นางเจริญสุข ผ่องภักดี ผลงานวิจัยเรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนวิชา การจัดแสดงสินค้า โดยใช้กิจกรรมการสอนแบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 สาขางานการขาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 วิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน จัดทำโดย นางเจริญสุข ผ่องภักดี สังกัด วิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน
ปัญหาการวิจัย เนื่องด้วยผู้วิจัยได้รับมอบหมายให้ทำการสอนวิชา การจัดแสดงสินค้า ในภารเรียนที่ 2/2556 จากการสำรวจในชั้นเรียนพบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ในด้านการใช้เทคนิคในการจัดแสดงสินค้าค่อนข้างต่ำ ดังนั้น เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในรายวิชา การจัดแสดงสินค้า เรื่อง ประเภทของการจัดแสดงสินค้า ในภาคเรียนนี้ ให้สัมฤทธิ์ผลจึงจำเป็นต้องมีการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาผู้เรียน ผู้วิจัยจึงสนใจและทำการวิจัยในชั้นเรียน โดยใช้กิจกรรมการสอนแบบ เพื่อนช่วยเพื่อนในวิชา การจัดแสดงสินค้า
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนวิชาการจัดแสดงสินค้า โดยใช้กิจกรรมการสอนแบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน
ระเบียบวิธีวิจัย ประชากร : นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 ห้อง 3003, 3004 และ 3005 รอบเช้า สาขางานการขาย จำนวน 3 ห้อง กลุ่มตัวอย่าง : นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 3 ห้อง 3003 รอบเช้า สาขางานการขาย จำนวน 15 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย : 1. ตัวแปรต้น คือ กิจกรรมการสอนแบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน 2. ตัวแปรตาม คือ ผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนวิชาการจัดแสดงสินค้า เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย : แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์จำนวน 60 ข้อ
การวิเคราะห์ข้อมูล ตาราง 1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างเรียน จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ SD. 1 7.93 0.96 2 8.67 0.82 3 9.27 0.70 จากตารางวิเคราะห์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระหว่างเรียนจำนวน 3 ครั้ง มีคะแนนสูงขึ้นเป็นลำดับทั้ง 3 ครั้งโดยครั้งที่ 1 = 7.93, SD. = 0.96 ครั้งที่ 2 = 8.67, SD. = 0.82 และ ครั้งที่ 3 = 9.27, SD. = 0.70 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานลดลงตามลำดับด้วย นั่นแสดงว่านักเรียนมีความเข้าใจ ทำแบบฝึกหัดได้ถูกต้องเพิ่มขึ้น
การวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ) ตาราง 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาการจัดแสดงสินค้า โดยใช้กิจกรรมการสอน แบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน คะแนนสอบ SD. t Sig. ก่อนเรียน 24.13 5.18 -21.96 .000 หลังเรียน 44.40 5.48 จากตารางวิเคราะห์ พบว่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 24.13 และคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเท่ากับ 44.40 และจากการทดสอบด้วยสถิติ t-test แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้กิจกรรมการสอนแบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน ในรายวิชาการจัดแสดงสินค้า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน
สรุปผลการวิจัย จากการวิจัยพบว่า ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาการจัดแสดงสินค้า โดยใช้กิจกรรมการสอนแบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ที่เป็นทั้งนี้เนื่องจาก กิจกรรมการสอนแบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน ทำให้นักเรียนมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างเด็กที่หัวอ่อนกับเด็กที่หัวดี เช่น ให้เด็กที่หัวดีมาช่วยเด็กหัวอ่อนทำได้โดยสอนการบ้าน อธิบายเนื้อหาที่ไม่เข้าใจให้กัน ซึ่งจะส่งผลทำให้ผลการเรียนของเด็กทั้งสองกลุ่มนี้ดีขึ้นมากกว่าก่อนที่จะใช้กิจกรรมการสอนแบบกระบวนการเพื่อนช่วยเพื่อน