Social Network Marketing Thananchai khamket
Social Network : มิติใหม่ของธุรกิจ 1. แนวคิดและความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) 2. ช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) 3. ประเภทของ Social Network 4. แนวโน้ม Social Network 5. เหตุผลที่องค์กรควรปรับสู่ Social Network 6. ข้อดี และ ข้อเสีย ของ Social Network 7. Action Plan for Social Network Marketing
1. แนวคิดและความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
1. แนวคิดและความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์
1. แนวคิดและความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์ โครงข่ายการสร้าง Media ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทางโดยคนที่สร้างสื่อใช้ความสามารถในการเข้าถึงได้ง่ายของอินเตอร์เน็ทความจริงแล้ว Social Media เกิดขึ้นเพราะความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ในความเป็นสัตว์สังคมที่ต้อง การปฎิสัมพันธ์กันและต้องการความเห็นกันนั่นเอง ในครั้งแรกนั้นเกิดจากยุคเว็บ 2.0 ( จาก broadcast media monologues : one to many เป็น social media dialogues :many to many ) และเมื่อเกิด media จำนวนมากก็จะเกิดสถิติของแต่ละCategory ,เกิดกลุ่มผู้เสพสื่อแต่ละCategory และการคัดเลือกคุณภาพMedia ตามธรรมชาติ
1. แนวคิดและความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์
1. แนวคิดและความหมายของเครือข่ายสังคมออนไลน์
2. ช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) 2.1 บล๊อก (Blogs) เป็นช่องทางการสื่อสารแบบสองทางระหว่างผู้เขียนกับ 2.2 ไมโครบล๊อก (Microblogs) ขณะนี้มีการให้บริการไมโครบล๊อกจากทวิต เตอร์ (Twitter) ทวิตเตอร์เป็นการส่งข้อความสั้นเพื่อเร้าความสนใจ ทาให้ผู้อ่าน คิด ติดตาม และเป็นการสื่อสารที่มีความรวดเร็ว 2.3 เครือข่ายออนไลน์ (Social Networking sites) เช่น Facebook, LinkedIn, MySpace, เครือข่ายเหล่านี้เปิดโอกาสให้เราแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องราวต่างๆได้ ง่าย ต่อเนื่องและไม่จากัด 2.4 เครือข่ายบุ๊กมาร์ก (Social bookmarking sites) เป็นเว็บที่เราสามารถบุ๊ก มาร์กหน้าเว็บที่เราชอบและเก็บเอาไว้โดยมีระบบการโหวตให้ความเห็นเพื่อให้ ผู้อ่านคนอื่นเกิดความสนใจและเข้ามาชมหน้าของเว็บเหล่านั้น
3. ประเภทของ Social Network 3.1 ประเภทเผยแพร่ตัวตน (Identity Network) เว็บไซต์เหล่านี้ใช้ สาหรับนาเสนอตัวตน และเผยแพร่เรื่องราวของตนเองทาง อินเตอร์เน็ตสามารถเขียน blog สร้างอัลบั้มรูปของตัวเอง สร้างกลุ่ม เพื่อน และสร้างเครือข่ายขึ้นมาได้ ตัวอย่างเช่น face book , hi 5, My Space ดังภาพ
3. ประเภทของ Social Network 3.2 ประเภทเผยแพร่ผลงาน (Creative Network) สามารถนำเสนอผลงานของตัวเองได้ในรูปแบบของวีดีโอ ภาพ หรือเสียงเพลง สำหรับช่างภาพคนไทยหลายคนก็มักจะนิยมใช้ Multiply ในการนาเสนอ ผลงานภาพถ่ายของตัวเอง มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ติชมรูปภาพ และยัง ใช้เป็นอัลบั้มภาพออนไลน์เพื่อให้คนที่กาลังหาช่างภาพอยู่สามารถเข้ามาดู ผลงาน และติดต่อจ้างช่างภาพนั้นๆ ได้โดยตรง ซึ่งเริ่มกลายเป็นรูปแบบของ ธุรกิจบ้างแล้ว
3. ประเภทของ Social Network 3.3 ประเภทความสนใจตรงกัน (Interested Network) มีลักษณะของเว็บไซต์ที่มีการรวมกันของสมาชิก ซึ่งมีความสนใจ ที่ตรงกันหรือสนใจในเรื่องเดียวกัน ตัวอย่างเช่น
3. ประเภทของ Social Network 3.4 ประเภทร่วมกันทางาน (Collaboration Network) มีลักษณะของเว็บไซต์ที่ มีการทางานร่วมกัน หรือมีการใช้ข้อมูลร่วมกันในเรื่องเดียวกัน ตัวอย่างเช่น WikiPedia เป็นสารานุกรม ที่อนุญาตให้ใครก็ได้เข้ามาช่วยกันเขียน และแก้ไขบทความ ต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทาให้เกิดเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย และมีภาษาไทยด้วย Google Maps ปัจจุบันสร้างแผนที่ของตัวเอง หรือแชร์แผนที่ให้คนอื่นได้ จึงทาให้มี สถานที่สาคัญ หรือสถานที่ต่างๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ไว้ พร้อมทั้งแสดงผลจากการค้นหาได้อีกด้วย
3. ประเภทของ Social Network 3.5 ประเภทPeer to Peer (P2P) เป็นการเชื่อมต่อกันระหว่าง Client กับ Client โดยตรง โปรแกรม Skype จึงได้นาหลักการนี้มาใช้ เป็นโปรแกรมสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต และก็มี BitTorrent เกิดขึ้นมา เป็นเทคโนโลยีที่ทาให้เกิดการแบ่งปันไฟล์ต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง และรวดเร็ว
3. ประเภทของ Social Network 3.6 ประเภทโลกเสมือน (Gaming / Virtual Reality) โลก เสมือนในที่นี้ คือเกมส์ออนไลน์ตัวอย่างเช่น SecondLife เป็นโลก เสมือนจริง สามารถสร้างตัวละครโดยสมมุติให้เป็นตัวเราเองขึ้นมาได้ มีการใช้ชีวิตอยู่ในเกมส์ อยู่ในชุมชนเสมือน(Virtual Community) สามารถซื้อขายที่ดิน และหารายได้จากการทากิจกรรมต่างๆ ได้
4. แนวโน้ม Social Network 4.1 พฤติกรรมผู้บริโภค ต่อเว็บไซต์ Social Network สำหรับพฤติกรรมผู้บริโภคของคนไทยนั้น พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภค จะใช้เวลาบนโลกอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น และเลือกที่จะเสพสื่อออนไลน์แทนสื่อ ดั้งเดิม ทาให้บทบาทของ Social Media ในช่วงนี้ถึงมาแรงและเป็นกระแสหลัก ของการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน
4. แนวโน้ม Social Network
4. แนวโน้ม Social Network 4.2 Social Network กลยุทธ์ใหม่ทางการตลาด ฟิลิป คอตเลอร์ นักวิชาการระดับโลกแห่งวิทยาลัยการจัดการ เคลล็อก มหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น สหรัฐอเมริกา ในยุคที่ การตลาดเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เทรนด์ของ Social Networking ถือได้ว่า มาแรงและทรงอิทธิพล โดยกล่าวว่าเทรนด์การตลาดที่น่าสนใจและถูก จับตามองคือ รูปแบบของการตลาดแบบ Social Networking เนื่องจาก เป็นการตลาดที่ต้นทุนต่ำแต่มีประสิทธิผลในการกระจายการรับรู้มาก
4. แนวโน้ม Social Network 1. เป็นการสื่อสารยังลูกค้าโดยตรง ปัจจุบันสื่อใหม่อย่าง Social Media กาลังได้รับความสนใจจากแวดวงธุรกิจเพิ่ม มากขึ้น โดยเริ่มจากความสนใจในกลุ่มนักการตลาดกลุ่มเล็กๆของไทย จากนั้นในเวลา เพียงไม่กี่เดือนความสนใจได้ถูกส่งต่อและแพร่กระจายไปในแวดวงธุรกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งแนวโน้มและความแรงของ Social Media นั้นคาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นไม่เฉพาะใน กลุ่มธุรกิจที่เป็น Long Tail Business ที่ถูกคาดหมายว่าน่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก แรกของการตลาดบน Social Media แต่ยังรวมถึงการขยับเข้ามาอย่างรวดเร็วของ บรรดาธุรกิจขนาดใหญ่ที่แม้ว่าจะมีทุนมหาศาลในการทาการตลาด Social Media นั้นทาหน้าที่เป็น ‘P’ ตัวที่ 4 ของตาราการตลาด นั่นคือ บทบาท ของ Promotion ที่มีความสำคัญมากต่อธุรกิจ
4. แนวโน้ม Social Network 2. Social Network ย่อโลกเล็ก การสื่อสารไร้ขอบเขต การสื่อสารบนโลกออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่ผนวกอยู่กับชีวิตของคนเรา อย่างแยกไม่ออก ทั้งนี้เพราะระบบของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย หรือ อุปกรณ์การเข้าถึงต่างๆ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาก ที่สำคัญการทาตลาดทาง Social Network จะทาให้ข้อมูลของสินค้า สามารถเข้าถึงได้ตรงกลุ่ม เป้าหมาย และสามารถวัดผลได้ชัดเจนที่สุด สรุปการตลาดในยุค Social Network จะเป็นการเปลี่ยนแปลง แนวความคิดของนักการตลาดไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากสามารถแยก กลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน และเริ่มที่จะเป็น Consumer Center มากขึ้น
4. แนวโน้ม Social Network เป็น Mass Media ปรากฏการณ์ ‚Social Network ชุมชนในเครือข่ายบริการสังคม กำลังกลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกของการสื่อสารและโลกธุรกิจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ระบบคอมพิวเตอร์ผนวกเรื่องการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์เข้ากับโลกธุรกิจ โดยไม่ต้องพึ่งพา ‚คนกลางอีกต่อไป กระแส Social Network จึงกลายเป็น ‚ไม้เด็ดทางการตลาด‛ ที่ บรรดาค่ายผู้ผลิตและจาหน่ายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่เป็นทั้งกลุ่ม Mass และ Niche ขอเกาะขบวนเพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
4. แนวโน้ม Social Network มือถือช่องทางใหม่ของการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต รูปแบบข้อมูลที่ตอบรับระบบอินเทอร์เน็ตและระบบ Social Network ระบบอินเทอร์เน็ต
5. เหตุผลที่องค์กรควรปรับสู่ Social Network
5. เหตุผลที่องค์กรควรปรับสู่ Social Network
5. เหตุผลที่องค์กรควรปรับสู่ Social Network 5.6 สร้างความได้เปรียบในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีใหม่ๆ หลากครั้งที่ผู้บริหารมักไม่เข้าใจ เรื่องของ Internet และเทคโนโลยีใหม่ๆ การ เอาตัวเองเข้ามาอยู่ในโลกของ Social Network จะทำให้คุณได้เปิดโอกาสการ เรียนรู้สิ่งใหม่ ที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วผ่าน Social Network และ Internet ซึ่งจะ ทำให้ผู้บริหารมีมุมมองที่กว้างไกลมากขึ้น เมื่อคุณสามารถเข้าใจเทคโนโลยี และ รู้จัก รวมถึงการนามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้
6. ข้อดี และ ข้อเสีย ของ Social Network ด้านต้นทุน เป็นช่องทางในการทาตลาดที่ใช้ต้นทุนต่ำ เนื่องจาก ไม่มีค่าเช่า พื้นที่ ไม่มีต้นทุนในการซื้อและกักตุนสินค้า ทำให้ธุรกิจออนไลน์ไม่มี จุดคุ้มทุน ประหยัดทั้งต้นทุนการเงินและเวลาแถมยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ มากกว่า ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาองค์กร ผู้ประกอบการสามารถกระตุ้นให้ ผู้บริโภคช่วยสร้างคุณสมบัติของสินค้าได้ จากการติชมหรือแสดงความเห็น ภายในเว็บไซต์ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือพัฒนา องค์กรให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น เพิ่มกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ ข้อได้เปรียบของ Social Networking นอกจากทาให้สินค้าได้รับการแนะนำบอกต่อ
6. ข้อดี และ ข้อเสีย ของ Social Network ด้านข้อมูล ข้อมูลอาจจะไม่ได้เป็น บวกเสมอไป และไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะช่องทางการสื่อสารประเภทนี้มีความอ่อนไหวสูง และเมื่อปรากฏข้อความ ภาพ เสียงหรืออะไรก็แล้วแต่ลงไปในออนไลน์แล้ว เราไม่สามารถเรียกกลับมาได้ จึงต้องระมัดระวังอย่างมาก ข้อจากัด โอกาสประสบความสำเร็จมีอยู่ไม่มาก เพราะการใช้เครือข่ายทาง สังคมจำเป็นต้องคำนึงถึงประเภทของสินค้าและบริการ ว่ากลุ่มเป้าหมายที่แท้ ของเรานั้นใช้เครือข่ายทางออนไลน์หรือไม่ เพราะในหลายครั้งพบว่าแบรนด์ที่ใช้ ช่องทางนี้ทาการตลาดนั้นกำลังทำตลาดกับคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย ฉะนั้นผลที่ ออกมาจึงไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
Action Plan for Social Network Marketing วัตถุประสงค์ในการจัดทำ 1. ส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กร 2. เพิ่มช่องทางในการเผยแพร่สินค้า และข่าวสารและ กิจกรรมของบริษัทให้เป็นที่รู้จั้กผ่าน Facebook, Twitter 3. สามารถคัดกรองกลุ่มเป้าหมายได้ และเข้า ถึง กลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง 4. สร้างความจดจำต่อตัวแบรนด์สินค้า
สิ่งที่จะดำเนินการ 1. กำหนดขอบเขตระยะเวลาในการดำเนินการ (วางแผนร่วมกับทีม การตลาด) เพื่อวางกลยุทย์ทางการตลาด กำหนดวัตถุประสงค์และ กลุ่มเป้าหมายเพื่อจัดตารางการทำเนื้อหาในเว็บไซด์ให้ดำเนินการไป พร้อมกับกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท 2. สร้างหน้า Facebook, Twitter โดยการใช้ Ads Banner ของบริษัทเพื่อ ดึงดูด และสร้างความจำจดต่อแบร์ด เท่าที่เว๊บ Facebook, Twitter จะ อนุญาตให้ใช้ พร้อมทั้งปรับแต่งโครงสร้างภายในเว็บให้เข้ากับการ ประชาสัมพันธ์
สิ่งที่จะดำเนินการ 3. บริการบริหารจัดการ Facebook, Twitter ปรับเพิ่มแก้ ไข เนื้อหา(ความคิดเห็น) ในรูปแบบข้อความ รูปภาพ วีดีโอ เพื่อ ประชาสัมพันธ์ข่าวสารและกิจกรรมทางการตลาดของบริษัท 4. เพิ่มฐานลูกค้าให้กับทางบริษัท (Fan page) โดยการส่งคำ เชิญชวนไปยังกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งนำฐานข้อมูลของลูกค้าที่ทางบริษัทมีอยู่แล้ว ส่งคำ เชิญชวนไปเป็นเพื่อนทาง Facebook, Twitter เพื่อทำการ ประชาสัมพันธ์บอกข่าวสารและกิจกรรมต่างๆที่ทางบริษัท จัดทำขึ้น