วิธีคำนวณการแบ่ง Subnet www.ats.co.th
ประโยชน์ที่ได้รับจากการแบ่ง Subnet เพิ่มประสิทธิภาพของ Network เพราะสามารถลด Broadcast ลงได้ เพิ่ม Security ให้กับ Network ประยุกต์ใช้กับจำนวนเครื่องที่มีมากว่า 254 เครื่องใน 1 Network www.ats.co.th
วิธีการคำนวณหา Network Address จาก Subnet Mask 1.เขียนเลข IP Address ให้อยู่ในเลขฐานสอง 2.เขียนเลข Subnet Mask ให้อยู่ในเลขฐานสองอีกเช่นกัน 3.ตั้งตำแหน่ง IP Address และ Subnet Mask ให้ตรงกันแล้วทำการคูณกัน ( Logical AND ) 4.ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Network Address นั้นเอง ตัวอย่าง IP Address เป็น 192.168.2.1 และ Subnet Mask เป็น 255.255.255.0 นำมาเขียนให้อยู่ในรูปเลขฐานสองแล้วนำมาคูณกันก็จะได้ Network Address ดังตัวตัวเลขสีแดง 11000000.10101000.00000010.00000001 11111111.11111111.11111111.00000000 11000000.10101000.00000010.00000000 www.ats.co.th
ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย ตัวอย่าง ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย . ขั้นตอนที่ 1 หาจำนวนบิตที่จะต้องยืมจาก Host Address โดยใช้สูตร . 2n ≥ x X คือจำนวน Subnet ที่ต้องการ n คือจำนวนที่ต้องหา ตัวอย่าง 23 ≥ 8 จะเห็นได้ว่า 2 ยกกำลัง 3 ได้เท่ากับ 8 ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนที่ต้องการ(ผลลัพธ์ต้องมากกว่าหรือเท่ากับ X) ดังนั้นจำนวนบิตที่จะต้องยืมจาก Host Address คือ 3 บิต จาก 192.168.2.0 จะเห็นได้ว่า Host Address นั้นมีเพียง 8 บิต เมื่อถูกยืมไปแล้ว 3 บิตก็จะเหลือเพียง 5 บิต จะคำนวณ Host ที่เหลือในแต่ละ Subnet ที่แบ่งออกมาได้จากสูตรถัดไป www.ats.co.th
ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย (ต่อ) ตัวอย่าง ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย (ต่อ) ขั้นตอนที่ 2 หาจำนวน Host ในแต่ล่ะ Network โดยใช้สูตร z = จำนวน Host ที่ได้ , m = จำนวน Bit ที่เหลือ ตัวอย่าง Host www.ats.co.th
ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย (ต่อ) ตัวอย่าง ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย (ต่อ) ขั้นตอนที่ 3 คำนวณเลข Subnet ของแต่ละเครือข่ายย่อย ให้นำ Host ในจำนวน 8 Bit สุดท้ายของ Network มาทำการคำนวณหา ค่า Subnet ของแต่ละเครือข่ายย่อยอีกที ให้นำจำนวน bit ที่เหลือจากการแบ่ง Network มาคำนวณ 28-m - 2 = x 28-3 - 2 = 30 ให้นำจำนวน Host ทั้งหมดของ Network ก็คือ 254 มาลบด้วยผลลัพธ์ที่คำนวณได้จากสูตรข้างบน 254 – 30 = 224 ฉะนั้นตัวเลข Subnet ในแต่ล่ะเครือข่ายย่อยดังนี้ 255.255.255.224 www.ats.co.th
ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย (ต่อ) ตัวอย่าง ให้ทำการแบ่ง Network ออกเป็นเครือข่ายย่อยจำนวน 5 เครือข่าย (ต่อ) ขั้นตอนที่ 4 ผลลัพธ์ของการคำนวณได้คำตอบคือ Network Network ID IP Range Broadcast Subnet 1 192.168.2.0 192.168.2.1 - 192.168.2.30 192.168.2.31 255.255.255.224 2 192.168.2.32 192.168.2.33 - 192.168.2.62 192.168.2.63 3 192.168.2.64 192.168.2.65 - 192.168.2.94 192.168.2.95 4 192.168.2.96 192.168.2.97 - 192.168.2.126 192.168.2.127 5 192.168.2.128 192.168.2.129 - 192.168.2.158 192.168.2.159 www.ats.co.th