มารยาทของศาสนาอิสลาม มารยาท “ อิสลาม” มารยาทของศาสนาอิสลาม
จัดทำโดย นางสาวกรรณิการ์ อาระวิล ชั้น ม.6/4 เลขที่ 24 นางสาวกรรณิการ์ อาระวิล ชั้น ม.6/4 เลขที่ 24 ผลงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551
การตอบรับงานเชิญ เมื่อพี่น้องมุสลิม ได้มีหนังสือเชิญหรือเชิญด้วยวาจาในงานต่างๆ อันดับแรกของความเป็นพี่น้องกัน ก็คือต้องตอบรับคำเชิญ เป็นการรักษาไว้ซึ่งความต้องการของพี่น้อง ซึ่งงานนั้นต้องไม่มีสิ่งผิดหลักการศาสนาหรือไม่มีข้อขัดข้องที่ไม่อาจไปร่วมงานได้ งานที่มักจะมีการจัดกันเท่าที่กอฎีอิยาฏ และอิหม่ามนะวะวีได้แถลงไว้ที่สำคัญมี 8 งานคือ งานคอตั่น (เข้าสุนัต) งานอะกีเกาะห์ (อาจมีการโกนผมไฟด้วย) งานที่หญิงปลอดภัยจากการคลอดบุตร งานเกี่ยวกับคนตาย งานธรรมดาที่ไม่มีเหตุใดๆ และงานพิธีนิกาห์ (มงคลสมรส) งานทั้งหมดดังกล่าวนั้นท่านหะซัน อัยยูบ ได้กล่าวว่า " เป็นงานที่ถูกกำหนดโดยศาสนา (อัซรู๊อ์) ไม่มีงานใดที่จำเป็นต้องกระทำและต้องรับเชิญ ยกเว้นงานพิธีนิกาห์ ตามทัศนะของนักวิชาการบางคน
มารยาทการรับประทานอาหาร อิสลามคือวิถีชีวิต เมื่อมนุษย์มีธรรมชาติที่ต้องกิน ต้องนอน ต้องทำงาน ต้องมีสังคม อิสลามก็ต้องมีระบบดังกล่าวเพื่อมนุษย์จะได้มีแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างครบถ้วน และผู้ที่จะเป็นแบบอย่างในวิถีชีวิตได้ดีที่สุดคือท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.) ดังนั้น ขอนำเสนอมารยาทการรับประทานอาหารจากต้นแบบคือท่านศาสดาฯ ดังต่อไปนี้
กล่าวบิสมิลลาห์ฯ พระนางอาอิซะห์ รอฎิยั้ลลอฮุอันฮา รายงานหะดีษท่านท่านศาสดา (ซ.ล.) กล่าว มีความว่า "เมื่อคนหนึ่งในพวกเจ้ารับประทานอาหาร เขาจงกล่าว "บิสมิลลห์ ฯ " หากเขาลืมกล่าว (ในตอนเริ่มรับประทาน) ให้เขากล่าว (ขณะรับประทาน) ว่า "บิสมิลลาฮิ อะลาเอาวะลิฮี วะอาคิริฮี"
รับประทานด้วยมือขวา สาวกญาบิรฯ รายงานคำสอนจากท่านศาสดาฯ ความว่า "ท่านทั้งหลายอย่ารับประทานด้วยมือซ้าย เพราะซัยฏอนนั้น มันกินด้วยมือซ้าย" บันทึกโดยมุสิลม และในบันทึกของมุสลิมรายงานว่า "มีชายคนหนึ่งรับประทานอาหารด้วยมือซ้ายต่อหน้าท่านศาสดาฯ ท่านจึงกล่าวว่า "เจ้าจงรับประทานด้วยมือขวาของเจ้า ชายคนนั้นตอบว่า ฉันไม่อาจทำได้ ท่านจึงกล่าวว่า ไม่ใช่เจ้าจะทำไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดห้ามเจ้าดอก นอกจากจะอวดใหญ่เท่านั้น แล้วต่อมาในที่สุดชายคนนั้นไม่อาจยกมือถึงปากได้เลย" (เพราะอัลเลาะฮ์ทรงให้มือเขาเป็นอัมพาต)
มารยาทและสุนัตการดื่ม สำหรับการดื่ม ก็มีมารยาทและสุนัตที่ท่านศาสดาฯ ได้กำหนดไว้แก่ประชากรของท่าน เพื่อยึดถือปฏิบัติ ซึ่งจะส่งผลดีทั้งด้านศาสนาและสุขภาพของผู้ปฏิบัติ อีกทั้งสังคมก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติ บรรดามารยาทและสุนัตนั้นสรุปเป็นข้อได้ดังนี้
ดื่มด้วยมือขวา มีรายงานหะดีษจากอิบนิอุมัรฯ ท่านศาสดาสอนไว้ความว่า " ไม่ว่าคนใดในพวกท่านต้องไม่รับประทานด้วยมือซ้ายและต้องไม่ดื่มด้วยมือซ้าย เพราะซัยฏอนนั้นมันจะกินและดื่มด้วยมือซ้าย" บันทึกหะดีษโดยมุสลิมอะบูดาวูดและติรมิซี รายละเอียดเรื่องนี้ ได้กล่าวมาแล้วในเรื่องรับประทานอาหาร
นั่งดื่ม การนั่งดื่มขณะนั่ง มีความสะดวก และสบายถูกสุขลักษณะ ทั้งเป็นลักษณะที่สุภาพเรียบร้อยในสายตาของสังคม มีหะดีษจำนวนมากที่เคร่งครัดในเรื่องนี้ บางรายงานพูดถึงกับว่า " เมื่อดื่มขณะยืนต้องทำให้อาเจียนออกมา" แต่ก็มีหะดีษบางบทรายงานว่าท่านศาสดาฯ ดื่มน้ำขณะยืน รวมทั้งบรรดาสาวกก็ด้วย ซึ่งในการพิจารณาทางวิชาการแล้วเห็นว่า ที่ดีควรรวมหะดีษทั้งสองกลุ่ม โดยกล่าวว่า สุนัตให้นั่งดื่ม ส่วนการยืนดื่มนั้นอนุญาตให้กระทำได้แต่ถือเป็นมักรู๊ห์ ทั้งนี้หากไม่มีข้อจำเป็น ประเด็นนี้ ท่านเซากานีย์ได้อธิบายรายละเอียดไว้แล้วในหนังสือของท่านชื่อ "นัยลุ้ลเอาต๊อร"