การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
พัฒนศักดิ์ จิณะวงค์ สังกัดวิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชียงใหม่
Advertisements

การสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศของ นักศึกษาระดับชั้น ปวส.1 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อประสม นางสาวพัชรี นาคทอง วิทยาลัยเทคโนโลยีหมู่บ้านครู
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในรายวิชาการบัญชีเบื้องต้น 2 โดยใช้ชุดฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ ผู้วิจัย ถาวร ประรงค์ทอง.
แนวทางการบริหารงบประมาณ
การประเมินผลโครงการ บทที่ 9 ผศ.ญาลดา พรประเสริฐ yalada.
ชื่อผู้สอน : นางฐิติมา พิริยะ
โดย นางสาวนิภาพร เถาคำแก้ว วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก (อี.เทค.)
ผลงานวิจัยเรื่อง “ ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนการสอนรูปแบบซิปปา (CIPPA MODEL) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาภาษาอังกฤษสำหรับสถานประกอบการสำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่
ผู้วิจัย : นางสาวสุรีรัตน์ ขันคำ
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้แบบย้อนกลับ (Backward Design)
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)
ชื่อเรื่อง ผลการใช้เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ของการเรียนวิชางานวัดละเอียดช่างยนต์ของนักศึกษาชั้น ปวช.2 สาขางานยานยนต์ โรงเรียนโปลิเทคนิคลานนา.
ชื่อเรื่อง : ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ ในรายวิชาการบัญชีบริหาร ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบกลุ่มคละผลสัมฤทธิ์ STAD ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้สถานการณ์จำลองการวางแผนงบประมาณในธุรกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์
ผู้วิจัย : นางธนิตา ขาวทอง วิทยาลัยอาชีวศึกษาบริหารธุรกิจวิทยา สงขลา
ขั้นตอนการจัดทำและพัฒนากรรม
สังกัด วิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน
การวัด Measurement.
การวิเคราะห์คุณภาพแบบทดสอบ (Test Quality Analysis) ดร.ชนาธิป ทุ้ยแป สำนักทดสอบทางการศึกษา สพฐ.
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
การประเมินผลโครงการ คปสอ.คลองใหญ่.
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา(Educational Media)
การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบ รายบุคคลทางการคำนวณและ การใช้สูตรฟังชั่นอย่างง่ายโดย โปรแกรม Microsoft Excel ในวิชาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เพื่องานอาชีพ ผู้วิจัย.
การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน วิชาการจัดเก็บเอกสารของนักเรียน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 ที่ใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ ร่วมมือ เทคนิคจิ๊กซอว์กับการสอนแบบปกติ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาการใช้โปรแกรมนำเสนอข้อมูล เรื่องการเชื่อมโยง ภาพนิ่ง ด้วยโปรแกรม Powerpoint2007 โดยใช้ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน CAI ของนักเรียนระดับชั้น.
การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่อง หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ วิชาคอมพิวเตอร์พื้นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเฉลิมราชประชาอุทิศ.
ปรานอม ประทีปทวี 25/09/591 หน้าที่ของครูผู้นิเทศ สพม.5.
องค์ความรู้ที่จำเป็นในการปฏิบัติราชการ แบบฟอร์มที่ 1 การจำแนกองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการผลักดันตามประเด็นยุทธศาสตร์ ของส่วนราชการ ชื่อส่วนราชการ : กรมทรัพยากรน้ำบาดาล.
หลักเกณฑ์วิธีที่ดีในการผลิตอาหาร
ระบบมาตรฐานการพัฒนาชุมชน ผอ.กลุ่มงานมาตรฐานการพัฒนาชุมชน
นำเสนอวิธีปฏิบัติที่ดี ด้านกิจกรรมพัฒนานักศึกษา
การสร้างแผนปฏิบัติการระดับตำบลหรือท้องถิ่น
การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ
รูปแบบการเขียนบทที่ 3.
แบบฟอร์มที่ 2 ลักษณะสำคัญขององค์การ
เรื่อง ความพึงพอใจต่อการให้บริการห้องสมุด
บทที่ 8 การควบคุมโครงการ
One Point Lesson (OPL).....บทเรียนประเด็นเดียว
กรณีศึกษา : นักเรียน ระดับ ปวช.2 สาขาวิชาการบัญชี
ทำการวิจัยโดย นางรุ่งนภา ทินช่วย
ขั้นตอนการออกแบบ ผังงาน (Flow Chart)
กำหนดกรอบระยะเวลาการขึ้นทะเบียนปี2556/57 1. ข้าว
การขอรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงาน ตามมาตรา 26
บทที่ 7 การวิเคราะห์ความเชื่อถือได้ของเครื่องมือวัด
การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการศึกษาด้านการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer-based Assessment) การรู้เรื่องการอ่าน ด้านคณิตศาสตร์และด้านวิทยาศาสตร์
การหาคุณภาพของแบบทดสอบ
นางสาวสุภาวดี นุกุลเสาวลักษณ์ วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตรดิตถ์ 2559
วัฏจักรหิน วัฏจักรหิน : วัดวาอาราม หินงามบ้านเรา
หลักการเขียนเกณฑ์การประเมิน(Rubrics)
การนำเสนอผลงานการวิจัย
รายวิชา การบริหารการศึกษา
ความหมาย ความสำคัญ และจุดมุ่งหมายของการศึกษา
ประวัติวิทยากร ปริญญาเอก ศึกษาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต ดร.วัชรศักดิ์ สงค์ปาน
แบบฟอร์มที่ 2 ลักษณะสำคัญขององค์การ
จุดมุ่งหมายทางการศึกษา และ จุดประสงค์การเรียนรู้
การวัดพฤติกรรมทางด้านทักษะพิสัย
การวิจัยทางการท่องเที่ยว
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การกำหนดประเด็นปัญหา
นายเกียรติศักดิ์ คนธสิงห์ วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ
งานวิจัยในชั้นเรียน ผู้วิจัย นางสาวนนทกานต์ ลีอุดมวงษ์ .
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการพัฒนาการจัดการเรียนรู้
การจัดทำแผนการสอบบัญชีโดยรวม
การสอนควบคู่กับการเรียน
การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือการวิจัย
รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา Self – Assessment Report
วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการเชียงใหม่
การสร้างแบบทดสอบ อาจารย์ ปรีชา เครือวรรณ อาจารย์ สมพงษ์ พันธุรัตน์
การประเมินผลโครงการ บทที่ 9 ผศ.ญาลดา พรประเสริฐ yalada.
กระดาษทำการ (หลักการและภาคปฏิบัติ)
หน่วยที่ 4 การสร้างเครื่องมือ
ใบสำเนางานนำเสนอ:

การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ หน่วยที่ 6 การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาเครื่องมือให้มีประสิทธิภาพก่อนนำไปใช้จริงในการประเมินผู้เรียน ซึ่งผู้สอนต้องคำนึงถึงเนื้อหาสาระของสิ่งที่จะประเมินว่า มีความครอบคลุมมาตรฐาน ตัวชี้วัด และพฤติกรรมที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียนหรือไม่ เพียงใด รวมทั้งการใช้ภาษาในการสื่อความของเครื่องมือประเมินเหมาะสมตามวัยของผู้เรียนหรือไม่

คุณภาพของเครื่องมือ ความเที่ยงตรง, ความตรง (Validity) ความเชื่อมั่น, ความเที่ยง (Reliability)

ความเที่ยงตรง (Validity) เป็นคุณลักษณะของเครื่องมือที่แสดงถึงความสามารถในการวัดในสิ่งที่ต้องการวัดได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ตรงตามสิ่งที่ต้องการวัด คุณสมบัติด้านความเที่ยงตรงถือเป็นหัวใจของการวัดและประเมินผล เครื่องมือที่มีความเที่ยงตรงสูงจะทำให้ผลการวัดมีความหมาย ถูกต้อง แม่นยำ

ความเที่ยงตรง (Validity) ความเที่ยงตรงของเครื่องมือมีหลายประเภท ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) *** ความเที่ยงตรงเชิงสภาพ (concurrent validity) ความเที่ยงตรงเชิงพยากรณ์ (predictive validity) ความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้าง (construct validity)

ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) เป็นความเที่ยงตรงที่ต้องตรวจสอบเป็นอับดับแรก วิธีที่นิยมใช้คือวิธีของโรวิแนลลี่และแฮมเบิลตัน (Rovinelli & Hambleton) หรือที่เรียกว่า ดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ (Index of Item Objective Congruence : IOC)

วิธีการหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (IOC) R N เมื่อ R แทน ผลรวมของคะแนนจากผู้เชี่ยวชาญ N แทน จำนวนผู้เชี่ยวชาญ

การแปลความหมายค่า IOC - ควรพิจารณาแก้ไขปรับปรุงหรือตัดข้อสอบหรือ ประเด็นการประเมินข้อนั้นทิ้ง

ตัวอย่าง การคำนวณหาค่า IOC ข้อคำถาม คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 คนที่ 4 คนที่ 5 IOC ข้อ 1 1 4/5 = 0.8 ข้อ 2 -1 -1/5 = -0.2 เกณฑ์การพิจารณา ข้อสอบที่ใช้ได้ คือ ข้อสอบที่มีค่า IOC ตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป สรุป... ข้อสอบข้อ 1 มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์ สามารถนำไปใช้สอบได้ ข้อสอบข้อ 2 ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ ไม่ควรนำไปใช้ ต้องตัดทิ้งหรือปรับปรุงใหม่

ความเชื่อมั่น (Reliability) เป็นคุณลักษณะของเครื่องมือที่แสดงว่าเครื่องมือนั้นให้ผลการวัดคงที่ ไม่ว่าจะวัดกี่ครั้งหรือวัดในสภาพการณ์ที่แตกต่างกัน ก็ยังคงได้ผลการวัดคงเดิมหรือใกล้เคียงกับค่าเดิม เครื่องมือสำคัญของการวัดภาคปฏิบัติ คือ ผู้วัด ถ้าเครื่องมือมีคุณภาพ มีคุณลักษณะที่วัดชัดเจน เป็นรูปธรรม มีหลักเกณฑ์ให้คะแนนที่ดี ผลของผู้วัดคนเดียวกัน แม้จะประเมินต่างเวลาหรือผู้วัดคนละคนก็ควรให้ผลสอดคล้องกัน

การหาค่าความเชื่อมั่น การตรวจสอบความเชื่อมั่นของเครื่องมือประเมินภาคปฏิบัติค่อนข้างแตกต่างจากการหาความเชื่อมั่นของเครื่องมือวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความเชื่อมั่นของเครื่องมือที่ควรให้ความสนใจ คือ ความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมิน และความเชื่อมั่นแบบการวัดซ้ำ

วิธีการหาค่าความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมิน โดยการหาความสัมพันธ์ระหว่างคะแนนการประเมินของผู้ประเมิน - กรณีผู้ประเมิน 2 คน ใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน หรือใช้ความสัมพันธ์แบบอื่นๆ ตามระดับการวัดตัวแปร โดยหาจากสูตร - กรณีมีผู้ประเมินมากกว่า 2 คน สามารถใช้ ANOVA ช่วยในการทดสอบความแตกต่างระหว่างผู้ประเมิน ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ความแปรปรวนสามารถกำหนดค่าความสัมพันธ์ได้ โดยใช้สูตรการหาความสัมพันธ์แบบ intra-class correlation

วิธีการหาค่าความเชื่อมั่นแบบการวัดซ้ำ เป็นการหาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือโดยนำเครื่องมือชุดเดียวกันไปทดสอบกับคนกลุ่มเดียวกันสองครั้งในเวลาต่างกัน แล้วนำค่าการวัดสองชุดที่ได้มาหาความสัมพันธ์กัน สัมประสิทธิ์แห่งความเชื่อมั่นในกรณีนี้คือสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างคะแนนสองชุดที่ได้จากการวัดกับคนกลุ่มเดียวกัน ด้วยเครื่องมือชุดเดิมสองครั้ง ใช้วิธีการคำนวณแบบเพียร์สันเช่นเดียวกับการหาความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมิน ข้อตกลงเบื้องต้นของการหาค่าความเชื่อมั่นแบบนี้ คือ สมมุติให้ความสามารถของผู้ถูกวัดคงที่ในช่วงของการสอบครั้งแรกและการสอบครั้งหลัง

เกณฑ์พิจารณาค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือ ค่าความเชื่อมั่นที่คำนวณได้จะมีค่าตั้งแต่ -1 ถึง +1 โดยมีเกณฑ์สำหรับพิจารณาค่าความเชื่อมั่นในการนำเครื่องมือนั้นๆไปใช้มีดังนี้  เครื่องมือที่ใช้วัดการทำหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของมนุษย์ ควรมีความเชื่อมั่น ตั้งแต่ 0.95 ขึ้นไป  เครื่องมือที่มีมาตรฐานทั่วๆ ไป ควรมีความเชื่อมั่นตั้งแต่ 0.80 ขึ้นไป  เครื่องมือที่สร้างและพัฒนาขึ้นเอง ควรมีความเชื่อมั่นอย่างน้อย 0.70 ขึ้นไป  เครื่องมือที่ใช้วัดเจตคติความรู้สึก ควรมีความเชื่อมั่นตั้งแต่ 0.70 ขึ้นไป  เครื่องมือที่ใช้ในการสังเกต ควรมีค่าความเชื่อมั่นตั้งแต่ 0.80 ขึ้นไป

3. ความยากง่าย (Difficulty) ความยากง่ายของเครื่องมือมีความเหมาะสมกับความสามารถของผู้สอบ ซึ่งพิจารณาจาก สัดส่วน หรือเปอร์เซ็นต์ของจำนวนคนที่ตอบข้อสอบข้อนั้นถูกจากคนที่สอบทั้งหมด

ค่าความยากง่าย (Difficulty Index) มีค่าตั้งแต่ 0.00 จนถึง 1.00 เกณฑ์ในการแปลความหมายค่าความยากง่าย ค่า p = 0.00-0.19 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นยากเกินไป ค่า p = 0.20-0.39 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นค่อนข้างยาก ค่า p = 0.40-0.59 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นยากง่ายปานกลาง ค่า p = 0.60-0.79 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นค่อนข้างง่าย ค่า p = 0.80-1.00 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นง่ายเกินไป เกณฑ์: ข้อสอบที่มีค่าความยากง่ายพอเหมาะ หรือมีคุณภาพดี ค่า p ใกล้เคียง .50 หรือ อยู่ระหว่าง 0.20 – 0.80

ค่าระดับความยากง่าย (Difficulty Index) ข้อสอบอัตนัย 2. แบ่งกลุ่มสูง (H) และกลุ่มต่ำ (L) 3. คำนวณสัดส่วนของคะแนนรวมรายตัวชี้วัดที่ได้จำแนกตามกลุ่ม • p = ———— PH + PL 2 1. ตรวจและเรียงคะแนนรวมจากสูงสุดถึงต่ำสุด 4. วิเคราะห์ค่าความยาก (p) PH = —— PL = —— L TL H TH H รวมคะแนนกลุ่มสูง L รวมคะแนนกลุ่มต่ำ TH รวมคะแนนเต็มกลุ่มสูง TL รวมคะแนนเต็มกลุ่มต่ำ

ตชว. คะแนนเต็ม กลุ่มสูง (H) (4 คน) กลุ่มต่ำ (L) (4 คน) 1 2 3 4 5 6 7 8 10 9 20 15 17 30 25 24 16 13 11 รวม 100 80 70 68 61 60 48 43

ข้อ 1 ง่ายเกินไป อำนาจจำแนกต่ำ ข้อ 2 – ข้อ 4 เป็นข้อสอบที่ใช้ได้ ตชว. คะแนน เต็ม กลุ่มสูง (4 คน) กลุ่มต่ำ PH PL Pi 1 10 37 40 28 .93 .70 .81 2 36 24 .90 .60 .75 3 20 67 80 42 .84 .53 .68 4 30 94 120 56 .78 .47 .62 5 43 26 .36 .22 .29 ข้อ 1 ง่ายเกินไป อำนาจจำแนกต่ำ ข้อ 2 – ข้อ 4 เป็นข้อสอบที่ใช้ได้ ข้อ 5 ค่อนข้างยาก อำนาจำแนกต่ำ

4. อำนาจจำแนก (Discrimination) ความสามารถของเครื่องมือในการจำแนกคนที่อยู่ในกลุ่มเก่งออกจากคนที่อยู่ในกลุ่มอ่อนได้ ซึ่งพิจารณาจากผลต่างของสัดส่วนของกลุ่มเก่งที่ตอบถูกกับกลุ่มอ่อนที่ตอบถูก

ค่าอำนาจจำแนก (Discrimination power) มีค่าตั้งแต่ -1.00 จนถึง 1.00 เกณฑ์ในการแปลความหมายค่าอำนาจจำแนก ค่า r = -1.00-0.19 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นจำแนกไม่ได้เลย ค่า r = 0.20-0.39 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นจำแนกได้เล็กน้อย ค่า r = 0.40-0.59 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นจำแนกได้ปานกลาง ค่า r = 0.60-0.79 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นจำแนกได้ดี ค่า r = 0.80-1.00 หมายความว่า ข้อสอบข้อนั้นจำแนกได้ดีมาก เกณฑ์: ข้อสอบที่มีคุณภาพดี ค่า r ตั้งแต่ +0.20 ขึ้นไป

ค่าอำนาจจำแนก(Discrimination power) ข้อสอบอัตนัย 1. ตรวจและเรียงคะแนนรวมจากสูงสุดถึงต่ำสุด 2. แบ่งกลุ่มสูง (H) และกลุ่มต่ำ (L) 3. คำนวณสัดส่วนของคะแนนรวมของตัวชี้วัดที่ได้จำแนกตามกลุ่ม H TH L TL PH = —— PL = —— H รวมคะแนนกลุ่มสูง L รวมคะแนนกลุ่มต่ำ TH รวมคะแนนเต็มกลุ่มสูง TL รวมคะแนนเต็มกลุ่มต่ำ 4. วิเคราะห์ค่าอำนาจจำแนก (r) • r = PH – PL

ข้อ 1 ง่ายเกินไป อำนาจจำแนกต่ำ ข้อ 2 – ข้อ 4 เป็นข้อสอบที่ใช้ได้ ตชว. คะแนน เต็ม กลุ่มสูง (4 คน) กลุ่มต่ำ PH PL ri 1 10 37 40 28 .93 .70 .23 2 36 24 .90 .60 .30 3 20 67 80 42 .84 .53 .31 4 30 94 120 56 .78 .47 5 43 26 .36 .22 .14 ข้อ 1 ง่ายเกินไป อำนาจจำแนกต่ำ ข้อ 2 – ข้อ 4 เป็นข้อสอบที่ใช้ได้ ข้อ 5 ค่อนข้างยาก อำนาจำแนกต่ำ

การตรวจสอบคุณภาพเกณฑ์การให้คะแนน ก่อนทำการประเมินการปฏิบัติงานครูต้องตรวจสอบเกณฑ์การให้คะแนน เพื่อตัดสินใจว่าจำเป็นต้องมีการประเมินการปฏิบัติงานหรือไม่ หรือมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะประเมินการปฏิบัติงาน ลักษณะของการประเมินการปฏิบัติงานที่สำคัญมีดังนี้ สิ่งที่จะประเมินต้องมีการปฏิบัติอย่างแท้จริง สิ่งที่ประเมินเป็นผลมาจากการเรียนรู้ทักษะ สิ่งที่ประเมินเป็นการประเมินความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ความรู้ ผลงานที่ได้รับต้องอยู่ในรูปที่สามารถประเมินได้

การตรวจสอบคุณภาพของเกณฑ์การประเมิน (rubric) 1 Objective testing Rater1 Rater2 Rater3 ผลการตอบของนักเรียน ปรับปรุง พอใช้ ดี Concurrent Validity testing Rater1 2