เรื่อง การปรับปรุงค่าตอบแทนภาคราชการ กองคลังสัมพันธ์ วิสัยทัศน์กองคลัง กองคลังเป็นหน่วยงานสนับสนุนของมหาวิทยาลัย ที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านการคลัง ยึดหลักความถูกต้อง คล่องตัว โปร่งใส ตรวจสอบได้ กองคลัง อาคารสารนิเทศ 50 ปี ชั้น 3 โทร. 0-2942-8147-50 ภายใน 4301-4325 โทรสาร. 0-2942-8147-50 ปีที่ 9 ฉบับที่ 9 Kasetsart University Finance Division มีนาคม - พฤษภาคม 2550 http://www.finance.ku.ac.th E-mail : psdfn@ku.ac.th สวัสดีค่ะ.... บก.ขอคุย ฉบับนี้เป็นฉบับที่สี่แล้วนะคะสำหรับกองบรรณาธิการชุดใหม่ซึ่งเรามีความพยายามที่จะสรรหาข่าวมาเสนอเพื่อให้ประโยชน์ต่อผู้อ่านที่ติดตามเสมอมา ท่านใดมีข้อคิดเห็นดีที่จะแนะนำหรือแลกเปลี่ยนข่าวสารก็ขอเชิญใช้บริการได้ ในฉบับนี้มีหัวข้อข่าวที่น่าสนใจและทันเหตุการณ์ update มาให้ติดตามข่าวสารที่ใกล้ตัวท่านเองมากที่สุด ค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจากกอง บก. ข่าว เรื่อง การปรับปรุงค่าตอบแทนภาคราชการ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางการปรับค่าตอบแทนภาคราชการ และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ แนวทางการปรับปรุงค่าตอบแทนภาคราชการมีดังนี้ 1. ในระยะเร่งด่วน 1.1 ปรับอัตราเงินเดือนเป็นร้อยละเท่ากันทุกตำแหน่งในอัตราร้อยละ 4 สำหรับข้าราชการพลเรือน ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการตุลาการ ศาลยุติธรรม ตุลาการศาลปกครอง ข้าราชการอัยการ ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ข้าราชการการเมือง ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 (12 เดือน) 1.2 ปรับอัตราเงินเดือนขั้นสูงและขั้นต่ำของผู้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ซึ่งจะมีผลให้รายได้ขั้นสูงของผู้มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวปรับเพิ่มเป็น 11,000 และรายได้ขั้นต่ำปรับเพิ่มเป็น 7,700 บาท 1.3 ปรับเงินช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการบำนาญ ในอัตราร้อยละ 4 เช่นเดียวกัน 1.4 ประมาณการงบประมาณที่ต้องใช้ในการนี้ 17,000 ล้านบาท การพิจารณาปรับบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวตามขั้นตอนนี้สามารถดำเนินการโดยคณะรัฐมนตรีพิจารณามีมติอนุมัติและตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และกำหนดระเบียบเพื่อใช้บังคับต่อไป 2. ในระยะยาว ให้พิจารณาปรับโครงสร้างค่าตอบแทนภาคราชการ เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของค่าตอบแทนของข้าราชการประเภทต่าง ๆ โดยกำหนดอัตราเงินเดือนข้าราชการให้แตกต่างกันตามลักษณะงานและระดับตำแหน่งอย่างเหมาะสมเป็นธรรม รวมทั้งปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการให้ใกล้เคียงกับอัตราเงินเดือนของภาคเอกชนในตลาดแรงงาน โดยมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. ศึกษาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะต่อไป (ที่มา มติ ครม.วันที่ 5 มิถุนายน 2550)

โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ขอเชิญบุคลากร ชาว มก. ทุกท่าน คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการให้มีการดำเนินการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของรัฐ โดยหากหน่วยงานใดพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวแล้วไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมของส่วนราชการ และมีงบประมาณของส่วนราชการรองรับ ให้พิจารณาดำเนินการได้ โดยให้หน่วยงานจัดทำรายละเอียดข้อเสนอมาตรการเสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป ตามมติ ก.พ.ครั้งที่ 4/2550 วันที่ 26 เมษายน 2550 ตามที่สำนักงาน ก.พ.เสนอ นายปรีชา วัชราภัย เลขาธิการก.พ.กล่าวว่า หลักเกณฑ์ของการเข้าร่วมโครงการเออร์ลี่รีไทร์ มี 5 กรณี คือ 1.ส่วนราชการต้องแปรรูปออกจากส่วนราชการ 2.ส่วนราชการประสงค์จะยุบบางภารกิจ 3. ส่วนราชการมีอัตรากำลังเกิน 4. ส่วนราชการมีอัตรากำลังเหมาะสม แต่มีบุคลากรที่สูงอายุ และ 5.ส่วนราชการที่มีอัตรากำลังไม่พอแต่มีคนสูงอายุถึง 20 %แต่ก็ให้เข้าร่วมโครงการได้ไม่เกิน 5% ที่มา หนังสือสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0506/ว89 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2550 หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร 1008.1/178 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2550 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 12 มิถุนายน 2550 การเร่งรัดการดำเนินการมาตรการส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณ ปี 2550 ตามที่สำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางเร่งรัดการดำเนินการ กองคลังได้สรุปสาระสำคัญที่ควรทราบดังนี้ 1.ให้เร่งรัดการดำเนินการ สำหรับโครงการ/รายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา ให้สามารถทำสัญญา / ก่อหนี้ผูกพันได้ภายใน วันที่ 30 มิถุนายน 2550 2. สำหรับรายการที่ไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายใน วันที่ 30 มิถุนายน 2550 หากส่วนราชการพิจารณาแล้วเห็นว่าจะสามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้โดยเร็ว และสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จรวมทั้งเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันภายในปี งบประมาณ พ.ศ.2550 เห็นสมควรให้ส่วนราชการขออนุมัติต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อขยายเวลาดำเนินการ โดยจะต้องทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ภายใน วันที่ 31 กรกฏาคม 2550 ทั้งนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามหนังสือที่อ้างถึง นะคะ............. (หนังสือสำนักงบประมาณที่ นร 0506/ว82 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2550) เกษียณอายุราชการปี 2550 บุคลากรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่จะเกษียณอายุราชการตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2550 มีดังนี้ ข้าราชการ 64 ราย ลูกจ้างประจำ 54 ราย สำหรับผู้ที่จะเกษียณอายุที่ยังไม่ได้รับเอกสารการขอรับบำเหน็จ บำนาญ ติดต่อขอรับเอกสารได้ที่งานการเงิน กองคลัง โดยด่วน นะคะ ขอเชิญบุคลากร ชาว มก. ทุกท่าน ขอเชิญบุคลากร มก. ทุกท่าน ร่วมถวายความจงรักภักดีแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ยาวนานถึง ๘๐ พรรษา โดยการอัญเชิญพระราชดำรัส หรือพระบรมราโชวาทที่ได้น้อมนำมายึดถือปฏิบัติในการทำงาน การดำเนินชีวิต.... โดย ทุกท่านร่วมกันถวายความจงรักภักดีด้วยกันนะครับ ที่ปรึกษา : รศ. วุฒิชัย กปิลกาญจน์, อาจารย์เปรื่องบุญ จักกะพาก, ผอ. วลีรัตน์ กาญจนปกรณ์ชัย บรรณาธิการ : สรัญญา โชติพัฒน์ กองบรรณาธิการ : ฐานิตา แสงธรรมประทีป, สุภัทรา วงษ์วันทนีย์, เยาวภา เอี่ยมพุ่ม, พรภิรมย์ เกิดแสง, สมคิด ปิ่นสุวรรณ, พัชรา บุญโปร่ง, ธีระวัฒน์ บุญเกิด ฝ่ายพิมพ์ : ธีระวัฒน์ บุญเกิด, พัชรา บุญโปร่ง เลขานุการ : สมคิด ปิ่นสุวรรณ