สุมนมาลาการ
จัดทำโดย นางสาวพิมพ์กมล จักรานุกุล เลขที่ 5 นางสาวพิมพ์กมล จักรานุกุล เลขที่ 5 นางสาวภัศรา ดลกิตติกุล เลขที่6 นางสาวธนัชพร ทองสมบัติ เลขที่ 19 นางสาวตุจิน่า บิลระโอ๊ะ เลขที่ 21
ประวัติ
นายสุมนมาลาการ เป็นชาวเมืองราชคฤห์ เขามีหน้าที่นำดอกมะลิ วันละ ๘ ทะนาน ไปถวายพระเจ้าพิมพิสารแต่เช้าตรู่ทุกวัน ได้ทรัพย์วันละ ๘ กหาปณะ
วันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังถือดอกไม้จะเข้าประตูเมือง พระพุทธเจ้า เสด็จออกบิณฑบาตพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ทรงเปล่งพระรัศมี ด้วยพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ เขาเห็นอัตภาพของพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความเลื่อมใส
พลางคิดว่า ถึงแม้จะถูกพระราชาเมื่อไม่ได้รับดอกไม้จะฆ่าเราหรือขับไล่เราออกจากเมืองก็ตาม เราก็จักบูชาพระพุทธเจ้า จึงนำดอกไม้ที่จะถวายพระราชาทั้ง 8 ทะนานบูชาพระพุทธเจ้า
เมื่อถวายแล้วได้มีความปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นยิ่งนักและได้ตามเสด็จพระพุทธเจ้าไปหน่อยหนึ่งแล้ว ก็ถือกระเช้าเปล่าเดินกลับบ้านไปด้วยสีหน้าอันเอิบอิ่ม เมื่อถึงบ้าน นายสุมนมาลาการได้เล่าเรื่องที่ตนได้นำดอกไม้บูชาพระพุทธเจ้าให้ภรรยาฟัง ถูกภรรยาซึ่งเป็นหญิงไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาด่าว่าเขาว่าจักนำความพินาศมาให้ตระกูล
เมื่อได้สดับดังนั้น ทรงทราบว่าหญิงนี้เป็นผู้ไม่มีศรัทธา ภรรยารีบนำความเข้ากราบทูลพระเจ้าพิมพิสาร และทูลความที่ตนไม่เห็นดีเห็นงามด้วย ฝ่ายพระเจ้าพิมพิสาร พระองค์ทรงเต็มเปี่ยมด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อได้สดับดังนั้น ทรงทราบว่าหญิงนี้เป็นผู้ไม่มีศรัทธา จึงทรงทำเหมือนกับทรงกริ้ว แล้วรีบเสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ถวายบังคมแล้วตามเสด็จไป
จึงประทับที่พระลานหลวงไม่เสด็จเข้าไปในพระราชวัง พระพุทธเจ้าเมื่อจะทรงประกาศเกียรติคุณของนายมาลาการให้ปรากฎแก่มหาชนทั่วไป จึงประทับที่พระลานหลวงไม่เสด็จเข้าไปในพระราชวัง พระราชาได้ถวายภัตตาหารแก่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ ตามส่งพระพุทธเจ้าเสด็จกลับวัดเวฬุวันแล้ว
และทรัพย์อีก 8 พันกหาปณะ และบ้านส่วยอีก 8 ตำบล พระเจ้าพิมพิสารจึงมีรับสั่งให้นายสุมนมาลาการเข้าเฝ้า เมื่อนายสุมนมาลามาเข้าเฝ้าแล้ว พระเจ้าพิมพิสารตรัสยกย่องสรรเสริญเขาว่าเป็นมหาบุรุษ แล้วพระราชทานสิ่งของ 8 ชนิด ได้แก่ ช้าง ม้า ทาส ทาสี เครื่องประดับ นารี อย่างละแปด และทรัพย์อีก 8 พันกหาปณะ และบ้านส่วยอีก 8 ตำบล
ตกเย็นวันนั้น พระภิกษุทั้งหลายพากันสนทนาในโรงธรรม กล่าวถึงเรื่องการบูชาพระพุทธเจ้าของนายสุมนมาลาการ แล้วได้รับของพระทาน 8 อย่างจากพระเจ้าพิมพิสาร พระพุทธเจ้าเสด็จมาตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคลทำกรรมใดแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง เป็นผู้เอิบอิ่ม มีความสุขใจ นั่นแหละเรียกว่า กรรมดี
คุณธรรมที่ควรถือเป็นแบบอย่าง
เป็นผู้มีความศรัทธา นายสุมนมาลาการ เป็นอุบาสกที่ควรเป็นแบบอย่างแก่พุทธศาสนิกชน ท่านได้เสียสละชีวิตเพื่อบูชาพระพุทธ เจ้า นั่นคือ สละชีวิตเพื่อทำความดี รักษาความดีเอาไว้ แม้ชีวิตจะหาไม่ก็ตาม เป็นผู้ประกอบกรรมดี เมื่อเขาจะทำการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ แต่เกิดความลังเลว่า หากเรานำดอกไม้นี้ถวายพระพุทธเจ้า อาจถูกพระราชาฆ่าหรือขับไล่ออกจากเมือง แต่พระราชาทรงประทานทรัพย์เพียงพอแก่การเลี้ยงชีพเท่านั้น
ขอบคุณค่ะ