โครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัด Polio and Measles Eradication Projects ศูนย์ประสานงานโครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัด ตามพันธะสัญญานานาชาติ
โครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัด 2553-2563 โครงการกวาดล้างโปลิโอและโรคหัด 2553-2563 ความเป็นมา พ.ศ. 2531 ลงนามในสัญญาความร่วมมือกวาดล้างโปลิโอ พ.ศ. 2535 เริ่มระบบเฝ้าระวัง ผู้ป่วยที่มีอาการอัมพาตกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียกอย่างเฉียบพลัน (Acute Flaccid Paralysis) พ.ศ. 2537 เริ่มรณรงค์ให้วัคซีนโปลิโอทั่วประเทศประจำปี ซึ่งต่อมาลดเป้าหมายลงเหลือเฉพาะกลุ่มเสี่ยง พ.ศ. 2540 รายงานผู้ป่วยโปลิโอรายสุดท้าย พ.ศ. 2547 องค์การอนามัยโลกเข้าตรวจสอบการดำเนินงานกวาดล้างโปลิโอในประเทศไทย ผลเป็นที่น่าพอใจ
พ.ศ. 2553 กระทรวงสาธารณสุขตกลงเห็นด้วยกับข้อเสนอ การกำจัดโรคหัด ซึ่งเป็นหัวข้อปรึกษาหารือ ร่วมกับประเทศอื่นในภูมิภาคในการประชุม World Health Assembly 2010 กระทรวงสาธารณสุข อนุมัติแผนดำเนินโครงการ กวาดล้างโปลิโอและโรคหัด พ.ศ. 2553-2563 และ ให้กรมควบคุมโรคเป็นหน่วยงานประสานงาน มี กรมต่างๆ ร่วมดำเนินการ ได้แก่ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมการแพทย์ และ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
วัตถุประสงค์การดำเนินการ รักษาสถานะปลอดโรคโปลิโอในประเทศไทย ลดอุบัติการณ์การเกิดโรคหัดในประเทศไทยลงเหลือไม่เกิน 1 รายต่อประชากรหนึ่งล้านคนในปี 2563 (ไม่เกิน 5 รายต่อประชากรหนึ่งล้านในปี 2558) 1 2
เป้าหมายการดำเนินงานใน 5 ปีแรก (2553-2558) การกวาดล้างโปลิโอ ให้วัคซีนโปลิโอตามระบบปกติ อย่างน้อย 3 ครั้ง ในเด็กอายุครบ 1 ปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในทุกตำบล เฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วย AFP ให้ได้ไม่น้อยกว่า 2 ต่อแสนประชากรเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี รายจังหวัด และเก็บอุจจาระส่งตรวจตามเกณฑ์ 14 วันหลังวันเกิดอาการอัมพาต สอบสวนและควบคุมโรคผู้ป่วย AFP กลุ่มเสี่ยงสูงตามเกณฑ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 (สอบสวนทุกรายภายใน 48 ชั่วโมง และควบคุมโรคในรายที่กำหนดภายใน 72 ชั่วโมงหลังพบผู้ป่วย) รณรงค์ให้วัคซีนโปลิโอแก่เด็กในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ ให้ได้ความครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในตำบลที่ดำเนินการ 1 2 3 4
Polio case and OPV3 coverage, Thailand, 1961 - 2011 OPV in EPI in 1977 ประเทศไทยไม่มีโปลิโอมาตั้งแต่ปี 2540 (1997) และเราดำเนินการตามมาตรการกวาดล้างโปลิโอมาโดยตลอด รวมทั้งการรณรงค์ให้วัคซีนประจำปีซึ่งองค์การอนามัยโลกให้เป็น option The last case 1997 NID 1994 sNID 2000
กลุ่มเป้าหมายในการรณรงค์ให้วัคซีนโปลิโอ ประเภทที่ 1 เด็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พิเศษมีความยากลำบากในการให้วัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในระบบปกติ หรือ มีการการเคลื่อนย้ายประชากรสูง ประเภทที่ 2 เด็กที่อาศัยอยู่ในอำเภอที่ติดชายแดนพม่า ประเภทที่ 3 เด็กที่อาศัยอยู่ในอำเภอที่มีชุมชนชาวพม่าขนาดใหญ่ ประเภทที่ 4 เด็กที่อาศัยอยู่ในอำเภอที่มีรายงานการเกิดโรคคอตีบ หรือ หัด โดยพิจารณาผู้ป่วย เฉพาะในกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี รายอำเภอ ใช้ข้อมูล 3 ปี ย้อนหลัง (พ.ศ. 2551-2553) ถ้าพบผู้ป่วยคอตีบตั้งแต่ 1 รายขึ้นไป หรือผู้ป่วยหัดตั้งแต่ 10 รายขึ้นไป ในปีใดปีหนึ่ง ถือเป็นดัชนีชี้วัดปัญหาความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนในพื้นที่
Polio Situation: Trouble in Africa, Outbreak in China, Last case in India
Rukhsar: Is she the last polio case in India? Onset 13 January 2011
การกำจัดโรคหัด เพิ่มและรักษาระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีนหัด ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 95 ในทุกพื้นที่ จัดตั้งเครือข่ายการตรวจเชื้อหัดทางห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานทั่วประเทศ เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคหัด โดยมีการตรวจยืนยันเชื้อก่อโรคทางห้องปฏิบัติการในผู้ป่วยที่สงสัยโรคหัด ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ในทุกพื้นที่ รณรงค์ให้วัคซีนป้องกันโรคหัด หรือมาตรการเสริมอื่น เช่น การบริการวัคซีน ในประชากรวัยทำงาน เพื่อเพิ่มระดับความครอบคลุมการได้รับวัคซีนในประชากรกลุ่มเสี่ยง 1 2 3 4
ความครอบคลุมการได้รับวัคซีน ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และหญิงมีครรภ์ พ. ศ ความครอบคลุมการได้รับวัคซีน ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และหญิงมีครรภ์ พ.ศ. 2542, 2546, 2551 Vaccine 2542 2546 2551 BCG 98 99 100 DTP3 97 98 99 OPV3 97 98 99 HB3 95 96 98 Measles 94 96 98 JE2 84 87 95 JE3 - 62 89 DTP4 90 93 97 DTP5 - 54 79 T2 (or booster) 90 93 93 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 12
จำนวนผู้ป่วยโรคหัดในประเทศไทย พ.ศ.2514 – 2554 ก่อนเริ่มโครงการกำจัดโรคหัด วินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการร้อยละ 2 เริ่มให้ M เด็ก 9-12 เดือน เริ่มให้ M นักเรียน ป.1 ให้ MMR แทน M ในนักเรียน ป.1 จำนวนผู้ป่วย การระบาดมีแนวโน้มลดลงหลังมีการให้วัคซีนหัดในปี พ.ศ.2527 และเพิ่มวัคซีนหัดเข็ม2 ในปี พ.ศ. 2540 ในเด็กชั้น ป.1 แต่มีการระบาดเพิ่มมากขึ้นในปี พ.ศ.2551 ในปัจจุบันอัตราป่วยอยู่ประมาณ 10 ต่อแสน ยังสูงกว่าเป้าหมาย ของการกำจัดโรคหัด (ปี 2563) ที่ 1 ต่อล้านมาก อย่างไรก็ตามต้องคำนึงด้วยว่าผู้ป่วยหัดส่วนใหญ่ของเรา เป็นการวินิจฉัยโดยใช้อาการทางคลีนิค ข้อมูลเฝ้าระวังโรค รง 506