ศาสนาขงจื้อ จริยธรรมทางสายกลาง
ชาวจีนเป็นนักบูชาธรรมชาติ พวกเขาเชื่อว่าในสมัยแรกเริ่มนานกำหนดนับไม่ได้ “ปันกู๋” มนุษย์คนแรกถูกสร้างขึ้นมา ปันกู๋วางดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาวต่าง ๆ ไว้ในสวรรค์
ครูคุงผู้ยิ่งใหญ่ (ชิวคุง) แคว้นลู้ ศตวรรษเดียวกัน(ก่อนคศ. 6)กับที่กำเนิดพระพุทธเจ้าและมหาวีระในอินเดีย คุงรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นมาตรฐานธรรมเนียมประเพณีและจารีตพิธีกรรมของโบราณ ท่านจะโค้งคำนับอย่างเป็นพิธีการต่อท่านทั้งหลายผู้ควรได้รับเกียรติเหล่านั้น เพราะท่านถือว่าการโค้งคำนับเป็นความสุภาพอ่อนโยนและความเคารพนับถือ ถ้านักศึกษาไม่สนใจที่จะเรียน ฉันจะไม่เริ่มที่จะเปิดวิชาสำหรับเขา นักปราชญ์คนแรกของจีน คง-ฟู-จื้อ (คุงนักปรัชญา) ขงจื้อ เม่งจื้อ (นักปราชญ์คนที่สองของจีน)รวบรวมบทสนทนาและคำสอนของขงจื้อที่พวกสาวกบันทึกไว้เป็นคัมภีร์ประมวลคำสอน(Lun Yu)
คัมภีร์กิงทั้ง 5 (The 5 King) หยีกิง (The Yi King) คัมภีร์แห่งการเปลี่ยนแปลง (รูปภาพและเส้น) ชูกิง (The Shu King) คัมภีร์แห่งตำนาน(เรื่องประวัติศาสตร์ราชวงศ์ 5 ราชวงศ์) ชีกิง (The Shih King) คัมภีร์แห่งกวีนิพนธ์(โคลงแห่งความรู้สึก) หลีกิง (The Li King) คัมภีร์แห่งพิธีกรรม หยีกิง (The Chiun Chin) คัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ (บันทึกประวัติศาสตร์)
แกนคำสอนของขงจื้อ ขงจื้อสอนสาวกโดยใช้กิงทั้ง 5 เป็นตำรา คุณธรรมหลักคือความกล้าหาญและความเฉลียวฉลาด คุณค่าคือการศึกษาและการวิจารณ์ตนเอง หลักใหญ่แห่งหน้าที่ในฐานะบุตรธิดา หลักใหญ่แห่งการเลือกสรรเพื่อน หลักใหญ่แห่งความสัมพันธ์ระหว่างคนดี หลักใหญ่แห่งการปกครองที่ดี
เม่งจื้อให้ประชาชนได้รับการสอนถึงหลักใหญ่ 6 ประการ 1.ธรรมชาติคนนั้นดี และความชั่วไม่ใช่ธรรมชาติที่เป็นแก่นสารแท้ 2.มนุษย์เป็นอิสระที่จะประพฤติตนดังปรารถนาและเขาเป็นนายแห่งการเลือก 3.คุณธรรมเป็นรางวัลในตัวมันเอง ถ้าทำดีเพราะเห็นแก่รางวัลไม่ใช่คุณธรรม 4.กฎสำหรับความประพฤติของแต่ละคนคือ “สิ่งที่ท่านไม่ต้องการให้คนอื่นทำแก่ท่านก็อย่าทำอย่างนั้นแก่คนอื่น 5.มนุษย์มีหน้าที่ 5 อย่างคือ ปฏิบัติต่อผู้ปกครองของเขา ต่อบิดามารดา ต่อสามีภรรยา ต่อพี่ชาย ต่อเพื่อนและที่สำคัญมากที่สุดของเรื่องเหล่านี้คือหน้าที่ของบุตรธิดาต่อบิดามารดา 6.คนควรพยายามเป็นอภิชน
วจนะจากคัมภีร์ประมวลหลักคำสอน การศึกษาที่ปราศจากความคิดก็ไร้ประโยชน์ ทำนองเดียวกันความคิดที่ปราศจากการศึกษาก็อันตราย หลักการปกครองที่ง่ายต่อการประสบความสำเร็จคือ การให้รางวัลคนดีลงโทษคนชั่ว ดังนั้นคนดีก็ยังเป็นคนดีและคนชั่วก็กลายเป็นคนดี สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเป็นสุขคือให้เลือกคนฉลาดเป็นครูของเขา ไม่ทำสิ่งใดแก่ผู้อื่นอย่างที่ท่านไม่ต้องการให้ผู้อื่นมาทำต่อท่าน หากท่านเข้าใจในสภาพหัวอกเดียวกัน อย่าเสียใจเพราะไม่มีใครรู้จักท่าน แต่จงเสียใจเพราะท่านไม่รู้จักคนอื่น เมื่อท่านรู้อะไรก็ยืนยันว่าท่านรู้ เมื่อท่านไม่รู้อะไรก็ต้องยอมรับ นี้เป็นคุณลักษณะของความรู้ การเห็นว่าอะไรเป็นความถูกต้อง แต่ไม่กระทำสิ่งนั้น นั่นเป็นความขลาด
คนผู้มีใจปราศจากความโอบอ้อมอารี จะมีประโยชน์อะไรด้วยพิธีกรรม คนผู้ปราศจากโอบอ้อมอารี จะมีประโยชน์อะไรด้วยดนตรี บัณฑิตย่อมคิดถึงอุปนิสัยของตน คนพาลย่อมคิดถึงตำแหน่งของตน บุคคลแรกคิดถึงการแก้ไขความผิด แต่คนหลังคิดถึงแต่ความโปรดปราน บัณฑิตย่อมแสวงหาสิ่งที่เป็นความถูกต้อง แต่คนพาลเสาะแสวงหาแต่ผลประโยชน์ บัณฑิตย่อมช้าที่จะให้สัญญา แต่เร็วที่จะทำให้สมบูรณ์ คุณธรรมไม่ได้มีอยู่เพราะอยู่โดดเดี่ยว แต่คุณธรรมต้องมีเพื่อนบ้าน จงร่อนเอาความดีออกจากสิ่งต่างๆที่ท่านได้ยินและปฏิบัติตามความดีนั้น จงร่อนเอาความดีออกจากสิ่งต่างๆที่ท่านได้เห็นและจำความดีนั้นเอาไว้ จงเรียนเสมือนว่าท่านยังตามไม่ทันวิชาที่ท่านเรียน ถึงแม้ว่าจะเข้าใจวิชาที่ท่านเรียนมาแล้วก็ตาม เมื่อท่านผิดพลาดไปก็อย่ากลัวที่จะแก่ไขตัวท่านเอง ฯลฯ