The designs inspired by Phra Maha Chedi of King Rama I-IV at Wat Phra Chetuphon Vimolmangklararm Rajwaramahaviharn Mr. Taechit Cheuypoung

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และเป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1 ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย และทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เมื่อ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2551 วันที่ 16 มิถุนายน 2554 ทางยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดกความทรงจำโลก ในทะเบียนนานาชาติ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารถือได้ว่า เป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุด(สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม, ก้าวไปในบุญ :เสริมมงคลไหว้พระ ๙ วัด, กุมภาพันธ์ 2548) ในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์ พระเจดีย์ที่สำคัญ คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ประจำพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

สิ่งก่อสร้างทั้งหลายในเขตวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามนี้ จะปฏิเสธความสวยงามและความโดดเด่นของพระมหาเจดีย์สี่รัชกาลคงไม่ได้ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ ตั้งอยู่ถัดจากพระอุโบสถ ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว ความสวยงามของรูปแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งลวดลายและสีที่เกิดขึ้นนั้น ได้สร้างความงดงามและประทับใจอย่างมหัศจรรย์แก่ผู้ที่ได้พบเห็นรวมถึงผู้วิจัย ในครั้งนี้พระมหาเจดีย์สี่รัชกาลจึงเป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่ผู้วิจัยจะทำการศึกษาในเรื่องของรูปแบบลวดลายและสีที่เกิดขึ้น

"พระมหาเจดีย์พระศรีสรรเพชญดาญาณ" องค์พระเจดีย์ประด้วยกระเบื้องเคลือบสีเขียว ตั้งอยู่ตรงกลางของหมู่พระมหาเจดีย์ ล้อมรอบด้วยพระมหาเจดีย์อีก 3 องค์ นับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1

"พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรรกนิทาน" ซึ่งพระองค์ทรงสร้างขึ้นเพื่อพระราชอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบรมราชชนก ซึ่งนับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 2

"พระมหาเจดีย์มุนีบัติบริขาน" ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลือง ซึ่งพระองค์ทรงสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยนับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 3

"พระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัย" นับเป็นพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 4 ถ่ายแบบมาจากพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย มีซุ้มคูหาเข้าไปภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีขาบหรือสีน้ำเงินเข้ม

ลวดลายไทยประยุกต์ทั้ง 4 ลายนี้ ผู้วิจัยได้นำหลักการออกแบบลวดลายไทยและหลักองค์ประกอบศิลป์ที่เป็นหลักสากลมาใช้ในการออกแบบ โดยยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของลวดลายกระเบื้องเคลือบของพระมหาเจดีย์แต่ละองค์ไว้ ผู้วิจัยได้นำองค์ประกอบของลาย อันได้แก่ ลายดอกไม้ขอบมน ดอกไม้ขอบหยัก ลายใบไม้ ลายเถา และรูปสี่เหลี่ยมแบบต่างๆ ซึ่งเป็นลวดลายดั้งเดิม บนชุดสีเดิมที่มีการสับเปลี่ยนสัดส่วนใหม่ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมทั้งนำองค์ประกอบต่างๆข้างต้น มาจัดกลุ่มและเชื่อมโยงด้วยเทคนิคใหม่ โดยอ้างอิงจากเค้าโครงการจัดองค์ประกอบเดิมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระมหาเจดีย์องค์นั้นๆ ทำให้ผลงานการออกแบบลวดลายที่ได้มีความทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนให้เห็นถึง เสน่ห์และความงามของงานช่างฝีมือไทย ที่มีความร่วมสมัยไม่เสื่อมคลาย

Thank you