วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโกสุราษฎร์ ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาอาชีวเอกชนสุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นายชนะ กฤตานุพงศ์ วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโกสุราษฎร์
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1 เพื่อศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารในสถานศึกษาอาชีวเอกชนสุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เพื่อศึกษาการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาอาชีวเอกชนสุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาอาชีวเอกชน สุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน 2 3
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาอาชีวเอกชนสุราษฎร์ธานี ปีการศึกษา 2557 จำนวน 137 คน ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาอาชีวเอกชนสุราษฎร์ธานี จำนวน 101 คน ได้มาโดยวิธีการหาขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตร Krejcie & Morgan กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากผลในการวิเคราะห์ข้อมูลในด้านสถิติพบว่า สถานภาพของผู้ตอบเกี่ยวกับเพศ ตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ระดับการศึกษา และขนาดวิทยาลัย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 53.50 เป็นครูปฏิบัติการคิดเป็นร้อยละ 71.30 มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานตั้งแต่ 11-20 ปีคิดเป็นร้อยละ 25.70 มีระดับการศึกษาปริญญาตรีคิดเป็นร้อยละ 69.30และขนาดของวิทยาลัยส่วนใหญ่ขนาดกลางคิดเป็นร้อยละ 52.50 ของผู้ตอบแบบสอบถาม
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ) ตัวแปร BB1 BB2 BB3 BB4 BB5 BB6 BB7 BBT RR1 0.594** 0.688** 0.713** 0.526** 0.597** 0.564** 0.602** RR2 0.577** 0.576** 0.633** 0.446** 0.626** 0.515** 0.584** 0.637** RR3 0.605** 0.673** 0.709** 0.580** 0.749** 0.592** 0.735** RR4 0.720** 0.734** 0.768** 0.738** 0.659** 0.675** 0.791** RR5 0.653** 0.537** 0.647** 0.548** 0.553** 0.684** RR6 0.625** 0.679** 0.711** 0.656** 0.563** 0.624** RRT 0.685** 0.783** 0.740** 0.672** 0.781**
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ) ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารในสถานศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับ คือ ด้านการระบุวิสัยทัศน์อย่างชัดเจน ด้านการเกื้อกูลการยอมรับเป้าหมายของกลุ่ม ด้านการคาดหวังผลการปฏิบัติงานของผู้ตามในระดับสูง ด้านการเป็นแบบอย่างที่เหมาะสม ด้านการปลุกเร้าทางปัญญา และด้านการให้การสนับสนุนผู้ตามเป็นรายบุคคล
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ) การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ระดับมาก เรียงตามลำดับ คือ ด้านการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการวัดผลประเมินผลและ การเทียบโอนผลการเรียน ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ด้านการนิเทศการศึกษา ด้านการพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี และด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ) ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ต่อ) ความสัมพันธ์ระหว่าง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร กับการบริหารงานวิชาการ โดยภาพรวมและรายด้าน มีความสัมพันธ์ในระดับสูง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เมื่อพิจารณา พบว่า ความสัมพันธ์กับการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา ด้านที่มีความสัมพันธ์สูงมากที่สุด คือ ด้านการวัดผล ประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียน รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา และด้านที่มีความสัมพันธ์สูงน้อยที่สุด คือ ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
สรุปและอภิปรายผล ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารในสถานศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับและรายด้านอยู่ในระดับมาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้บริหารเป็นบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการบริหารสถานศึกษาอย่างยิ่ง ผู้บริหารจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มีการสร้างความร่วมมือกับครู และบุคลากรทางการศึกษาในทุกด้าน เพื่อพัฒนาสถานศึกษาให้เกิดการพัฒนาและความร่วมมือ ทั้งด้านผู้นำและผู้ตามอย่างต่อเนื่องเป็นที่ยอมรับของผู้เรียน ผู้ปกครอง สถานประกอบการ และชุมชน
สรุปและอภิปรายผล (ต่อ) ซึ่งสอดคล้องกับนันธิดา บัวสาย (2552 : 138) ได้วิจัยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร โรงเรียนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนมเขต 2 พบว่า ผู้บริหารควรที่จะมีการส่งเสริมศักยภาพของผู้ตามให้มีความรู้ ความสามารถในด้านความรู้ความสามรถในด้านการเป็นผู้นำ
สรุปและอภิปรายผล (ต่อ) การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา ผลการวิจัยในภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา เป็นการการประมวลผลของการดำเนินงานของสถานศึกษาตลอดทั้งปี ที่ทุกฝ่ายจะต้องมีส่วนร่วม ทั้ง ผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และชุมชน
สรุปและอภิปรายผล (ต่อ) สอดคล้องกับธีระพงศ์ แสนคำ (2554: 51-52) ได้วิจัยการบริหารวิชาการโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ของโรงเรียนในอำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม พบว่า การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาโดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
สรุปและอภิปรายผล (ต่อ) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการ มีความสัมพันธ์ในระดับสูงทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ0.01และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อยู่ 0.781 ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาได้มีการพัฒนาตนเองเป็นอย่างมาก ผู้บริหารได้รับการศึกษาในสาขาการบริหารการศึกษาทุกคน มีการอบรมเชิงปฏิบัติการจากหน่วยงานต้นสังกัด อย่างสม่ำเสมอ
สรุปและอภิปรายผล (ต่อ) ซึ่งสอดคล้องกับพีรพรรณ ทองปั้น (2552 :110) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเลย เขต 1 โดยภาพรวม มีความสัมพันธ์ในระดับสูงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เช่นกัน แสดงว่าผู้บริหารที่บริหารงานวิชาการในสถานศึกษาสามารถพัฒนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอแนะ ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารกับการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาอาชีวเอกชนสุราษฎร์ธานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาที่ควรมีการดำเนินการ คือการให้การสนับสนุนผู้ตามเป็นรายบุคคล จากผลการวิจัยพบว่ามีค่าเฉลี่ยที่ต่ำสุด เพื่อให้เป็นการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ย่อมต้องมีการให้การสนับสนุนตามศักยภาพ ส่วนการบริหารงานวิชาการก็เป็นผลจากการขาดสิ่งที่นำมาสนับสนุน ครูและบุคลากรทางการศึกษาก็คือด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา จึงควรจะต้องส่งเสริม สนับสนุนในด้านการวิจัยให้มากเพื่อพัฒนาการศึกษาทางด้านอาชีวเอกชน