นารีปราโมทย์ คือ บทเกี้ยวพาราสี บทที่แสดงความรักใคร่ หรือพูดจาโอ้โลมให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดความชอบ
สมาชิกในกลุ่ม นายยุทธพิชัย ตินรัตน์ เลขที่ 4 นายยุทธพิชัย ตินรัตน์ เลขที่ 4 นายสิรภพ พิกุลทอง เลขที่ 12 นายพีระทัด นาคดิลก เลขที่ 13 นายภานุวัฒน์ เพ็งผอม เลขที่ 16 นายธรรมวิทย์ จิตต์อำนวยศักดา เลขที่ 19
ความหมาย (นารี น. หญิง + ปราโมทย์ น. ความบันเทิงใจ, ความปลื้มใจ, ปราโมช ก็ว่า) คือ การทำให้ "นารี" นั้น ปลื้ม "ปราโมทย์" ซึ่งรูปแบบหนี่งก็คือ การแสดงความรักผ่านการเกี้ยวแลโอ้โลมปฏิโลม. อันคำว่า "โอ้โลมปฏิโลม" นี้ ความหมายอันแท้จริงของคำก็คือ การใช้มือลูบไปตาม (โอ้) แนวขน (โลมา) และย้อน (ปฏิ) ขนขึ้นมา เมื่อโอ้โลมไปมา ในเบื้องปลาย นารีก็จักปรีดาปราโมทย์ ในตอนที่ศึกษา มีเพียงแค่ตอนที่อิเหนากำลังสั่งลาจากนางจินตะหรา ซึ่งเมื่ออ่านดูแล้วบางทีอาจจะไม่ถึงกับเป็นการโอ้โลมปฏิโลมเท่าใดนัก เพียงจะจัดไว้ ณ ที่นี้ เนื่องเพราะเป็นบทที่แสดงถึงความรัก กล่าวคือ
ตัวอย่าง งามองค์ทรงลักษณ์วิไล พิศไหนสารพันเป็นขวัญตา น้องเอยน้องรัก นวลละลองผ่องพักตร์เพียงแขไข งามองค์ทรงลักษณ์วิไล พิศไหนสารพันเป็นขวัญตา พี่หวังจากไมตรีจิต รักร่วมสนิทเสน่หา ควรฤๅดวงใจไม่เมตตา แต่จะตอบวาจาก็ไม่มี ช่างผินผันหันหลังไม่แลดู โฉมตรูขัดใจสิ่งไรพี่ เชิญชะม้ายชายตามาทางนี้ จะสะบัดเบือนหนีพี่ยาไย จาก บทละครเรื่องอิเหนา
พระอภัยมณี (พระอภัยมณีโอ้โลมนางละเวง) ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน แม้นเกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา แม้นเนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา แม้นเป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา เชยผกาโกสุมปทุมทอง เจ้าเป็นถ้าอำไพขอให้พี่ เป็นราชสีห์สมสู่เป็นคู่สอง จะติดตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ตรองพิศวาสทุกชาติไป
อิเหนา โลมนางพลางกล่าววาจา จงผินมาพาทีกับพี่ชาย เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวัญอสัญหยา โลมนางพลางกล่าววาจา จงผินมาพาทีกับพี่ชาย ซึ่งสัญญาว่าไว้กับนวลน้อง จะคงครองไมตรีไม่หนีหน่าย มิได้แกล้งกลอกกลับอภิปราย อย่าสงกาว่าจะวายคลายรัก จากบทข้างต้น ก็คือบทที่อิเหนาได้บอกกล่าวกับจินตะหรา ว่าตนไปก็คงไปเพียงไม่นาน ขอจินตะหราอย่าร้องไห้โศกเศร้าเลย
อิเหนา ลูบไล้ประทุมทองผ่องศรี นาสาสูบรสสุมาลี หอมกลิ่นเทวีฟุ้งขจร โอบอุ้มนงลักษณ์ใส่ตักไว้ ลูบไล้ประทุมทองผ่องศรี นาสาสูบรสสุมาลี หอมกลิ่นเทวีฟุ้งขจร
ตัวอย่าง เอวองค์อรชรอ่อนช้อย สองกรย้อยยวงนวลดวงแข พิศพักตร์ลักขณาอร่ามแล งามแท้เนตรขนงก่งเกาทัณฑ์
ผมเผ้าเงาขลับยับยับสุรีย์. ดั่งมณีนิลวะวาวพราวสวรรค์ ผมเผ้าเงาขลับยับยับสุรีย์ ดั่งมณีนิลวะวาวพราวสวรรค์ นาสาอ่าแลเลิศบรรเจิดพรรณ ดั่งทเรศเขตขัณฑ์ชั้นวิมาน
ไนยนาชายชม้อยอ้อยอิ่ง. เพราพริ้งคมขำนัยน์ดำหวาน. โอฐงามยามสรวลชวนสราญ ไนยนาชายชม้อยอ้อยอิ่ง เพราพริ้งคมขำนัยน์ดำหวาน โอฐงามยามสรวลชวนสราญ สะคราญทองทาบอาบปรางนวล
กัณฐาเป็นริ้วปล้องผ่องผจง. เทียบคอหงษ์องอ่าสง่าล้วน กัณฐาเป็นริ้วปล้องผ่องผจง เทียบคอหงษ์องอ่าสง่าล้วน สวยสมกลมปล่องผ่องนวล แสนรันจวนชวนชิดสนิทใน
นิ้วนางเรียวเสลาเพราลักษณ์. เล็บสลักทับทิมแดงแสงเฉิดฉาย นิ้วนางเรียวเสลาเพราลักษณ์ เล็บสลักทับทิมแดงแสงเฉิดฉาย กรรณากลีบอุบลยลเปรียบปลาย แม้นสั่งใดเรียมไวได้ยินพลัน
ทันต์เรียบริ้วระเบียบเทียบแสงขาว. แพรวพราวคราวแย้มยิ้มปริ่มสุขสันต์ ทันต์เรียบริ้วระเบียบเทียบแสงขาว แพรวพราวคราวแย้มยิ้มปริ่มสุขสันต์ เทียมนลาฎดาดทองผ่องอำผัน พิศสรรพ์นงนุชสุดบาดใจ