SOP RIHES-DDD การควบคุมการแพร่เชื้อวัณโรค (Tuberculosis Infection control Version 2.0, 20 June 2016 Daralak T. 8 Jul 2016
จุดประสงค์ ( Purpose) และ ขอบเขตการใช้งาน ( Applies for) เพื่อให้จนท. ของโครงการวิจัยในสถาบันฯ (Health Care Worker-HCW) ที่ต้องสัมผัสผู้ป่วยสงสัย หรือ ยืนยันว่าเป็นวัณโรค ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องเพื่อป้องกันการเป็นวัณโรคและป้องกันการแพร่เชื้อวัณโรคของอส.ที่ป่วยหรือมีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
วิธีดำเนินการ (Procedures) สถานที่ (Facility level Measurers) การบริหารจัดการ (Administrative controls) การควบคุมสิ่งแวดล้อม (Environmental controls) อุปกรณ์และการป้องกัน (Personal protective equipment -PPE)
วิธีดำเนินการ (Procedures) สถานที่ (Facility level Measures) Administrative controls Environmental controls Personal protective equipment (PPE)
ตู้เก็บเสมหะ (Biosafety Cabinet For Respiratory Disease) สถาบันฯ จัดเตรียมตู้เก็บเสมหะ ( Biosafety Cabinet For Respiratory Disease) เพื่อใช้ในการเก็บ เสมหะของผู้ที่สงสัย/เป็นวัณโรคหรือโรคติดเชื้อในระบบหายใจ อยู่ในบริเวณส่วนรอตรวจ หน้าห้องตรวจ 4 ซึ่งตู้ดังกล่าวเป็นระบบปิด และมีระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง Ultra Violet ทั้งก่อนและหลังการใช้งาน
ห้องตรวจ 4 คลินิกรักษ์สุขภาพ (Respiratory Infection Treatment Room) สถาบันฯ จัดเตรียมห้องตรวจ 4 คลินิกรักษ์สุขภาพ เป็นห้องตรวจแยกสำหรับผู้ที่เป็นวัณโรคและ/หรือ มีการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่แพร่กระจายในอากาศ (Respiratory Infection Treatment Room) ซึ่งเป็นห้องตรวจที่มีการควบคุมระบบความดันอากาศเป็น Negative pressure ระบบการระบายอากาศแยกจากระบบส่วนกลาง และมีระบบทำความสะอาดอากาศก่อนปล่อยออกภายนอก ร่วมกับมีเครื่องฟอกอากาศ HEPA filter ห้องดังกล่าวมีการตรวจสอบการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ส่วนรอตรวจ ( waiting area) เป็นสถานที่โล่ง มีอากาศถ่ายเท ซึ่งจัดทำเป็นสวนหย่อมหน้าห้องตรวจ 4
วิธีดำเนินการ (Procedures) Facility level Measures การบริหารจัดการ (Administrative controls) Environmental controls Personal protective equipment (PPE)
หากบุคคลใดทั้งจนท. และ อส หากบุคคลใดทั้งจนท. และ อส. มีอาการไอ จาม ให้ใช้หน้ากากอนามัย ( surgical MasK)ซึ่งมีจัดเตรียมไว้ในคลินิกวิจัยทุกคลินิก 2. ให้จนท. ประจำจุดแรกที่พบอส. ของแต่ละคลินิกวิจัย ดำเนินการซักประวัติเบื้องต้นเพื่อคัดกรอง อส. หรือผู้ป่วยที่สงสัยหรือยืนยันว่าเป็นวัณโรค ประกอบด้วยอาการ ไอเรื้อรัง 2 สัปดาห์ขึ้นไป ไอเป็นเลือด อาการไข้ เหงื่อออกตอนกลางคืน น้ำหนักลด เบื่ออาหาร หากพบว่า อสมีอาการดังกล่าว 2 อย่างขึ้นไป แนะนำให้อสใส่หน้ากากอนามัยชนิด surgical mask และให้แยกอส. ส่งเข้าห้องตรวจ 4 คลินิกรักษ์สุขภาพ (โทร 36058) หมายเหตุ หากอส. รายดังกล่าวเป็นอส.ที่พบในคลินิกหรือโครงการวิจัยอื่นของสถาบันฯ ที่ไม่ได้ใช้คลินิกรักษ์สุขภาพ ในการตรวจอส ขอให้จนท.ในคลินิกที่พบอส.หรือผู้ป่วยดังกล่าว โทร 36058 (คลินิกรักษ์สุขภาพ) เพื่อให้จนท.ประจำคลินิกรักษ์สุขภาพได้จัดเตรียมห้องตรวจ 4 เพื่อรอรับการมาใช้บริการของคลินิก/โครงการนั้นๆ ต่อไป
3. การดูแลอส.หรือผู้ป่วยที่สงสัย/ยืนยันว่าเป็นวัณโรคหรือโรคติดเชื้อในระบบหายใจ และผู้ป่วยที่สงสัยหรือยืนยันว่าเป็นวัณโรคหรือวัณโรคดื้อยา ให้ดำเนินการดูแลแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop service) ณ. ห้องตรวจ 4 คลินิกรักษ์สุขภาพ และจัดหาผ้าปิดปากและจมูกให้ผู้ป่วยสวมและให้กระดาษทิชชูแก่ผู้ป่วยเพื่อใช้ปิดปากและจมูกเวลาไอจาม ส่วนจนท.ผู้ปฏิบัติงานให้ใช้หน้ากากอนามัยชนิด N95 หมายเหตุ วัณโรคดื้อยา ได้แก่ ผู้ป่วยที่เคยได้รับการรักษามาก่อน ผู้ป่วยที่ล้มเหลวต่อการรักษาด้วยสูตรยารักษาซ้ำ ผู้ป่วยที่ล้มเหลวต่อการรักษาด้วยสูตรยารักษาผู้ป่วยรายใหม่ โดยให้การรักษาถึงเดือนที่ 5 เสมหะยังพบเชื้อ ผู้ป่วยที่กลับเป็นซ้ำ (relapse) ผู้ป่วยกลับมารักษาซ้ำหลังขาดยาผู้ป่วยรายใหม่ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย MDR-TB ผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความชุกของ MDR-TB สูง ผู้ป่วยที่มีโรคร่วม มีบางการศึกษาที่ พบว่าผู้ป่วยวัณโรคที่ติดเชื้อเอชไอวี พบ MDR-TB สูงขึ้น
4.. การวินิจฉัย หรือการตรวจต่างๆ ที่มีผลให้เกิดการฟุ้งกระจายของเชื้อวัณโรค ให้ดำเนินการในห้องตรวจ 4 (respiratory infection treatment room) หากต้องมีการเก็บเสมหะที่คลินิก ให้จนท.ให้คำแนะนำวิธีการเก็บเสมหะอย่างถูกวิธี และเก็บเสมหะในตู้ เก็บเสมหะที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งตั้งอยู่อยู่ในบริเวณส่วนรอตรวจ หน้าห้องตรวจ 4 คลินิกรักษ์สุขภาพ 5. หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยวัณโรคระยะแพร่เชื้อออกจากห้องแยก ให้ผู้ป่วยสวมผ้าปิดปากและจมูก (surgical mask) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคสู่หน่วยงานอื่น 6. จัดอบรมและ/หรือส่งเสริมให้ความรู้กับบุคลากรเกี่ยวกับวัณโรค รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อ
วิธีดำเนินการ (Procedures) Facility level Measures Administrative controls การควบคุมสิ่งแวดล้อม (Environmental controls) Personal protective equipment (PPE)
มีการเปิดระบบทำลายเชื้อโรคด้วยรังสี Ultraviolet โดยจนท มีการเปิดระบบทำลายเชื้อโรคด้วยรังสี Ultraviolet โดยจนท.เปิด UV lamp ทุกวันหยุดราชการ วันละ 2 ชั่วโมง เวลา20-22 น. เมื่อจนท.ดำเนินการแล้วบันทึกลงใน ตารางบันทึกการเปิดระบบ UV เพื่อฆ่าเชื้อในอากาศของคลินิก (UV record) .ซึ่งเก็บไว้ในแฟ้มบันทึกการตรวจสอบเครื่องมือ ที่คลินิกรักษ์สุขภาพ มีการตรวจสอบความพร้อมของตู้เก็บเสมหะ โดยจนท.เปิดสวิทช์ทดสอบการทำงานของตู้ เดือนละ 1 ครั้ง และทุกครั้งก่อนมีการใช้งาน เมื่อจนท.ดำเนินการแล้วบันทึกลงในตารางบันทึกการตรวจสอบตู้เก็บเสมหะ (Biosafety Cabinet) ซึ่งเก็บไว้ในแฟ้มบันทึกการตรวจสอบเครื่องมือ ที่คลินิกรักษ์สุขภาพ นอกจากนี้ให้ผู้ประสานงานติดต่อบริษัทผู้รับผิดชอบเพื่อตรวจและบำรุงรักษาปีละ 1 ครั้ง ก่อนรับอส/ผู้ป่วยที่สงสัยหรือยืนยันว่าเป็นวัณโรคหรือโรคติดเชื้อในระบบหายใจ เข้าห้องตรวจ 4 ให้จนท.เปิดระบบการระบายอากาศและกรองเชื้อโรคเตรียมไว้ และภายหลังการใช้ห้องตรวจ 4 สำหรับผู้ป่วยที่สงสัย/ยืนยันว่าเป็นวัณโรคหรือโรคติดเชื้อในระบบหายใจ ให้ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อที่เตรียมไว้ในห้องตรวจ 4 ฉีดฆ่าเชื้อ รอนาน 1 ชัวโมงก่อนเปิดใช้ในครั้งต่อไป จนท.ล้างมือด้วยน้ำยาล้างมือหรือแอลกอฮอล์ทุกครั้งภายหลังเสร็จสิ้นหัตถการ จัดเตรียมแอลกอฮอล์ลำหรับอส.ทำความสะอาดมือไว้ในคลินิก
วิธีดำเนินการ (Procedures) Facility level Measures Administrative controls Environmental controls อุปกรณ์และการป้องกัน (Personal protective equipment -PPE)
มีการจัดเตรียมและตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ได้แก่ หน้ากากอนามัยชนิด surgical mask หน้ากาก N95 ถุงมือใช้แล้วทิ้ง ตลอดจน น้ำยาล้างมือและหรือแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ให้พร้อมใช้อยู่เสมอ ดูแลความสะอาดเรียบร้อยของคลินิก ห้องตรวจ 4 และ ตู้เก็บเสมหะให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา จัดให้มีการตรวจสุขภาพจนท.สถาบันฯ ทุก 2 ปี ซึ่งมีการตรวจและซักประวัติเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค ตลอดจนมีการส่งตรวจเอกซเรย์ทรวงอก (CXR) ตามความเหมาะสม สำหรับจนท.กลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลหรือสัมผัสกับผู้ป่วยหรือสิ่งส่งตรวจของอสทีหรือผู้ป่วยสงสัยหรือยืนยันว่าเป็นวัณโรค แพทย์ให้มีการชักประวัติคัดกรองปีละ 1 ครั้ง และส่งตรวจเอกซเรย์ทรวงอก (CXR) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์ แพทย์พิจารณาให้การตรวจเพิ่มติมในกรณีจนท.มีอาการน่าสงสัยเป็นวัณโรคหรือโรคติดเชื้อในระบบหายใจ และหากตรวจพบจนท.ป่วยเป็นวัณโรค ต้องดำเนินการประสานงานและส่งต่อตามระบบการรักษาพื่อให้จนท.ดังกล่าวได้รับการรักษาตามความเหมาะสม ร่วมกับทำการตรวจสอบและคัดกรองจนท.อื่นซึ่งทำงานใกล้ชิดกับจนท.คนดังกล่าวและส่งต่อเพื่อรับยาป้องกันวัณโรคหากจำเป็น
สำหรับจนท.โครงการวิจัยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค รวมถึงเจ้าหน้ารายใหม่ จัดให้มีการตรวจ PPD test และCXR ก่อนเริ่มโครงการ หากผลการตรวจเป็น Negative ให้ตรวจ PPD test ซ้ำทุก 2 ปี ถ้าในครั้งต่อมาตรวจพบว่าจนท.ติดเชื้อวัณโรคแฝง (ผลการตรวจเป็นบวก, CXR ปกติ) จะทำการส่งพบ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาการติดเชื้อแฝง สำหรับจนท.โครงการวิจัยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรคหรือทำโครงการเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อในระบบ ทางเดินหายใจ จัดให้มีการทำ Fit test อย่างน้อยปีละครั้ง ส่วนจนท.ใหม่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรคหรือทำโครงการเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหาย ให้ทำ Fit test ก่อนให้การดูแลผู้ป่วยหรือก่อนเริ่มทำงานในโครงการ RIHES PPD test yr2015 : total 43 Positive 6 (14%), Neg 37 ( 86%)
การอบรมวิธีปฏิบัติงาน (Training) จนท.จะต้องได้รับการอบรมและฝึกฝนวิธีปฏิบัติงานนี้ ก่อนที่จะเริ่มโครงการใหม่ จนท.จะต้องพิจารณาปรับปรุงวิธีการปฏิบัตินี้ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของโครงการเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จนท.จะได้รับ SOP ที่จะต้องปฏิบัติตาม การอบรมและฝึกฝนวิธีปฏิบัติงานนี้จะต้องมีการจดบันทึกและตรวจสอบได้ จนท.ที่เข้ามารับผิดชอบงานใหม่จะต้องผ่านการอบรมและฝึกฝนวิธีปฏิบัติงานนี้ภายใน 60 วันนับจากวันที่รับหน้าที่ หากมีการแก้ไขและรับรองวิธีปฏิบัติงานนี้ จะต้องทำการฝึกอบรมวิธีการปฏิบัติงานวิธีใหม่แก่จนท.ภายใน 60 วัน
Thank You