Plagiarism
Plagiarism โจรกรรมทางวรรณกรรม หรือ การลอก เลียนวรรณกรรม ซึ่งหมายถึงการลอกงาน เขียน ความคิดหรืองานสร้างสรรค์ดั้งเดิม ทั้งหมด หรือบางส่วนที่เหมือนหรือเกือบ เหมือนงานดั้งเดิมของผู้อื่นมาแอบอ้างเป็นงาน ของตนเอง
1.ไม่อ้างอิงแหล่งที่มา Plagiarism แบ่งเป็น 2 ประเภท 1.ไม่อ้างอิงแหล่งที่มา (Source not cited) 2.อ้างอิงแหล่งที่มาแต่ยังจัดอยู่ในข่ายลอกเลียนผลงานวรรณกรรม (Sources cited but plagiarized)
1.ไม่อ้างอิงแหล่งที่มา(Source not cited) 1.1. The ghost writer คือ คัดลอกเนื้อหาชนิด คำต่อคำจาก ผลงานของผู้อื่น และแอบอ้างว่าเป็นผลงานของตัวเอง 1.2. The photocopy คือ คัดลอกเฉพาะเนื้อหาส่วนที่สำคัญ จากแหล่งข้อมูลเดียว โดยไม่ปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขใดๆ 1.3. The potluck paper คือ คัดลอกมาจากหลายแหล่งข้อมูลที่ แตกต่างกัน มาเขียนใหม่โดยการปรับเปลี่ยนประโยคใหม่ แต่ ยังคงเนื้อหาที่สำคัญของต้นฉบับไว้ 1.4. The poor disguise คือ ปรับเปลี่ยนรูปแบบสำนวนการ เขียนเพียงเล็กน้อยโดยเปลี่ยน คีย์เวริด์ หรือวลีใหม่ แต่ยังคงสาระสำคัญเหมือนดั่งต้นฉบับ
2.อ้างอิงแหล่งที่มาแต่ยังจัดอยู่ในข่ายลอกเลียนผลงานวรรณกรรม(Sources cited but plagiarized) 2.1.The forgotten footnote คือ อ้างอิงแต่ชื่อผู้แต่ง แต่ปกปิดข้อมูลของแหล่งที่มาของเอกสารอ้างต้นฉบับ 2.2. The mis-informer คือให้ข้อมูลไม่ชัดเจนถึง แหล่งที่มาของเอกสารอ้างอิง เพื่อให้ยากต่อการค้นหา เอกสารต้นฉบับ 2.3. The too-perfect paraphrase คือ ละเลยไม่ใส่ เครื่องหมายคำพูด (Quotation Marks) ในประโยค ข้อความ หรือ วลี ที่ยกมาชนิดคำต่อคำจาก แหล่งข้อมูลต้นฉบับ
2.อ้างอิงแหล่งที่มาแต่ยังจัดอยู่ในข่ายลอกเลียนผลงานวรรณกรรม(Sources cited but plagiarized) 2.4.The resourceful cited คือ การอ้างข้อความหรือ เนื้อหาที่ยกและใส่เครื่องหมายคำพูด (quotation marks)แสดงไว้มากเกินไปในผลงานดูเสมือนผลงานนั้น เต็มไปด้วยการยกประโยคหรือข้อความผู้อื่นมา จึง ขาดอัตลักษณ์ที่แสดงถึงผลงานต้นฉบับของตนเอง 2.5. The perfect crime คือ มีการอ้างอิงแหล่งที่มา ถูกต้องในบางส่วนของเนื้อหา แต่มีการคัดลอกในส่วน วิเคราะห์หรือผลสรุปมาเป็นของตนโดยไม่อ้างอิง แหล่งที่มา
ลักษณะความผิดพื้นฐานของการโจรกรรมที่พบบ่อยมี 3 ประเภท 1. คือ การคัดลอกข้อความทั้งดุ้นมาใส่ไว้ในงานของตน หรือที่เรียกกันว่า การตัด-แปะ การคัดลอกวิธีนี้ไม่ผิดถ้าใส่เครื่องหมายอัญประกาศ (“ ”) ที่ประโยคหรือข้อความที่คัดลอกมา พร้อมกับการใส่อ้างอิง
ลักษณะความผิดพื้นฐานของการโจรกรรมที่พบบ่อยมี 3 ประเภท 2. การนำข้อความ หรือ คำพูด มาใส่ในงานของตนโดยสลับหรือเปลี่ยนตำแหน่งของคำหรือเปลี่ยนคำบางคำเป็นคำอื่นที่มีความหมายเหมือน หรือจัดรูปประโยคใหม่โดยใช้คำเดิม หรือใช้การสลับตำแหน่งคำร่วมกับการเปลี่ยนคำก็ไม่สามารถทำได้ยังคงถือว่าโจรกรรม แม้ว่าได้มีการอ้างอิงอย่างถูกต้อง
ลักษณะความผิดพื้นฐานของการโจรกรรมที่พบบ่อยมี 3 ประเภท 3. การนำใจความมาอธิบายใหม่ หรือเขียนใหม่ หรือสรุปใหม่ ด้วยคำพูดของตนจะเป็นความผิดถ้าไม่มีการอ้างอิงผลงานหรือความคิดต้นฉบับ วิธีนี้เป็นวิธีที่แนะนำให้ใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่อัญประกาศ แต่ต้องใส่การอ้างอิง (จะเป็น เชิงอรรถ หรือ อ้างอิงในประโยคหรือย่อหน้านั้นๆ)
โจรกรรมทางวรรณกรรมหรือการลอกเลียนวรรณกรรม ทางวิชาการ การโจรกรรมทางวรรณกรรม โดยนิสิตนักศึกษา อาจารย์หรือ นักวิจัยถือเป็นความไม่สุจริตทาง วิชาการ เช่น การนำบทความ หรืองานทางวิชาการทั้งหมดของ ผู้อื่นมาส่งโดยอ้างว่าเป็นของ ตนเอง ผู้กระทำผิดนั้นจะต้องถูก ตำหนิหรือโดนลงโทษ
โจรกรรมทางวรรณกรรมหรือการลอกเลียนวรรณกรรม หนังสือพิมพ์ การบิดเบือนข่าวหรือการ คัดลอกบทความจากแหล่งข่าวที่ แท้จริง ทำให้สาธารณชนมองถึง ความไม่เป็นความจริงถือเป็นการ ละเมิดจรรยาบรรณทางวารสารได้ และนักหนังสือพิมพ์จะถูกพักงาน จากผู้บริหารหนังสือพิมพ์นั้นๆ
โจรกรรมทางวรรณกรรมหรือการลอกเลียนวรรณกรรม ทางออนไลน์ เป็นการขโมยเนื้อความจากเว็บ ด้วยวิธีคัดลอก-แปะดังกล่าว โจรกรรมทางวรรณกรรมออนไลน์ จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์นี้เรียกกันว่า “เนื้อความจากขยะ” ซึ่งมีผลกระทบ โดยเฉพาะกับเว็บไซต์จำนวนมาก ที่ตั้งตัวแล้ว บล็อกนั้นอาจได้ โอกาสไปใช้หาเงินผ่านการ โฆษณาออนไลน์
โจรกรรมทางวรรณกรรมต่างกับการละเมิดลิขสิทธิ์ การละเมิดลิขสิทธิ์ คือ การนำเอาผลงานไปเผยแพร่ ดัดแปลง ทำซ้ำ โดยเจ้าของผลงานไม่อนุญาตหรือไม่ได้ทราบ โจรกรรมทางวรรณกรรมเกี่ยวข้องกับการสร้างชื่อเสียงให้ตนเองและแอบอ้างว่าตนเองเป็นผู้เขียน
โปรแกรมที่ช่วยในการตรวจสอบการโจรกรรม Anti-Plagiarism เป็นโปรแกรมออกแบบมาเพื่อป้องกัน plagiarism จากข้อมูลบนเว็บไซต์ที่มีการ copy-pasting ได้ โปรแกรมนี้เหมาะกับสถาบันการศึกษา เอกสารที่ ตรวจสอบจะอยู่ในไฟล์ที่ rtf, doc, docxและ pdf
โปรแกรมที่ช่วยในการตรวจสอบการโจรกรรม Plagiarisma.net เป็นโปรแกรมสำหรับ windows ที่ใช้ใน การค้นหา URLs ไฟล์ HTML, DOC, docx, RTF, TXT, ODT และ PDF
โปรแกรมที่ช่วยในการตรวจสอบการโจรกรรม Plagiarism Checker เป็นโปรแกรมที่ใช้การตรวจสอบการคัดลอกงานจาก อินเทอร์เน็ต PlagTracker เป็นโปรแกรม ออนไลน์ที่ตรวจสอบเนื้อหา ข้อความที่คล้ายกันจะปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ จะ สืบค้นข้อมูลจากผลงานทางวิชาการที่มีมากกว่า 20 ล้านบทความ
โปรแกรมที่ช่วยในการตรวจสอบการโจรกรรม ยกตัวอย่างโปรแกรมตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยต่างๆ เตรียมไว้ให้นิสิตใช้ เช่น บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใช้ โปรแกรม Anti-Kobpae จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้โปรแกรม Turnitin มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้โปรแกรม Turnitin, Copy Cat และ E-thesis มหาวิทยาลัยมหิดล ใช้หลาย โปรแกรมมาก เช่น Article Checker