ผู้นำเสนอข่าว นายขจรยศ ชัย สุรจินดา
3 วันที่แล้ว โครงการสิ่งแวดล้อมของ สหประชาชาติ ( ยูเนป ) ออกรายงานฉบับ ใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำแข็งและหิมะ ของโลก ข้อมูลที่พยายามสื่อสารบอกกับ ชาวโลก ก็คือ ขณะนี้ปริมาณน้ำแข็งและ หิมะในแถบ " อาร์กติก " ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ขั้วโลกเหนือ กำลังละลาย กลายเป็น " น้ำ " อย่างน่าวิตก เพราะผล จากวิกฤตโลกร้อน ! ยูเนป สำรวจ พบว่า เมื่อเทียบกับช่วง ปีก่อน ปริมาณแผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งใน อาร์กติกลดหายไปจากเดิมราวๆ เปอร์เซ็นต์
น้ำแข็งและหิมะขั้วโลกมี ความสำคัญก็เพราะมันทำหน้าที่ เป็นเหมือนกับ " กระจก " คอย สะท้อนพลังงานความร้อนจาก แสงอาทิตย์กลับออกไปนอกโลก แตกต่างจากน้ำ ซึ่งมีคุณสมบัติดูด ซับความร้อน เมื่อน้ำแข็งขั้วโลก หายไป อุณหภูมิของโลกย่อม สูงขึ้นโดยปริยาย ส่วนที่ละลาย ออกมาเป็นน้ำ ก็จะไปเพิ่ม ระดับ " น้ำทะเล " ของโลกให้ สูงขึ้น ทำให้ชายฝั่งของชาติที่ ตั้งอยู่ในทะเล หรือ ติดทะเล ถูก กลืน
หายไป ปรากฎการณ์น้ำแข็งของ โลกละลายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแถบ อาร์กติกที่เดียว แต่ยังเกิดกับ น้ำแข็งบนภูเขาสูงหลาย แห่ง เช่น เขาหิมาลัย ผลกระทบ ประการแรกเลยที่เกิดขึ้นจากภาวะ น้ำแข็งหายไป ก็จะส่งผล ให้ " สิ่งมีชีวิต " ในพื้นที่ค่อยๆ สูญ พันธุ์ตามไปด้วย ส่วนประชากร ท้องถิ่นในอนาคตก็จะประสบกับ ปัญหาขาดแคลนน้ำใช้และน้ำเพื่อ การเกษตร ภัยโลกร้อนที่จะอุบัติขึ้น นั้นมีคนทำนายไว้ในแนวทาง เดียวกับยูเนปเช่นนี้เยอะมาก
แต่ทางแก้ไขยังมืดแปด ด้าน ล่าสุด รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศ ออกมาว่า พัฒนาการทางอุตสา กรรม ซึ่งเป็นตัวการปล่อยก๊าซ เรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศนั้น สำคัญกว่าปัญหาโลกร้อน ขณะที่ รัฐบาลสหรัฐก็ยืนยัน เช่นเดียวกัน ดังนั้นในอนาคตอะไร จะเกิดก็คงต้องแล้วแต่บุญแต่กรรม ล่ะครับ
ที่มา ( คอลัมน์ : ข่าวหน้า 1) ข่าว สด 7 มิ. ย. 2550