รูปแบบการดำเนินการและ จัดการโรงแรม บทที่ 5 รูปแบบการดำเนินการและ จัดการโรงแรม
การประกอบธุรกิจโรงแรมสมัยแรก เริ่มจากเจ้าของกิจการเป็นผู้ดำเนินการและจัดการเอง กิจการมีขนาดเล็กสามารถควบคุมดูแลได้ทั่วถึง และสามารถเอาใจใส่ในการบริการจนสร้างความประทับใจแก่แขกผู้พัก เมื่อประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจและเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนออกไป จึงมีการพัฒนาโรงแรมใหม่เพิ่มขึ้น มีการส่งตัวแทนไปเป็นผู้ดูแลการดำเนินการ การขยายกิจการมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและค่อนข้างช้า
เพราะธุรกิจต้องอาศัยปริมาณทุนจำนวนมากในการ ก่อสร้างอาคารและจ้างพนักงาน และยังใช้เวลาในการ คืนทุนนาน เนื่องจากข้อจำกัดสำคัญในการขยายกิจการ ในเชิงธุรกิจคือ เงินทุน จึงมีการพัฒนาวิธีการจัดการ ธุรกิจไปในแนวทางต่างๆที่สามรถช่วยลดภาระการลง ทุน ทำให้กิจการขยายตัวเพิ่มจำนวนขึ้นได้อย่างรวด เร็ว นำไปสู่รูปแบบของการดำเนินการ/ประกอบการ
(Operate) และการจัดการ (Manage) ผู้ดำเนินการจัดการธุรกิจแบ่งได้ดังนี้ 1.การบริหารโรงแรมระบบอิสระ 2.การบริหารโรงแรมระบบเครือข่าย 3.การบริหารโรงแรมระบบทำสัญญาร่วมจัดการ 4.การบริหารโรงแรมระบบรับสิทธิ์
1.การบริหารงานโรงแรมระบบอิสระ Independent System หมายถึง การที่โรงแรมมีการดำเนินงานแบบอิสระ แยกจากกันโดยผู้บริหารเป็นเจ้าของโรงแรม 1 แห่งหรือมากกว่า และแต่ละโรงแรมไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบเครือข่าย
1.การบริหารงานโรงแรมระบบอิสระ Independent System
2.การบริหารโรงแรมระบบเครือข่าย (Chain System) เป็นการดำเนินธุรกิจโดยการว่าจ้างทีมงานของเครือโรงแรม ที่มีชื่อเสียงมาบริหารและใช้ชื่อแบรนด์ของเครือโรงแรมที่มี ชื่อเสียงในการดำเนินธุรกิจ หรือการร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจ ทางโรงแรมจะต้องเสียค่าจ้างให้แก่ทีมงานผู้บริหารตามที่ได้ ตกลงไว้กับทางเจ้าของเครือโรงแรม และต้องจ่ายส่วนแบ่ง รายได้ให้แก่เครือโรงแรมสำหรับเป็นค่าธรรมเนียม
2.การบริหารโรงแรมระบบเครือข่าย (Chain System) การใช้ชื่อโรงแรมในการดำเนินธุรกิจ หรือส่วนแบ่งกำไร ตามที่ได้ตกลงผลประโยชน์กันไว้ การดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้ จะบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารที่ส่งมาจากเครือโรงแรมที่เข้า ร่วมทั้งหมด
2.การบริหารโรงแรมระบบเครือข่าย (Chain System) โรงแรมเครือ Best Western
Dusit Hotels and Resort/Dusit Group
The Centara Group Hotels
Amari Hotels and Resorts
Imperial Family of Hotels
Shangri-La Hotels and Resorts
Mandarin Oriental Hotel Group
Hilton International
Inter Continental Hotels Group
Marriott International
3.การบริหารโรงแรมระบบทำสัญญาร่วมจัดการ (Management Contract system) การทำข้อตกลงระหว่าง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายเจ้าของโรงแรม (The Owner) กับบริษัทรับบริหารจัดการโรงแรม (The management company)โดยที่เจ้าของจะ เป็นผู้ให้เงินทุนในการดำเนินงาน ส่วนบริษัทรับจัดการโรงแรมตกลง ที่จะรับผิดชอบด้านการบริหารงาน ในโรงแรม
ฝ่ายเจ้าของโรงแรม 1.เป็นผู้ลงทุนดำเนินการ 2.ตกลงให้ผู้ดำเนิน (บริษัทจัดการ) เป็นผู้มีอำนาจ 3.ไม่ก้าวก่ายงานบริหารจัดการโรงแรม 4.เป็นผู้จ่ายค่าจ้างและเงินเดือนทั้งหมด 5.รับผิดชอบให้มีการทำประกันคุ้มครองชีวิต และทรัพย์สิน 6.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามสัญญารับจัดการ
ฝ่ายผู้รับดำเนินการ (บริษัทจัดการ) 1. ผู้รับผิดชอบการบริหารงานตามระบบ 2. บริหารงานบุคคล 3. กำหนดราคาขายและอัตราค่าบริการต่างๆ 4. จัดทำระบบบัญชี 5. เจรจาต่อรองในการจัดจ้างบริการอื่นที่จำเป็น 6. จัดหาวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ทั้งหมด 7. บริหารการตลาดรวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ จัดรายการส่งเสริมการขาย
ข้อได้เปรียบของระบบทำสัญญาร่วมจัดการ ด้านเจ้าของโรงแรม 1.โรงแรมจะได้รับชื่อเสียงที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป 2.เจ้าของโรงแรมไม่ต้องยุ่งยากกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจากการบริหาร 3.เจ้าของโรแรมมีโอกาสสูงที่จะได้รับการช่วยเหลือด้านเงินทุนจากสถาบันการเงินต่างๆ
ข้อเสียเปรียบของระบบทำสัญญาร่วมจัดการ ด้านเจ้าของโรงแรม 1.โรงแรมต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในโรงแรม รวมถึงค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ ดังนั้นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนให้มีเพียงพอ 2.เจ้าของโรงแรมมักไม่ได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอเกี่ยวกับวิธีการบริหารงานในบางกรณี 3.เจ้าของโรแรมขาดสิทธิอำนาจในการบริหารงานด้านต่างๆ
4. การบริหารงานโรงแรมระบบรับสิทธิ์ (Franchise system) ระบบการค้าที่มีการตกลงกันทางธุรกิจ โดยเป็นการทำ สัญญาระหว่างบริษัทผู้ให้สิทธิ์ดำเนินการ และโรงแรมผู้รับ สิทธิ์ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะที่บริษัทผู้ให้สิทธิ์ให้ความ ช่วยเหลือในการจัดการองค์กรและอนุญาตให้ผู้รับสิทธิ์ใช้ชื่อ ทางการค้า วิธีการดำเนินธุรกิจ การบริหารงานโรงแรม รวมถึง การทำงานด้านการตลาด
4. การบริหารงานโรงแรมระบบรับสิทธิ์ (Franchise system) ภายใต้การควบคุมตามเงื่อนไขทั้งนี้บริษัทเจ้าของสิทธิ์จะ ได้รับค่าตอบแทนในลักษณะต่างๆ จากผู้รับสิทธิ์หรือ ผู้ซื้อแฟรนไชส์นั่นเอง
ข้อได้เปรียบของระบบรับสิทธิ์ 1.โรงแรมผู้รับสิทธิ์ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อของโรงแรมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก 2.ได้รับประโยชน์จากการรับสำรองห้องพัก 3.ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ 4.ได้รับความช่วยเหลือในด้านต่างๆ 5.ได้รับความน่าเชื่อถือจากธนาคารและ สถาบันการเงิน
ข้อเสียเปรียบของระบบรับสิทธิ์ 1.โรงแรมผู้รับสิทธิ์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปีเป็นประจำให้กับเจ้าของผู้ให้สิทธิ์ 2. ผู้ปฏิบัติงานขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และเสรีภาพบางอย่างในการดำเนินธุรกิจ 3. เมื่อโรงแรมผู้ให้สิทธิ์ แนะนำช่องทางการโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทำให้ผู้รับสิทธิ์ต้องรับเอานโยบายดังกล่าวมาใช้ในการปฏิบัติงานด้วย
Accor
การบ้าน ให้นักศึกษาจับคู่ โดยให้นักศึกษาหาภาพและ รายละเอียดของโรงแรมในระดับ 4 ดาว และ 5 ดาว อย่างน้อย 4 โรงแรม พร้อม นำเสนอใส่คาบ หน้า โดยใช้โปรแกรม Power Point