Galileo Galilei

ประวัติของ Galileo Galilei ในปี พ.ศ. 2117 (ค.ศ. 1574) - ย้ายที่อยู่ไปยัง เมืองฟลอเรนซ์ และเข้าศึกษาต่อที่โบสถ์วอลล อมโบรซา ภาพ Galileo

ปี พ.ศ. 2124 (ค.ศ. 1581) เข้า ศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยปิซา ปี พ.ศ. 2124 (ค.ศ. 1581) เข้า ศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยปิซา ปี พ.ศ. 2126 (ค.ศ. 1583) - ได้ ค้นพบ กฎการแกว่งของลูกตุ้ม จากการแกว่งของโคมไฟ ณ มหาวิทยาลัยปิซา (ภาพ กาลิเลโอสังเกตการณ์แกว่งจากโคมไฟ)

ปี พ.ศ. 2127 (ค.ศ. 1584) - มีทุน ทรัพย์ไม่พอในการเรียน จึงลาออก จากมหาวิทยาลัยปิซา และกลับมา ยังเมืองฟลอเรนซ์ ปี พ.ศ. 2132 (ค.ศ. 1589) - ได้รับ ตำแหน่งเป็นอาจารย์วิชา คณิตศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยปิซา (เมืองปิซา)

(แผ่นป้ายติดตั้งที่หอเอนปิซา เป็นการระลึกถึงการทดลองของกาลิเลโอ) ปี พ.ศ. 2133 (ค.ศ. 1590) - ได้ ค้นพบ กฎการตกของวัตถุ โดยมีการทดลองที่ หอเอน เมืองปิซา ปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) - ได้ เป็นอาจารย์วิชาคณิตศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยแพดัว (แผ่นป้ายติดตั้งที่หอเอนปิซา เป็นการระลึกถึงการทดลองของกาลิเลโอ)

ปี พ.ศ. 2152 (ค.ศ. 1609) - กาลิเลโอ ประดิษฐ์ กล้องโทรทรรศน์ ปี พ.ศ. 2142 (ค.ศ. 1599) - เริ่มชีวิตคู่ โดยแต่งงาน กับ มารีนา กัมเบอร์ ปี พ.ศ. 2152 (ค.ศ. 1609) - กาลิเลโอ ประดิษฐ์ กล้องโทรทรรศน์ (กาลิเลโอส่องกล้องโทรทรรศน์)

ปี พ.ศ. 2153 (ค.ศ. 1610) - ในเดือน มกราคม ได้ค้นพบดาวบริวารของดาว พฤหัสบดี และได้ออกหนังสือชื่อ The Starry Messenger และยังได้กลับมาเป็น ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยปิซาอีกครั้ง ด้วยความอนุเคราะห์ของยุคเมดิชี ปี พ.ศ. 2166 (ค.ศ. 1623) - เขียนงานวรรณกรรมชิ้นสำคัญ อิลซัจจาโตเร

ค.ศ. 1737 หลังจากมีการสร้าง อนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ปี พ.ศ. 2176 (ค.ศ. 1633) - ถูกศาสนจักรไต่ สวนและตัดสินว่ามีความผิด ฐานนอกรีต และถูกกัก บริเวณอยู่แต่ในบ้านของ ตนเอง (Galileo เข้าไต่สวน) ปี พ.ศ. 2185 (ค.ศ. 1642) - วันที่ 8 มกราคม กาลิเลโอ เสียชีวิต ท่ามกลางลูกศิษย์ไม่กี่คน ค.ศ. 1737 หลังจากมีการสร้าง อนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา (อนุสาวรีย์ Galileo)

ผลงานของเด่น Galileo Galilei ค.ศ. 1584 ตั้งกฎเพนดูลัม (Pendulum) หรือกฎการแก ว่างของนาฬิกาลูกตุ้ม ค.ศ. 1585 ตีพิมพ์หนังสือชื่อว่า Hydrostatics Balance และ Centre of Gravity ค.ศ. 1591 พิสูจน์ทฤษฎีของอริสโตเติลที่ว่าวัตถุที่มี น้ำหนักเบาว่าผิด อันที่จริงวัตถุจะตกถึงพื้นพร้อมกัน เสมอ พัฒนากล้องโทรทรรศน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ สามารถส่องดูดาวบนจักรวาลได้ พบลักษณะพื้นผิวของดวงจันทร์

พบว่าดาวมีหลายประเภท ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกัน ได้แก่ ดาวเคราะห์ และดาวฤกษ์ พบทางช้างเผือก (Milky Way) พบบริวารของดาวพฤหัสบดี ว่ามีมากถึง 4 ดวง พบวงแหวนของดาวเสาร์ ซึ่งปรากฏว่ามีสีถึง 3 สี พบว่าพื้นผิวของดาวศุกร์มีลักษณะคล้ายกับดวงจันทร์ พบจุดดับบนดวงอาทิตย์ (Sun Spot) พบดาวหาง 3 ดวง

สมาชิกในกลุ่ม 1.นางสาวศิริวรรณ วงษ์ทับทิม 115810908014-8 2. นางสาวณัฐธิดา สุขใส 115810908023-9 3. นางสาวอัฐภิญญา ทัพจีน 115810908032-0