ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน และ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน และ การนวดหน้าอกหลังการผ่าตัดเสริมซิลิโคน งานพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัด กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยใน ภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ชนิดของเต้านมเทียม 1. ซิลิโคนเจล (silicone gel) ซึ่งมีระดับความยืดหยุ่นต่างๆกัน 2. น้ำเกลือ(saline) ซึ่งศัลยแพทย์จะเติมเข้าไปในขณะผ่าตัด 3. Becker’s implant หมายถึง ในถุงเต้านมลูกเดียวกันนั้นจะถูกแบ่ง เป็นสองส่วน คือ ชั้นนอกเป็นซิลิโคนเจล และชั้นในเป็นช่องว่างเพื่อเติมน้ำเกลือ ทำให้สามารถปรับขนาดที่ต้องการได้ภายหลังผ่าตัด
ทรงซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอก
ทรงซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอก 1.ซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำ ซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำนั้นจะมีลักษณะป่องตรงส่วนล่าง และจะแบนตรงส่วนบน มีลักษณะเหมือนหยดน้ำนั่นเอง ซึ่งซิลิโคนเสริมหน้าอกทรง หยดน้ำนี้จะเหมาะกับสาว ๆ ที่มีหน้าอกน้อย เพราะซิลิโคนทรงหยดน้ำจะให้ความรู้ ที่เป็นธรรมชาติมากกว่าและดูเนียนกว่าการเสริมด้วยซิลิโคนทรงกลม
ทรงซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอก 2.ซิลิโคนศัลยกรรมเสริมหน้าอกทรงกลม ซิลิโคนศัลยกรรมทรงกลมนั้น ขอบจะโค้งมนดูเข้ารูป ซึ่งซิลิโคนเจล ภายในจะเหลวกว่าทรงหยดน้ำ ส่งผลให้เวลานั่งหรือยืนนั้นซิลิโคนเจลของทรงกลม จะไหลลงไปข้างล่าง แต่จะกลับคืนตัวในท่านอน ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลม จะเหมาะกับสาวที่มีนมอยู่บ้างแต่ต้องการเติมเต็มให้ได้รูปหรือแก้ไขข้อบกพร่อง เช่น หย่อนคล้อย เป็นต้น
ประเภทของซิลิโคน ซิลิโคนผิวเรียบ (smooth Implant) ซิลิโคนผิวทราย (Textured Implant) 1. มีผิวสัมผัสที่เรียบ ลื่น 2. มีความนิ่มคล้ายความเป็นธรรมชาติเพราะมีเปลือกถุงที่บาง การผ่าตัดทำได้ง่ายและรวดเร็ว 3. แผลเล็ก 4. มีโอกาสการเกิดริ้วบนผิวได้น้อยกว่าเนื้อทราย 5. เหมาะสำหรับผู้เนื้อหน้าอกน้อย ผิวบาง 6. ราคาถูกกว่า 7. มีโอกาสที่เต้านมจะไหลหลุดจากทรงได้มากกว่าผิวทราย 1. การออกแบบซิลิโคนแบบผิวหยาบหรือผิวทรายนี้ เพื่อป้องกันปัญญาพังผืดหดรัดรอบถุงเต้านม ที่มักเกิดขึ้นกับถุงเต้านมเทียบแบบผิวเรียบแต่เมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่งแล้วจึงพบว่า ผลของการเกิดพังผืดหดรัดตัวแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ถ้าวางถุงซิลิโคน ไว้ใต้กล้ามเนื้อ 2. ด้วยความหนืดของผิวสัมผัสจะช่วยลดโอกาสการเคลื่อนที่ของซิลิโคน 3. ผิวทรายจะมีโอกาสเกิดริ้วคลื่นของซิลิโคนมากกว่าผิวเรียบ
ตำแหน่งการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน (Breast Implant)
ตำแหน่งการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน (Breast Implant)
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดเสริมหน้าอก การมีแผลเป็นที่มองเห็นชัด เช่น แผลเป็นนูน แผลเป็นคีลอยด์ (ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง) ภาวะมีเลือดออก หน้าอกเขียวช้ำ การเกิดภาวะติดเชื้อที่แผลผ่าตัด หรือ ติดเชื้อรอบซิลิโคนเสริมหน้าอก ความรู้สึกบริเวณหัวนมเปลี่ยนแปลง หรือ ชา ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นชั่วคราว แต่ก็พบแบบถาวรได้ในผู้ป่วยบางราย ภาวะพังผืดหดรัดตัว ซึ่งอาจทำให้เต้านมผิดรูป และต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไข ซิลิโคนเหลวหรือน้ำเกลือ แตกรั่วออกจากถุงซิลิโคน การย่นตัวเป็นคลื่นของผิวหนังเต้านม ความเสี่ยงจากการดมยาสลบ ความเจ็บปวดจากการผ่าตัด ความเสี่ยงต่อภาวะเลือดในหลอดเลือดดำที่ขาจับตัวเป็นลิ่ม ซึ่งในบางรายสามารถหลุด ไปที่ปอดได้ เป็นความเสี่ยงที่พบได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดประเภทอื่นๆ รวมทั้งมีโอกาสเสี่ยง ที่ต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขเกิดขึ้นได้
จุดประสงค์การนวดหน้าอก เพื่อยืดขยายโพรงหน้าอก เพื่อช่วยให้ซิลิโคนขยายตัวอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยให้ซิลิโคนไม่อยู่กับที่มากจนเกินไป ป้องกันกาหดรัดของโพรงหน้าอก ช่วยไม่ให้เกิดการหดพับหรือเป็นริ้ว ลดพังผืดหรือทำให้พังผืดอ่อนนุ่มลง ทำให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
การนวดหน้าอกหลังเสริมเพื่อให้นมสวย ควรนวดนมวันละ 2-3 ครั้งทำอย่างต่อเนื่องทุกวันในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก วิธีการนวดหน้าอก 1.ใช้มือทั้งสองดันหน้าอกด้านข้างให้ชิดกันมากที่สุด ค้างไว้ 10 นาที 2.ดันออกให้ห่างกันมากที่สุด ค้างไว้ 10 นาที 3.ดันหน้าอกจากบนลงล่าง ค้างไว้ 10 นาที 4.ใช้มือบีบที่ฐานของหน้าอกแล้วดันขึ้นไป ค้างไว้ข้างละ 2-5 นาที 5.กดและคลึงเป็นวงกลมรอบๆหน้าอก ข้างละ 5 นาที
การนวดหน้าอกหลังเสริมเพื่อให้นมสวย ควรนวดนมวันละ 2-3 ครั้งทำอย่างต่อเนื่องทุกวันในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
Thank you..........