจากใจ” 3. The KEY to successfully confessing your faith: Luke 6:45 “A good man brings good things out of the good stored up in his heart, and an evil man brings evil things out of the evil stored up in his heart. For the mouth speaks what the heart is full of.”
ความเชื่อที่มีการประพฤติตาม ตอนที่ 3: ความเชื่อที่มีการประพฤติตาม Part 3: Faith In Action