เทคนิคการวิจัยแบบ EDFR (Ethnographic Delphi Futures Research) รศ.ดร.บุญมี พันธุ์ไทย เทคนิคการวิจัยแบบ EDFR พัฒนาขึ้นโดยผสมผสานเทคนิคการวิจัยแบบ EFR (Ethnographic Futures Research) กับเดลฟาย (Delphi) ขั้นตอนของ EDFR ก็คล้ายกันกับ Delphi แต่ปรับปรุงวิธีให้ยืดหยุ่นและเหมาะสมมากขึ้น
โดยรอบแรกจะใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบ EFR หลังจากการสัมภาษณ์รอบแรก ผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์และสังเคราะห์แล้วสร้างเครื่องมือ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบสอบถามโดยให้ผู้เชี่ยวชาญตอบตามรูปแบบของเดลฟายเพื่อกรองความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อหาฉันทามติ ทำประมาณ 2-3 รอบ แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์แนวโน้มที่มีความเป็นไปได้มากและสอดคล้องทางความคิดเห็นระหว่างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสรุปเป็นอนาคตภาพ
ขั้นตอนของEDFRมีดังนี้ กำหนดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก ถ้าเราได้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆ ผลของการวิจัยก็จะเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น
สัมภาษณ์ EDFR รอบที่หนึ่ง เมื่อได้ผู้เชี่ยวชาญแล้วก็จะนัดเวลาสัมภาษณ์ซึ่ง การสัมภาษณ์จะเหมือนกับ EFR โดยเริ่มจาก Optimistic Realistic (O-R) Pessimistic Realistic (P-R) และ Most Probable (M-P) ตามลำดับ
(ข้อ 2 ต่อ) หรือจะเลือกสัมภาษณ์เฉพาะแนวโน้มที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าเป็นไปได้และน่าจะเป็น โดยไม่คำนึงว่าแนวโน้มนั้นๆ จะดีหรือร้าย
วิเคราะห์ / สังเคราะห์ข้อมูล นำข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์และสังเคราะห์ เพื่อสร้างเป็นเครื่องมือสำหรับทำเดลฟาย สร้างเครื่องมือเป็นแบบสอบถามปลายปิด ทำเดลฟาย ( รอบที่สอง สาม ...) เขียนอนาคตภาพเพื่อสรุปเป็นผลการวิจัย
ข้อเปรียบเทียบระหว่าง EDFR กับ Delphi ในรอบแรกของการวิจัย EDFR ใช้การสัมภาษณ์แบบ EFR ซึ่งจะช่วยให้ผู้วิจัยได้แนวโน้มที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด และนำไปศึกษาต่อในรอบที่สองและสาม ซึ่งเป็นการเคารพความเชี่ยวชาญของผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง
การวิจัยแบบเดลฟาย รูปแบบในรอบ2 และ3 จะเป็นแบบสอบถามปลายปิดที่ผู้วิจัยสร้างจากผลการสัมภาษณ์รอบที่หนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นการดูถูก (Underestimate) ความเชี่ยวชาญของผู้เชี่ยวชาญ เพราะจำกัดคำตอบที่ควรจะได้จากผู้เชี่ยวชาญ หรือเป็นการกำหนดกรอบความคิดของผู้เชี่ยวชาญ
EDFR ใช้การสัมภาษณ์ในรอบแรกซึ่ง จะได้แนวโน้มและประเด็นปัญหาที่สอดคล้องตามจุดมุ่งหมายของการวิจัยอนาคตและแนวโน้มทุกแนวโน้ม ยังได้รับการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญอีกในการทำ EDFR รอบที่สอง สาม ...
เปรียบเทียบระหว่าง EDFR กับ EFR EDFR ต่างจาก EFR คือ EFR สัมภาษณ์รอบเดียว ส่วน EDFR สัมภาษณ์รอบแรกแล้วตามด้วยเดลฟายในรอบที่สอง สาม ... วิธีการของ EDFR จึงมีระบบของการได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้มากกว่า
ผลสรุปของ EFR คือ อนาคตภาพที่ได้จากการสัมภาษณ์รอบเดียว โดยเลือกเอาแนวโน้มที่มีฉันทามติระหว่างผู้ถูกสัมภาษณ์ จุดอ่อนคือ ขาดระบบที่น่าเชื่อถือในการพิจารณาแนวโน้มที่มีฉันทามติ ซึ่งแนวโน้มที่สำคัญอาจหลุดไป
ส่วน EDFR มีแนวโน้มที่ได้จากการสัมภาษณ์ รอบแรกป้อนกลับไปให้ผู้เชี่ยวชาญทุกคนพิจารณาอีกในการเดลฟาย ทำให้ทุกแนวโน้มได้รับการพิจารณาอย่างมีระบบเท่าเทียมกัน ผลสรุปที่ได้จากการวิจัยแบบ EDFR จึงเป็นระบบและได้แนวโน้มที่มีความครอบคลุมและน่าเชื่อถือมากกว่า EFR