OSI Model Open System Interconnection
Open Systems Interconnection (OSI) จัดตั้งและกำหนดโดย องค์การกำหนดมาตรฐานสากล หรือ ISO ( International Standards Organization ) เริ่มนำมาใช้งานราว ๆ กลางปี ค. ศ และใช้อ้างอิง มาจนถึงปัจจุบัน จุดมุ่งหมายเพื่อเปิดช่องทางให้ข้อมูลที่เก็บอยู่ในระบบ คอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ รับส่งไปยังคอมพิวเตอร์ที่เป็นระบบ เดียวกันหรือต่างระบบได้โดยอิสระ ไม่ขึ้นกับผู้ผลิต สร้างการทำงานที่เป็นระบบเปิด (Open System)
Your Topic Goes Here แนวคิดของการกำหนดมาตรฐานเป็นแบบชั้นสื่อสาร (layers) คือ 1. ชั้นสื่อสารแต่ละชั้นถูกกำหนดขึ้นมาตามบทบาที่ แตกต่างกัน 2. แต่ละชั้นสื่อสารจะต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับ มอบหมายอย่างดียิ่ง 3. แต่ละฟังก์ชั่นในชั้นสื่อสารใดๆจะต้องกำหนดขึ้นมา โดยใช้แนวความคิดใน ระดับสากลเป็นวัตถุประสงค์หลัก 4. ขอบเขตของความรับผิดชอบของแต่ละชั้นสื่อสาร จะต้องกำหนดขึ้นมาเพื่อจำกัดปริมาณการ แลกเปลี่ยนข้อมูลและผลกระทบข้างเคียงระหว่างการติดต่อ ให้มีน้อยที่สุด 5. จำนวนของชั้นสื่อสารจะต้องมีมากพอที่จะแยก ฟังก์ชั่นการทำงานที่แตกต่างกันให้อยู่คนละชั้น แต่ จะต้องไม่มีมากเกินความจำเป็น
OSI Model
Your Topic Goes Here
OSI Model sub group
การแบ่งกลุ่มของ OSI 7 Layer Model ในทางปฏิบัติ เราจะแบ่ง Layer ทั้ง 7 ออกได้เป็น 2 กลุ่ม คื่อ 1.Application – Oriented Layers ได้แก่ 4 ชั้นด้านบน คือ ชั้นที่ 7,6,5,4 ทำหน้าที่เชื่อมต่อรับส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับ ซอฟต์แวร์โปรแกรมประยุกต์ ให้รับส่งข้อมูลกับฮารด์แวร์ที่ อยู่ชั้นล่างได้ถูกต้อง เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์เป็น หลัก โดยปกติแล้วมักจะเป็นซอฟต์แวร์ทั่ว ๆ ไป 2.Network – Dependent Layers ได้แก่ 3 ชั้นด้านล่าง คือ ชั้นที่ 3,2,1 ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับส่งข้อมูลโดยผ่านทาง สายส่ง และทำหน้าที่ควบคุมการรับส่งข้อมูล ตรวจสอบข็ อผิดพลาด รวมทั้งเป็นตัวเลือกเส้นทางที่ใช้ในการรับส่ง ข้อมูล ซึ่งชั้นนี้จะทำงานเกี่ยวข้องกับด้านฮาร์ดแวร์เป็นหลัก
สรุปหน้าที่ของแต่ละ Layer
IP Datagram
OSI Model กับอุปกรณ์เครือข่าย
เปรียบเทียบ OSI Model กับ TCP/IP
END