โครงสร้างอะตอม (Atomic structure) 10 โครงสร้างอะตอม (Atomic structure) J.J. Thomson (1879) J.J. Thomson (1856 - 1940) ค้นพบอิเล็กตรอน ซึ่ง - มีประจุไฟฟ้าลบ - มีมวลประมาณ1/2000 ของมวลของ H โดยศึกษาพฤติกรรมของ หลอดรังสีแคโทด ในสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
11 Cathode ray tube
มีค่าคงที่ไม่ขึ้นกับ 12 = 1.76 x 10-8 คูลอมบ์ / กรัม e m e m มีค่าคงที่ไม่ขึ้นกับ ชนิดของแก๊ส ชนิดของโลหะขั้วไฟฟ้า ชนิดของสารที่ใช้ทำหลอดรังสีแคโทด
Robert Millikan (1909) 13 หาประจุของอิเล็กตรอนโดย Millikan’s oil-drop experiment
ประจุของอิเล็กตรอน (e) = 1.60 x 10-19 คูลอมบ์ 14 ประจุของอิเล็กตรอน (e) = 1.60 x 10-19 คูลอมบ์ มวลของอิเล็กตรอน (m) = 1.60 x 10-19 C 1.76 x 108 C/g = 9.09 x 10 -28 g
Marie and Pierre Curie พบว่า ธาตุที่มีมวลอะตอมมากกว่า Bi จะปลด 15 Marie and Pierre Curie พบว่า ธาตุที่มีมวลอะตอมมากกว่า Bi จะปลด ปล่อยอนุภาคที่มีพลังงานสูง (รังสี a, b, g) ได้เอง
16 - +
Rutherford, Geiger & Marsden (1911) 17 Rutherford, Geiger & Marsden (1911) Rutherford ศึกษาการกระเจิง (scattering) ของอนุภาค a โดยแผ่นทองคำบางๆ
- ส่วนใหญ่ผ่านแผ่นทองคำบางๆโดยไม่มีการเบี่ยงเบน 18 พบว่าอนุภาค a - ส่วนใหญ่ผ่านแผ่นทองคำบางๆโดยไม่มีการเบี่ยงเบน - ส่วนน้อยมากสะท้อนกลับ - บางส่วนเบี่ยงเบนไปจากแนวเส้นตรง
19 Rutherford เสนอว่า อนุภาคที่ทำให้อนุภาค a เกิดการสะท้อนกลับ (นิวเคลียส) 1. มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ~ 10-13cm ; ขนาดเล็กมาก 2. มีมวล > 99% ของมวลอะตอม ; เป็นบริเวณที่มีความหนาแน่นสูง 3. มีประจุไฟฟ้าเป็นบวก มีมวล ~ 1/2 ของมวลอะตอม
Van der Broek (1913) พบว่าประจุนี้เท่ากับเลขอะตอม (Z) 20 Van der Broek (1913) พบว่าประจุนี้เท่ากับเลขอะตอม (Z) ซึ่งพิสูจน์โดย Chadwick (1920)
อะตอมนิวเคลียร์ (The Nuclear Atom) 21 อะตอมนิวเคลียร์ (The Nuclear Atom) นิวเคลียส เส้นผ่านศูนย์กลาง ~ 10-13 cm ปริมาตร ~ 10-39 cm3 ประจุไฟฟ้าบวก = เลขอะตอม
ความหนาแน่นเชิงมวล ~ 1015 เท่าของความหนาแน่นเชิงมวลของสาร 22 ความหนาแน่นเชิงมวล ~ 1015 เท่าของความหนาแน่นเชิงมวลของสาร ความหนาแน่นประจุไฟฟ้า ~ 1015 เท่าของความหนาแน่นประจุไฟฟ้าของสาร แต่ละนิวเคลียสอยู่ห่างกัน ~ 10-8 cm ปริมาตรช่องว่าง ~ 10-24 cm
ไอโซโทป (ISOTOPES) คือ อะตอมของธาตุชนิดเดียวกันซึ่งมีประจุ 23 ไอโซโทป (ISOTOPES) คือ อะตอมของธาตุชนิดเดียวกันซึ่งมีประจุ ในนิวเคลียสเท่ากัน แต่มีมวลต่างกัน มวลอะตอมเฉลี่ย = S (%ไอโซโทปในธรรมชาติ x มวลอะตอม) 100
ตัวอย่างที่ 1 คลอรีนที่เกิดในธรรมชาติมี 2 ไอโซโทป คือ และ 24 ตัวอย่างที่ 1 คลอรีนที่เกิดในธรรมชาติมี 2 ไอโซโทป คือ และ มีมวลอะตอม 34.97 และมีในธรรมชาติ 75.53% มีมวลอะตอม 36.97 และมีในธรรมชาติ 24.47% จงคำนวณมวลอะตอมเฉลี่ยของ Cl 17Cl 35 37 35Cl 37Cl มวลอะตอมเฉลี่ย = (75.53 x 34.97)+(24.47 x 36.97) 100 = 35.45
25 Thomson (1913) ประดิษฐ์ Mass Spectrometer ใช้หามวลอะตอม
26