รูปแบบคาโนนิคัล หรือรูปแบบบัญญัติ หรือรูปแบบมาตรฐาน canonical forms

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
ตารางค่าความจริง คือ อะไร
Advertisements

ระบบสมการเชิงเส้น F M B N เสถียร วิเชียรสาร.
อสมการ 1.1 อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
พีชคณิตบูลีน Boolean Algebra.
ลอจิกเกต (Logic Gate).
การประยุกต์ Logic Gates ภาค 2
สื่อการเรียนรู้ โดย นางสุมิตรา ดีมี
เกตทางตรรกและพีชคณิตแบบบูล
CS Assembly Language Programming
ตัวอย่าง Flowchart.
เมตาคอกนิชัน(Metacognition)
อสมการ.
การประยุกต์สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
ผังงานโปรแกรม (Program Flowchart)
PHP LANGUAGE.
แผนผัง FlowChart Flow Chart คือ ขั้นตอนที่นำผลที่ได้จากการกำหนดและการ วิเคราะห์ปัญหามาเขียนเป็นแผนภาพหรือสัญลักษณ์ ประโยชน์ของผังงาน -ช่วยลำดับขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม.
เนื้อหา ประเภทของโปรแกรมภาษา ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
EEE 271 Digital Techniques
Minimization วัตถุประสงค์ของบทเรียน
Boolean Algebra วัตถุประสงค์ของบทเรียน
Digital Logic and Circuit Design
Combination Logic Circuit
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี
ขั้นตอนการประมวลผล แบบ FUZZY.
บทที่ 4 การโปรแกรมเชิงเส้น (Linear Programming)
ตัวอย่างงานวิจัย องค์ประกอบที่มีความสัมพันธ์กับการใช้ห้องสมุดของนักเรียนมัธยมศึกษา ตารางที่ 4-7 ตารางที่
ดร.สุรศักดิ์ มังสิงห์ SPU, Computer Science Dept.
บทที่ 3 ตัวดำเนินการ และ นิพจน์
การหาเซตคำตอบของอสมการ
สรุปการใช้ประโยชน์ จากโปรแกรมกระดาษคำนวณ
Page: 1 การโปรแกรมเชิงวัตถุด้วยภาษา JAVA บุรินทร์ รุจจนพันธุ์.. ปรับปรุง 15 มิถุนายน 2550 Structure Programming มหาวิทยาลัยเนชั่น.
ผังงาน (Flowchart) มหาวิทยาลัยเนชั่น หลักการภาษาชุดคำสั่ง
เกท (Gate) AND Gate OR Gate NOT Gate NAND Gate NOR Gate XNOR Gate
แผนผังคาร์โนห์ Kanaugh Map
ทฤษฎีของพีชคณิตบูลีน (Boolean algebra laws)
การวิเคราะห์และสังเคราะห์เกต
สร้าง Query ในมุมมอง Design
การวิเคราะห์ข้อสอบ ดร.ปรัชญนันท์ นิลสุข
การแปลงเลขฐานใดๆเป็นฐานใดๆ
ค21201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 1
การวิเคราะห์วงจรโดยใช้ฟูริเยร์
ผศ.วิภาวัลย์ นาคทรัพย์ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยสยาม
Block Cipher Principles
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Architecture)
การสอบถามข้อมูลด้วยฟังก์ชั่นสำหรับ
วงจรนับ (COUNTER CIRCUIT)
การใช้ Word เพื่อการคำนวณ
พีชคณิตบูลีน และการออกแบบวงจรลอจิก (Boolean Algebra and Design of Logic Circuit)
พีชคณิตบูลีน Boolean Algebra.
รูปแบบการเขียนผังงานแบบ 2 ทางเลือก
การเขียนผังงานแบบทางเลือก
CS Assembly Language Programming
การเขียนโปรแกรมเบื้องต้น
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ: คำสั่ง while คำสั่ง do….while
ตัวดำเนินการ และนิพจน์คณิตศาสตร์
เรื่องการประยุกต์ของสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
นางสาวสุพรรษา ธรรมสโรช
การใช้สูตรคำนวณ ในโปรแกรม Microsoft Excel 2007
Introduction to Digital System
ระบบเลขจำนวน ( Number System )
LAB 2. การเขียนวงจรลอจิกจากสมการลอจิก
การ Recode ข้อคำถามที่เป็นเชิงลบ
เศษส่วนของพหุนาม การทำให้อยู่ในรูปเศษส่วนอย่างต่ำ
Flowchart การเขียนผังงาน.
การเขียนโปรแกรมบนเว็บ (Web Programming) บทที่ 2: ทบทวนการเขียน ภาษา Java ใช้ร่วมกับ Html และการรับข้อมูลจาก Form.
ผังงานโปรแกรม (Program Flowchart)
หลักการลดรูปฟังก์ชันตรรกให้ง่าย
ครั้งที่ 3 การวิเคราะห์ และ ออกแบบวงจรเกต
อินเทอร์เน็ต by krupangtip
ใบสำเนางานนำเสนอ:

รูปแบบคาโนนิคัล หรือรูปแบบบัญญัติ หรือรูปแบบมาตรฐาน canonical forms การเขียน Switching function หรือ Boolean expression แบบมาตรฐาน มี 2 แบบ แบบที่ 1 Canonical sum of product form เช่น f(A,B,C) = (A’BC) + (A’BC’) แบบที่ 2 Canonical product of sum form เช่น f(A,B,C) = (A’+B+C) (A+B+C) book_digitaltechnique1.pdf p.

รูปแบบคาโนนิคัล หรือรูปแบบบัญญัติ หรือรูปแบบมาตรฐาน canonical forms ฟังก์ชันเชิงตรรกะสามารถแสดงให้อยู่ในรูปแบบบัญญัติได้ ทั้งแบบ "ผลบวกของมินเทิร์ม" และแบบ "ผลคูณของแมกซ์เทิร์ม" รูปแบบบัญญัติทำให้เราสามารถวิเคราะห์เพื่อลดความซับซ้อนของฟังก์ชันเหล่านี้ได้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดรูปวงจรดิจิทัลให้สั้นลง http://www.ece.msstate.edu/~reese/EE3714/minmax/minmax.pdf http://en.wikipedia.org/wiki/Canonical_form_(Boolean_algebra) http://www.kmitl.ac.th/dslabs/klattasi/st_in_inf_eng/chapter2.pdf p.23 http://www.allaboutcircuits.com/worksheets/sop_pos.html

รูปแบบคาโนนิคัล หรือรูปแบบบัญญัติ Sum of Products : SOP คือ ผลคูณของผลบวก การรวมด้วย AND เช่น (A.B) + (A.B) Product Term หรือ Min Term เป็นการนำที่ And แล้ว มา Or กัน รูปปกติคือ 1 Product of Sum : POS คือ ผลบวกของผลคูณ การรวมด้วย OR เช่น (A + B) (A + B) Sum Term หรือ Max Term เป็นการนำที่ Or แล้ว มา And กัน รูปปกติคือ 0 A B Y A B SOP Y = (A.B) + (A.B)

เงื่อนไขการสำเร็จการศึกษา แล้วอะไรที่ยังคั่งค้างอยู่ จงเขียนเป็นสมการ SOP Sum of Products : SOP Y = (ABC) + (ABC) A = จ่ายค่าเล่าเรียนครบ B = เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 C = เรียนครบตามหลักสูตร input A B C m Product Term 1 2 3 A'BC 4 5 6 ABC' 7 input output A B C Y 1 Minterm คือ f(ABC) = ∑ m ( 3 , 6 )

Minterm Maxterm Notation http://www.ece.msstate.edu/~reese/EE3714/minmax/minmax.pdf

การเปลี่ยน Min term เป็น Max term input output A B C Y 1 Min term คือ f(ABC) = ∑ m ( 3 , 6 ) Max term คือ f(ABC) = ∏ M ( 0,1,2,4,5,7 ) SOP หรือ Minterm มีรูปปกติ คือ 1 POS หรือ Maxterm มีรูปปกติ คือ 0 Sum of Products : SOP Y = (ABC) + (ABC) Product of sum : POS Y = (A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)

จงเขียนสมการสำหรับ การเลือกคู่ครองของท่าน โดยเขียนสมการแบบ SOP, POS, Minterm, Maxterm โจทย์ มีเงื่อนไข 3 ปัจจัย ประกอบการตัดสินใจ หล่อ/สวย รวย เก่ง แบบที่ทำให้ตัดสินใจมี 2 แบบ แบบที่ 1 รวยและเก่ง ไม่ต้องหล่อ/สวยก็ได้ แบบที่ 2 ต้องหล่อ/สวย และรวย ไม่ต้องเก่งก็ได้ ถ้าทั้ง หล่อ/สวย และ รวย และเก่ง ครบ 3 อย่าง จะไม่เลือก เพราะดีเกินไป

จงเขียนสมการสำหรับ การเลือกคู่ครองของท่าน โดยเขียนสมการแบบ SOP (Sum of Products) ขั้นตอนที่ 1 ตารางค่าความจริงที่ได้สำหรับสมการแบบ SOP เป็น Minterm input output A B C A’BC ABC’ Y=(A’BC)+(ABC’) 1

จงเขียนสมการสำหรับ การเลือกคู่ครองของท่าน โดยเขียนสมการแบบ POS (Product of Sum) ขั้นตอนที่ 2 ตารางค่าความจริงที่ได้สำหรับสมการแบบ POS เป็น Max term input Y=(A+B+C)(A+B+C‘)(A+B'+C)(A'+B+C)(A'+B+C‘)(A'+B'+C') A B C A+B+C A+B+C' A+B'+C A'+B+C A'+B+C' A'+B'+C' Y 1

จงเขียนสมการสำหรับ การเลือกคู่ครองของท่าน โดยเขียนสมการแบบ SOP และ POS ขั้นตอนที่ 3 แปลงเป็นสมการ SOP นั้น เลือกเฉพาะที่เป็นจริง โดยค่าที่ใช้คือค่า 1 นำแต่ละบรรทัดเชื่อมด้วย OR POS นั้น เลือกเฉพาะที่เป็นเท็จ โดยค่าที่ใช้คือค่า 0 นำแต่ละบรรทัดเชื่อมด้วย And Sum of Products : SOP Y = (ABC) + (ABC) Product of sum : POS Y = (A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)

จงเขียนสมการสำหรับ การเลือกคู่ครองของท่าน โดยเขียนสมการแบบ Minterm และ Maxterm Sum of Products : SOP Y = (ABC) + (ABC) = m3 + m6 Y= f(ABC) = ∑ m ( 3 , 6 ) Product of Sum : POS Y = = M0 M1 M2 M4 M5 M7 Y = f(ABC) = ∏ M ( 0,1,2,4,5,7 ) (A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)

จงเขียนสมการสำหรับ การเลือกคู่ครองของท่าน โดยเขียนสมการแบบ SOP, POS, Minterm, Maxterm โจทย์ มีเงื่อนไข 3 ปัจจัย คือ 1.หล่อ/สวย 2.รวย 3.เก่ง แบบที่ทำให้ตัดสินใจ แบบที่ 1 รวยและเก่ง ไม่ต้องหล่อ/สวยก็ได้ แบบที่ 2 ต้องหล่อ/สวย และรวย ไม่ต้องเก่งก็ได้ คำตอบ 1. Sum of Products : SOP Y = (ABC) + (ABC) 2. Product of sum : POS Y = (A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C)(A+B+C) 3. Min term Y= f(ABC) = ∑ m ( 3 , 6 ) 4. Max term Y= f(ABC) = ∏ M ( 0,1,2,4,5,7 )