03759491 ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทางการเงิน 03759491 ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทางการเงิน และการลงทุน Basic Research Methods in Financial and Investment เติมศักดิ์ สุขวิบูลย์ สิทธิเดช บำรุงทรัพย์ คณะวิทยาการจัดการ 1-2 : 15/22 ส.ค. 61
03759491 ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทางการเงินและการลงทุน 3 หน่วยกิต Basic Research Methods in Financial and Investment วัน/เวลา/สถานที่ : หมู่ 800 วันพุธ เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้อง 10207 หมู่ 850 วันพุธ เวลา 16.30 - 19.30 น. ห้อง 10207 นิสิตเข้าพบและให้คำแนะนำนอกเวลาเรียน - วันอังคาร/วันพุธ/วันศุกร์ เวลา 12.30-13.30 น. - วันพฤหัสบดี เวลา 8.30-10.30 น. - วันอาทิตย์ เวลา 16.00-17.30 น. - วันหรือเวลาที่เหมาะสม โดยนัดหมายศูนย์การเรียน คณะวิทยาการจัดการ : http://www.ms.src.ku.ac.th/schedule : E-mail : toemsak.s@ku.th : Line ID : ts13ku-3 : Tel. 081 447 9900
Descriptive Statistics Inferential Statistics 03759491 ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทางการเงินและการลงทุน 3 หน่วยกิต Basic Research Methods in Financial and Investment วิชาพื้นฐาน : 01131211 Business Finance วิชา/ความรู้ที่ควรจะมี : - สถิติ (Statistics) เป็นเครื่องมือ (Tools) วิถีทางสู่เป้าหมาย (Means to End) - หลักการ (Principles) - แนวคิด (Concept)/ทฤษฎี (Theories) สถิติเชิงพรรณนา Descriptive Statistics สถิติ Statistics สถิติอนุมาน Inferential Statistics
วัตถุประสงค์ของวิชา (Objective of Subject) : 1. เพื่อให้นิสิตมีความรู้เกี่ยวกับบทบาท ความสำคัญของการวิจัย หลักการและแนวทางการทำวิจัย รวมทั้งการใช้ประโยชน์ของงาน วิจัยที่มีต่อการบริหารและการจัดการทางการเงินและการลงทุน 2. เพื่อให้นิสิตมีความเข้าใจหลักการ ระเบียบวิธีวิจัย ขั้นตอน และกระบวนการดำเนินงานวิจัยที่ถูกต้องตั้งแต่การกำหนด ประเด็นปัญหาจนถึงการเขียนรายงานการวิจัยและเสนอ ผลการวิจัยทางธุรกิจ การเงินและการลงทุน 3. เพื่อให้นิสิตมีทักษะความชำนาญ ความสามารถเชิงการวิเคราะห์ และการปฏิบัติทางการวิจัยทุกขั้นตอนตามหลักวิชาการ รวมทั้ง การประยุกต์ใช้สถิติเพื่อการวิจัย โปรแกรมสำเร็จรูปและงานวิจัย สำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจ การเงินและการลงทุน
1 2 คำอธิบายรายวิชา (Course Description) : Principles and methods in financial and investment research, identification of research problems, formulation of research objectives and hypotheses, collection of data, construction of questionnaire, data analysis and interpretation, application of statistics for research, report writing and presentation. 2 หลักและระเบียบวิธีวิจัยทางการเงินและการลงทุน การกำหนดปัญหา การวางรูปการวิจัย การตั้งวัตถุประสงค์ และสมมติฐาน การเก็บรวบรวมข้อมูล การสร้างแบบสอบถาม การวิเคราะห์และตีความข้อมูล การใช้สถิติสำหรับการวิจัย การเขียนรายงานและเสนอผลการวิจัย
วิธีการสอนและระบบสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การบรรยาย การอธิบาย การศึกษาตรวจสอบและทบทวน การนำเสนอตัวอย่างและค้นคว้าผลงานวิจัย การวิเคราะห์วิจารณ์ การอภิปรายแบบมีส่วนร่วม การเรียนและ การสอน การค้นคว้า การรวบรวม วิเคราะห์และศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง/กลุ่ม การทำแบบฝึกหัด การทำงานที่มอบหมายและการทดสอบ การเรียนรู้ ด้วยตนเอง การจัดทำโครงการวิจัย การฝึกปฏิบัติการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติ การเขียนรายงาน การสรุปและการนำเสนอผลการวิจัย การฝึกปฏิบัติ การวิจัย
เครื่องมือ อุปกรณ์และสื่อการสอน อุปกรณ์และสื่อการสอน : เครื่องมือ อุปกรณ์และสื่อการสอน เครื่อง คอมพิวเตอร์/ เครื่องพิมพ์/ โปรแกรม หนังสือ ตำรา แบบฝึกหัด สื่อการสอน /เครื่องมือ /อุปกรณ์ นำเสนอ เอกสาร ประการสอน
การเปลี่ยนแปลงการวัดผลสัมฤทธิ์จะตกลงร่วมกันระหว่างผู้เรียนและผู้สอน การวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน : 1. การมีส่วนร่วม สนใจและแลกเปลี่ยนในการเรียนสม่ำเสมอ ร้อยละ 10 2. การทดสอบ แบบฝึกหัดและงานที่มอบหมายในชั้นเรียน ร้อยละ 15 3. การทำโครงร่างและรายงานการวิจัย ร้อยละ 35 4. การสอบกลางภาค ร้อยละ 20 5. การสอบปลายภาค ร้อยละ 20 การเปลี่ยนแปลงการวัดผลสัมฤทธิ์จะตกลงร่วมกันระหว่างผู้เรียนและผู้สอน *
การประเมินผลการเรียน : สูงกว่า 79.9 คะแนน ระดับคะแนน A หรือ 4.0 75.0 - 79.9 คะแนน ระดับคะแนน B+ หรือ 3.5 70.0 - 74.9 คะแนน ระดับคะแนน B หรือ 3.0 65.0 - 69.9 คะแนน ระดับคะแนน C+ หรือ 2.5 60.0 - 64.9 คะแนน ระดับคะแนน C หรือ 2.0 55.0 - 59.9 คะแนน ระดับคะแนน D+ หรือ 1.5 50.0 - 54.9 คะแนน ระดับคะแนน D หรือ 1.0 ต่ำกว่า - 50.0 คะแนน ระดับคะแนน F หรือ 0.0
* คะแนนเข้าห้องเรียนคำนวณตามจริง* ข้อกำหนดในการเรียน : 1 นิสิตจะต้องเข้าเรียนไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง (อย่างน้อย 12 ครั้งๆ ละ 3 ช.ม.) นิสิตเข้าเรียนสาย 2 ครั้ง เท่ากับขาดเรียน 1 ครั้ง นิสิตลากิจ 2 ครั้ง เท่ากับขาดเรียน 1 ครั้ง นิสิตลาป่วยจะต้องมีใบรับรองแพทย์ทุกกรณี * คะแนนเข้าห้องเรียนคำนวณตามจริง* 2 นิสิตที่แต่งกายไม่เรียบร้อยจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชั้นเรียน 3 นิสิตต้องไม่ส่งเสียงรบกวนขณะสอนอันมีผลทำให้การเรียนการสอนขาดคุณภาพ 4 นิสิตต้องเข้าร่วมการฝึกปฏิบัติการและการจัดทำรายงานการวิจัยกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ 5 นิสิตต้องเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษางานวิจัยในภาคการศึกษาอย่างเป็นประจำ
Characteristics of the Scientific Method The Essence of the Scientific Method : Characteristics of the Scientific Method : Objectivity : Systematic Analysis : Logical Interpretation of Results Elements of the Scientific Method Empirical Approach Observations Questions Hypotheses Experiments Analysis Conclusion Replication General Laws Basic Research Scientific Method Applied Research Information or Ideas for alternative Courses of action
วัตถุประสงค์ของการวิจัย : การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้ได้มาซึ่งความรู้ความเข้าใจยิ่งขึ้น เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่จะไปศึกษา เชื่อถือได้ (reliability) “น่าเชื่อถือ” เกี่ยวกับความคงเส้นคงวาของคำตอบ แม่นตรง (validity) “ตรงประเด็น” หมายถึง การหา ข้อสรุปหรือการดำเนินการวัดที่ตรง เป้าตรงประเด็นกับสิ่งที่ประสงค์จะวัด
ความต้องการของงานวิจัย :
1 2 3 4 5 6 7 Common Business Research Methods & Techniques : Surveys Interviews 2 Observation 3 Experiments 4 Archival and Historical Data 5 Qualitative Analysis 6 Quantitative Analysis 7
Typical Users of Business Research : Businesses and Corporations Public-Sector Agencies Consulting Firms Research Institutes Non-Governmental Organizations Non-Profit Organizations Independent Researchers and Consultants
Who Conducts Business :
Some Organizations Use Internal Research :
Some Organizations Use External Research Sources :
Business Research Firms :
Consultants and Trade Associations :
1. ปัจจัยในการพิจารณาสภาพแวดล้อมและตัดสินใจดำเนินงาน เหตุผลการวิจัยธุรกิจ : การวิจัยทำให้เกิดความรู้และความชำนาญที่ต้องการสำหรับการตัดสินใจ ที่รวดเร็วภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ถูกกำหนด : 1. ปัจจัยในการพิจารณาสภาพแวดล้อมและตัดสินใจดำเนินงาน ทางธุรกิจขององค์กรต่างๆ มีปริมาณมากขึ้น 2. การแข่งขันของธุรกิจมีมาก และรุนแรงขึ้นทั้งระดับภายใน ประเทศและระดับโลก องค์กรจำเป็นต้องปรับตัว 3. องค์ความรู้ต่างๆ ทางธุรกิจเจริญก้าวหน้ามากขึ้น : ระดับ คุณภาพทฤษฎีและแบบจำลอง 4. สารสนเทศต่างๆ มีอยู่มากมายบนเครือข่ายโลก (World Wide Web, WWW)
5. องค์กรต่างๆ นิยมทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) ใช้ในการ เหตุผลการวิจัยธุรกิจ : 5. องค์กรต่างๆ นิยมทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากเพื่อหากฎเกณฑ์ การเรียนรู้และหาความรู้ที่ มีอยู่ในระบบฐานข้อมูลสารสนเทศในองค์กร (Internal Databases) 6. ความก้าวหน้าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยให้ภาคธุรกิจสร้าง คลังข้อมูล (Data Warehousing) 7. บุคลากร พนักงาน/เจ้าหน้าที่ ผู้ถือหุ้น ลูกค้าและสาธารณชน ทั่วไปสามารถแสวงหาสารสนเทศได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว 8. เทคนิคการวิเคราะห์เชิงปริมาณช่วยการคำนวณได้รวดเร็วขึ้น ในการแก้ไขปัญหาองค์กร
10. พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตาม เหตุผลการวิจัยธุรกิจ : 9. จำนวนและขีดความสามารถเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการวิจัยเพิ่มขึ้น เช่น โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ เครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศและ การพัฒนาเทคนิค 10. พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตาม สถานการณ์และความต้องการ 11. ความต้องการลดความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน ขึ้นและทรัพยากรมีจำกัด แต่ความต้องการบริโภคหรือใช้บริการมากขึ้น 12. ภาคธุรกิจมีการพัฒนาองค์กรอย่างมาก และเกิดความทันสมัย ประกอบกับภาวะโลกาภิวัตน์ทำให้สามารถเชื่อมโยงของภาคการผลิต การค้า และพาณิชยกรรมทั่วทุกพื้นที่และทั่วโลกใกล้ชิดกันมากขึ้น
ภาระหน้าที่/บทบาทของผู้บริหาร : การแก้ไขปัญหาทางการจัดการที่เกิดขึ้น โดยนักบริหารการเงิน-บัญชี จะเสนอข้อมูลหรือต้องตัดสินใจเกี่ยวกับ: - การตัดสินใจลงทุน (Investment Decision) - การตัดสินใจแสวงหาเงินทุน (Financial Decision) - การตัดสินใจการจ่ายเงินปันผล (Dividend Decision) การวางแผนเพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการบรรลุตาม เป้าหมายองค์กร 3. การให้สารสนเทศประกอบการตัดสินใจขององค์กร 4. การควบคุม และตรวจสอบระบบการเงิน-บัญชีให้มีเสถียรภาพและมั่นคงอย่างถูกต้อง สร้างความต้องการเสนอให้กับลูกค้า ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ แทนที่จะให้ลูกค้าเรียกร้องก่อน
ภาระหน้าที่/บทบาทของผู้บริหาร : ปัญหาที่เกิดขึ้น หรือ แผนงาน ที่กำลังพัฒนา การแก้ปัญหา/งาน พัฒนาของผู้บริหาร ข้อมูลที่ถูกต้อง และเชื่อถือได้ ทางเลือก ที่เกิดขึ้น - Primary Data - Secondary Data ทางเลือก ที่เลือก
1. Coordinated activities เหตุผลการวางแผนธุรกิจ : 1. Coordinated activities 2. Future scenario 3. Rational decision making 4. Monitoring 5. Control
เหตุผลการวางแผนธุรกิจ : สภาพแวดล้อม แนวทางและ ทางเลือกทาง ธุรกิจ แนวทางหรือ ทางเลือก ที่ดีที่สุด ปัญหาและ เหตุการณ์ ทางการธุรกิจ ข้อมูล ความต้องการ ของลูกค้า/ ผู้ใช้บริการ ความพอใจ/สนองความต้องการ แผนการทาง ธุรกิจ
ลักษณะข้อมูลการวางแผนทางธุรกิจ : คุณสมบัติของข้อมูลที่ใช้ในการวางแผน มีความเกี่ยวข้อง (Relevance) มีคุณภาพ (Quality) Accuracy : สูง Errors : ต่ำ มีความทันสมัย (Timeless) = Up to Date มีความสมบูรณ์ (Completeness)
ประโยชน์การวางแผนทางธุรกิจ : 1. รับรู้แนวทางในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ 2. ง่ายต่อการควบคุมและประเมินผล 3. สามารถกำหนดกิจกรรมทางธุรกิจช่วงเวลาต่างๆ อย่างเหมาะสม 4. สามารถคาดการณ์หรือพยากรณ์ปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้าในอนาคต 5. ดำเนินการแก้ไขปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพ
คุณค่าของการมีทักษะการวิจัย : เพื่อเป็นการรวบรวมสารสนเทศต่างๆ ก่อนลงมือในการปฏิบัติงาน ซึ่ง สามารถป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น เพื่อสามารถใช้ในการศึกษาวิจัยและแสวงหาความรู้ระดับสูงที่มีความลึกซึ้ง ต่อไป เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจในการออกแบบวิจัย ขั้นตอนและกระบวน การวิจัย เพื่อสามารถประเมินและแก้ปัญหาทางการบริหารในองค์กรอย่าง ถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อสร้างอาชีพเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการวิจัยทางการตลาดและธุรกิจ หรือการวิจัยด้านต่างๆ
ขั้นตอนและกระบวนการวิจัย
ขั้นตอนและกระบวนการวิจัย 1. กำหนดประเด็นปัญหา 9. เสนอผลงานวิจัยและเขียนรายงาน 2. สำรวจและทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง 8. ดำเนินการกับข้อมูลและ วิเคราะห์ข้อมูล 3. กำหนดสมมติฐานเพื่อทดสอบ 4. การออกแบบวิจัย 7. สร้างเครื่องมือเก็บข้อมูลและดำเนินการเก็บข้อมูล 6. นิยามปฏิบัติการและสร้างตัวชี้วัด 5. กำหนด ประชากรเป้าหมายและสุ่มตัวอย่าง