ข่าวเทคโนโลยี สารสนเทศ เรื่อง ก. ไอซีทีบุกเกาหลีดูการใช้ไอทีลด ความเหลือมล้ำการศึกษา ความเหลือมล้ำการศึกษา จัดทำโดย น. ส. ณภัทร สิงหนาท ม.4/12 เลขที่ 24 ม.4/12 เลขที่ 24 เสนอ คุณครู ปริญญา เหลืองแดง โรงเรียนกาญจนา นุเคราะห์
ไอซีที ศึกษาแนวทางการพัฒนาด้านไอซีที เพื่อการศึกษาของประเทศ เกาหลีใต้ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเด็กด้อยโอกาสให้เกิดผลเป็น รูปธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ทำให้ได้รับความรู้และ ประสบการณ์นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวว่า หลังจากเดินทางไปศึกษาดูงาน หน่วยงานด้านไอซีที เพื่อการศึกษา ณ ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับผู้แทน จาก 4 หน่วยงาน คือ สำนักงานส่งเสริมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพ เยาวชน ( สสค.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ( สกว.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช.) ภายใต้ ข้อตกลงทางวิชาการเพื่อการพัฒนาการใช้ไอซีทีในการช่วยเหลือเด็ก ด้อยโอกาสและ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมนั้น ทำให้ได้รับความรู้และ ประสบการณ์ เพื่อการศึกษาจาก KERIS (Korea Education and Research Information Service) และ NIA (Nation Information Society Agency)
ซึ่งสะท้อนภาพการทำงานจากนโยบายไปสู่ การปฏิบัติด้านไอซีที อย่างเป็นรูปธรรม โดย KERIS จะเน้นการทำงานกับเด็กใน ระบบโรงเรียนผ่านการพัฒนาโปรแกรมไอซี ทีที่สอดคล้อง กับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละ กลุ่ม อาทิ โปรแกรม EDUNET ที่ส่งเสริม การสอนและการฝึกอบรมของครู โปรแกรม Research Information Service System (RISS) ที่ให้บริการด้านสารสนเทศเพื่อการ วิจัย โปรแกรม National Education Information System (NEIS) ที่สนับสนุน การบริหารจัดการระบบการศึกษา (e- Administration) ส่วนความรู้และ ประสบการณ์ที่ได้รับจาก NIA ของเกาหลีใต้ นั้น จะเน้นการใช้ไอซีทีเพื่อประชาชนทุก กลุ่มเป้าหมาย โดยในการศึกษาดูงาน หน่วยงาน
ครั้งนี้เน้นเฉพาะกลุ่มคนพิการ ซึ่งมีการ นำเสนออุปกรณ์ hi-tech ที่พัฒนาขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ ของคนพิการในแต่ละกลุ่ม อาทิ เครื่อง สั่งการเมาส์ทางสายตาสำหรับผู้พิการ ทางการเคลื่อนไหว ( แขน ) เครื่อง ขยายตัวอักษรสำหรับผู้พิการ ทางการ มองเห็น เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังศึกษาดูงาน พิพิธภัณฑ์คลองชองเกชอน ที่ สะท้อนภาพความรักชาติ และความร่วมมือสานสัมพันธ์ เพื่อพัฒนาชาติไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การพัฒนา สายน้ำที่มีสภาพสกปรกและเน่าเหม็นในอดีต ให้กลายเป็น คลองที่ใสสะอาดในปัจจุบัน โดยโครงการนี้ใช้เวลา 2 ปี 3 เดือนกับกระบวนการภาคประชาสังคม สร้างการมีส่วนร่วม โดยจัดประชุมมากกว่า 4,000 ครั้งกับผู้ได้รับผลกระทบใน การก่อสร้างฟื้นฟูคลองหลายแสนคน และการเปิดโอกาส ให้ประชาชนทุกคนตั้งแต่เด็กถึงผู้อาวุโสมีส่วนร่วมให้ความ คิดในการออกแบบคลอง อันนำมาสู่ความรู้สึกเป็นเจ้าของ คลองอันเป็นสายเลือดหลักของกรุงโซลมาแต่ โบราณนี้ อย่างแท้จริง
สำหรับ ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากประเทศ เกาหลีใต้ในครั้งนี้ เป็นความรู้ที่คณะทำงานภายใต้ ความร่วมมือ 4 ฝ่ายสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ สังคมไทยได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการวาง แผนการทำงานด้านไอซีที เพื่อเด็กด้อยโอกาสผ่านทุน และเครือข่ายการทำงานที่มีอยู่แล้ว อาทิ เครือข่ายศูนย์ การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนของกระทรวงฯ ในการพัฒนา และกระจายสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพไปสู่เด็กด้อย โอกาสในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น สำหรับ ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากประเทศ เกาหลีใต้ในครั้งนี้ เป็นความรู้ที่คณะทำงานภายใต้ ความร่วมมือ 4 ฝ่ายสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ สังคมไทยได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการวาง แผนการทำงานด้านไอซีที เพื่อเด็กด้อยโอกาสผ่านทุน และเครือข่ายการทำงานที่มีอยู่แล้ว อาทิ เครือข่ายศูนย์ การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนของกระทรวงฯ ในการพัฒนา และกระจายสื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพไปสู่เด็กด้อย โอกาสในพื้นที่ห่างไกล เป็นต้น
“ นอกเหนือจากประสบการณ์ที่ได้รับแล้ว การศึกษาดูงาน ในครั้งนี้ยังได้สร้างแรงบันดาลใจร่วมกันในการผลักดัน งานด้าน ไอซีที เพื่อเด็กด้อยโอกาสให้เกิดผลเป็น รูปธรรม โดยปัจจัยความสำเร็จนั้นอยู่ที่การวางเป้าหมาย ทุกระยะอย่างชัดเจน ความร่วมมือกันอย่างดี และมี ทัศนคติทางบวกต่อกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่จะทำ ให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานบนฐานทุน การทำงานที่แต่ละ ฝ่ายมีอยู่แล้ว อันจะทำให้งานทั้งหมด ก้าวข้ามข้อจำกัดและดำเนินไปสู่เป้าหมายที่ทุกฝ่ายมี ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ” นางจีราวรรณ กล่าว
Thank You