เด็กหญิง อภิชญา ปาจุวัง เรื่อง…ผลไม้ จัดทำโดย เด็กหญิง อภิชญา ปาจุวัง เลขที่39 ม.1/1
ประโยชน์ของผลไม้ ผลไม้ ชะลอความแก่ เสริมความงาม คนเราจะแก่เร็วหรือช้าขึ้นกับสภาพการทำงานของระบบการสร้างเซลล์ และระบบภูติต้านทาน (immune system) สองระบบนี้ช่วยกันทำงาน ต่อสูความเจ็บป่วย โรมรันกับสารพิษและเชื้อโรคแปลกปลอมที่เข้าสู่ใน ร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอหรือถูกทำลาย อีกทั้งสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อใหม่เมื่อระบบเซลล์และระบบภูมิต้านทานทำงานได้ดี การแก่ตัวจะเกิดขึ้นน้อยมาก แต่โดยทั่วไป ความแปรปรวนของชีวเคมีในร่างกายอันเนื่องจากความเครียด สารพิษจากสิ่งแวดล้อม การใช้แรงกายที่หนักหักโหมเกินกำลัง รวมทั้งอาหารที่กิน มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ระบบทั้งสองเสื่อมโทรมลง ส่งผลให้แก่เร็วขึ้น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์โภชนาการพบว่า เบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี และซีลีเนียม สามารถต้านความชราภาพได้ด้วย แอน ติออกซิแดนท์เหล่านี้ช่วยป้องกันและลดความเสื่อมของเซลล์อันเนื่องมาจากปฏิกิริยาลูกโซ่ของอนุมูลอิสระ (free radicals) ธำรงความแข็งแรงของระบบเซลล์ไว้ได้นาน ดังนี้ ผลไม้ที่สารต้านอนุมุลอิสราจึงช่วยชะลอความแก่ ผลไม้ยังช่วย ให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรง ก็เท่ากับรักษาระบบภูมิต้านทานให้ไม่ต้องถูกใช้งานหนัก ก็เท่ากับช่วยชะลอความแก่ไปโดยปริยาย คน กินผลไม้มาก ๆจะเห็นผลทันตา ผิวหนังจะเต่งตึงความเหี่ยวย่นจะปลาสนาการไป รูปหน้าที่สวยจริงก็จะปรากฎไม่ถูกบดบังทำ อัปลักษณ์ใบหน้ากางด้วยน้ำและไขมัน รอยย่นจะบางเบา นัยน์ตาจะใสและแจ่มจรัส ผลไม้มิได้ชะลอความแก่แต่ระดับผิว (เผิน) เท่านั้น เพราะผิวเป็นเพียงตัวบ่งบอกสุขภาพคนกินผลไม้มากจะมีโคเลสเตอรอลพอเหมาะ ความดันโลหิตพอดี ตับไตแข็งแรง ทั้งหมดนี้ส่งผลบวกโดยตรงต่อผิวพรรณดังนั้น สุขภาพ ผิวพรรณ ความงาม และการชะลอความแก่จึงเป็นเรื่องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ กันมาก นอกจากนั้น วิตามินซีและวิตามินเอยังช่วยให้ผิดเต่งตึงมีน้ำมีนวลโดยตรงอีกด้วย ผลไม้ช่วยรักษาอาการเสื่อยสภาพ บางอย่างอันเนื่องมาจากวัยได้ เช่น กินผลไม้ช่วยในสมรรถภาพพทางเพศไม่เสื่อมเร็ว ช่วยป้องกันอาการหลงลืมตามวัย เป็นต้น ในด้านสุขภาพผู้หญิง มีรายงานว่าวิตามินซีและไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoids) ในผลไม้ตะกูลส้ม (ที่ใส้หรือแกนของ กลีบผล) ช่วยลดการเสียเลือดประจำเดือนให้น้อยและสั้นลงจนไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
แอปเปิ้ล แอปเปิ้ล เป็นผลไม้ที่มีเส้นใยสูง แคลลอรี่ต่ำ และมีวิตามินแร่ธาตุดีๆหลายชนิด ช่วยในการลดและควบคุมน้ำหนักได้
มังคุด ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ มังคุดประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย อาทิ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟลอรัส ฯลฯ อีกทั้งในมังคุดยังมีสารแซนโทน (Xanthone) มีสรรพคุณทางการแพทย์คือ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และสามารถสมานแผลรักษาเซลล์มะเร็ง (ข้อมูลจาก ศ.ดร.พิชญ์ ศุภผล อาจารย์วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แถลงข่าวเรื่อง“ผลิตภัณฑ์รักษาแผล ป้องกันเชื้อโรค ด้วยสารสกัดจากเปลือกมังคุด นวัตกรรมจากนักวิจัยจุฬาฯ”
กีวี เป็นผลไม้ที่มีวิตามินเอ ซี อีสูง อีกทั้งในกีวียังมีสารแอนติออกซิแดนท์ช่วยลดอัตราการเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีทั้งนี้มีผลการศึกษาวิจัยมาแล้วมากมายว่ามีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ ซึ่งผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ได้แก่ แบล็กเบอร์รี่,บลูเบอร์รี่,ราสเบอร์รี่,สตรอเบอร์รี่,โกจิเบอร์รี่,เชอร์รี่ ฯลฯ
กล้วย กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 วิตามินซี ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ฯลฯ อีกทั้งในกล้วยยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น ระบุว่ากล้วยที่สุกเต็มที่จะสร้างสารที่เรียกว่า TNF (Tumor Necrosis Factor) ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง ยิ่งรับประทานกล้วยที่สุกงอมมาก เท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้เกิดภูมิต้านทานมากขึ้นเท่านั้น
องุ่น องุ่นเป็นอาหารบำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหาร ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีหลายชนิด สารอาหารที่สำคัญคือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์อีกหลายชนิดเช่น น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเหล็ก และแคลเซี่ยม นอกจากนี้องุ่นยังอุดมไปด้วย กรดเอลลาจิก ซึ่งเป็นสาร ฟลาโวนอยด์ ที่มีพลังในการต่อสู้กับมะเร็ง การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้
สตรอเบอร์รี่ สตรอเบอรี่มีส่วนช่วยในการทำงานของสมอง มีวิตามินซีและไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrient) ซึ่งทำให้อนุมูลอิสระลดน้อยลง มีไอโอดินที่ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพอีกด้วย บำรุงสายตา เพราะสตรอเบอร์รี่มีวิตามิน ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) กรดฟีโนลิกส์ ที่ช่วยในการลดและชะลอการเกิดอนุมูลอิสระได้ แถมยังช่วยให้ปรับความดันในตาให้กลับมาเป็นปกติ ป้องกันโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ ลดความดันโลหิต เพราะสตรอเบอร์รี่นั้นมี โพแทสเซียม (Potassium) และแมกนีเซียม (Magnesium) ที่ช่วยปรับความดันโลหิตให้กลับสู่สภาวะปกติ
เชอร์รี่ เชอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีมากกว่าส้มถึง 30-80 เท่า นอกจากจะช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้สดใส ชะลอความแก่ และช่วยต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย จาก ผลงานการวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การกินเชอร์รี่มาก ถึง 20 ผลจะช่วยลดอาการซึมเศร้าได้มากกว่าการกินยา เนื่องจากในผลเชอร์รี่มีสารที่ชื่อ ว่า แอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ทำให้คนกินมีความสุข ด้วยเหตุนี้แพทย์ ตะวันตกจึงเรียกเชอร์รี่ว่า เป็นแอสไพรินธรรมชาติ anthocyanins ซึ่งช่วยในการลดการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง เชอร์รี่เป็นผลไม้ชนิดหนี่งซี่งมีแหล่งอาหารที่มีเมลาโทนิ, สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วย ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจและช่วยในการนอนหลับ เชอรรี่จะเรียกว่า "อาหารสมอง" ช่วยในสุขภาพสมองและในการป้องกันการสูญเสีย ความจำ เชอรรี่มีประสิทธิภาพอย่างสูงในการต้านการอักเสบ ลดอาการอักเสบและปวดที่ข้อต่างๆ
ส้ม ส้มมีสารไฟโตนิวเทรียนต์มากมาย ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาโวนอยส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์ และ วิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใส น้ำส้มสามารถให้แคลเซียม และวิตามินดีแก่ร่างกายได้ดีพอๆ กับนม และ แคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูก แต่ถ้าไม่มีวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถ ดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ นอกจากนี้ น้ำส้มยังมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่ม กระบวนการดังกล่าว ส้ม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยปกป้องแก้วตาจากโรคต้อ กระจก และยังพบว่าการบริโภควิตามินอีและซีในปริมาณมาก จะช่วยป้องกัน โรคต้อกระจกได้ แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง ส้มมีสารโฟเลต ซึ่งจะช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน อันเป็นสารแห่ง ความสุข กลิ่นของผลไม้ครอบครัวนี้ก็สามารถทำให้เราเบิกบานได้
สาลี่ สาลี่มีฤทธิ์เย็น รสหวานหอม จึงใช้รักษาผู้ที่มีอาการร้อนใน สาลี่มีน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ จึงช่วยให้สดชื่น ชุ่มคอ แก้ กระหาย สาลี่ มีธาตุอาหารมากมาย เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินซี วิตามิน เค แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และเส้นใยที่มีสรรพคุณในการ รักษาโรคเบาหวาน กระตุ้นภูมิคุ้มกันแก้อาการท้องผูก ลดความ เสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และต้านอนุมูลอิสระที่เป็น สาเหตุ ของโรคมะเร็งและความชรา ช่วยให้กระเพาะทำงานได้ดี ช่วยย่อย ขับปัสสาวะ กระตุ้นการ ทำงานของไตและลดความดันโลหิต
เมล่อน เมล่อนมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ในปริมาณสูง มี วิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล อีกทั้งแคลอรี่ ต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเอนไซม์ในน้ำเมล่อนชื่อว่า "superoxide dismutase" มีสรรพคุณ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดกระบวนการทางเคมีภายใน ร่างกาย ส่งผลให้สามารถลดระดับความเครียดได้
สับปะรด อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ อันได้แก่ วิตามินซี เบต้าแคโร ทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะ ทำลายโครงสร้างของเซลล์ผิวหนัง กินบ่อย ๆ จะช่วยเสริม ภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีอีกด้วย โดยผสมน้ำสับปะรด น้ำผึ้ง น้ำ สะอาดคนให้เข้ากัน พอกให้ทั่วบริเวณใบหน้ายกเว้นบริเวณปาก และดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก สับปะรดช่วย ขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และลดการ อักเสบของผิวได้สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน A วิตามิน C สูงช่วยต้านอนุมูลอิสระและมีเกลือแร่อีกหลายชนิดช่วยทำให้ ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น
แตงโม มีทั้งแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิดที่มีอยู่มากมาย ช่วยบำรุง ผิวพรรณของสาว ๆ ช่วงล้างไต และของเสียขับปัสสาวะใน ร่างกาย สามารถมาสก์ได้ โดยนำแตงโมมาฝานให้เป็นชิ้นบาง ๆ จากส่วนที่แดงที่สุด จากนั้นให้นำชิ้นแตงโมเหล่านั้นมาแปะให้ทั่ว ใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
แหล่งอ้างอิง http://health.kapook.com/view97168.html