Controlling 1

การบังคับให้กิจกรรมต่างๆเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ การควบคุม (Controlling) George R. Terry การประเมินผลการปฏิบัติงานและการแก้ไขข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในกรณีที่จำเป็นเพื่อให้งานดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ Herri Fayol การตรวจสอบว่าทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินสอดคล้องไปตามแผน คำสั่ง หลักการที่วางไว้หรือไม่ Fippo การบังคับให้กิจกรรมต่างๆเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้

ความสำคัญของการควบคุม 1. การควบคุมเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งสร้างสรรค์สังคม 2. ระบบการควบคุม เป็นเครื่องมือวัดและ ตรวจสอบผลงาน 3. การควบคุมที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเป็น แนวทางประสานพฤติกรรม 4. การควบคุมที่มีประสิทธิภาพ

ลักษณะการควบคุม 1. การควบคุมควรได้กำหนดเป้าหมาย 2. การควบคุมต้องคำนึงถึงลักษณะ และความสำคัญของงาน 3. การควบคุมจะเหมาะสม กับแบบขององค์การ

ลักษณะการควบคุม 4. การควบคุมควรมีลักษณะยืดหยุ่น 5. การควบคุมเป็นการคาดการณ์ ไว้ล่วงหน้า 6. การควบคุมจะต้อง รายงาน ความคลาดเคลื่อน

ลักษณะการควบคุม 7. การควบคุมจะมีลักษณะประหยัด 8. การควบคุมจะต้องนำไปสู่ การแก้ไข

1. การควบคุมด้านปริมาณ (Quantity Control) 2. การควบคุมด้านคุณภาพ ประเภทของการควบคุม 1. การควบคุมด้านปริมาณ (Quantity Control) 2. การควบคุมด้านคุณภาพ (Quality Control)

4. การควบคุมด้านค่าใช้จ่าย (Cost Control) ประเภทของการควบคุม 3. การควบคุมด้านเวลา (Time Control) 4. การควบคุมด้านค่าใช้จ่าย (Cost Control)

กระบวนการควบคุม Process Control กำหนดมาตราฐาน การปฏิบัติงาน การวัดผล การปฏิบัติการ ดำเนินการแก้ไข เปรียบเทียบผล กับมาตราฐาน

ประโยชน์ของการควบคุม 1. ทางด้านตัวบุคคล ได้รู้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานได้ผล หรือไม่ต้องปรับปรุงหรือไม่ เป็นการฝึกฝนและสร้าง ผู้ใต้บังคับบัญชาให้เป็นหัวหน้าต่อไป

ประโยชน์ของการควบคุม 1. ทางด้านตัวบุคคล เป็นแนวทางในการพิจารณา ความดีความชอบ เป็นการบำรุงขวัญผู้ใต้บังคับบัญชา ช่วยลดอุบัติเหตุให้น้อยลง เป็นเครื่องกระตุ้นความก้าวหน้าของงาน

ประโยชน์ของการควบคุม 2. ทางด้านงาน เพื่อดูว่างานที่ทำนั้นเป็น ไปตามแผนที่กำหนดหรือไม่ ทำให้ทราบว่างานก้าวหน้าเพียงใจ ได้มาตราฐานที่กำหนดไว้หรือไม่ ต้องแก้ไข หรือมีข้อขัดข้องต่างๆหรือไม่

ประโยชน์ของการควบคุม วิธีปฏิบัติงานที่ทำอยู่นั้นเป็นวิธีการ ที่ดีที่สุดหรือไม่ ช่วยให้ทราบว่าใช้ทรัพยากรอย่าง มีประสิทธิภาพหรือไม่ เป็นการประหยัดเวลา เงิน และแรงงาน 2. ทางด้านงาน

การวางแผนและการควบคุม ความสัมพันธ์ระหว่าง การวางแผนและการควบคุม การวางแผน การจัดองค์การ การเลือกบุคคลากร การสั่งการ การควบคุม สัมพันธ์กัน มากที่สุด

การวางแผนและการควบคุม ความสัมพันธ์ระหว่าง การวางแผนและการควบคุม การวางแผน = บอกวิธีปฎิบัติ การควบคุม = การตรวจสอบ และ คาดการณ์

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม 1. เทคนิคการควบคุมงานโดยงบประมาณ (Budgetary Control Techniques) งบประมาณรายจ่ายประจำปี Annual Expense Budget

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม 1. เทคนิคการควบคุมงานโดยงบประมาณ (Budgetary Control Techniques) งบประมาณแบบแสดงรายการหรืองบประมาณตามลักษณะการใช้งาน(Line-item budgeting or object of expenditure budget)

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม 1. เทคนิคการควบคุมงานโดยงบประมาณ (Budgetary Control Techniques) งบประมาณแบบแสดงผลงาน PPBS - Planning Programming Budgeting System ZBB - Zero-Base Budgeting

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม 2. วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ (Statistical Data) 3. การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break-Even Point Analysis) จุดคุ้มทุน = ต้นทุน เท่ากับ รายได้

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม 4. การตรวจสอบภายใน (Internal Audit) 5. แผนภูมิแกนท์ (Gantt Chart) งาน เวลา

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม 6. การควบคุมโดยใช้ PERT (Program Evaluation and Review Technique) “เวลา ทรัพยากร (6M) และรายละเอียดของงาน”

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม Event เหตุการณ์ 1 2 3 4 กิจกรรม Activity

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม ขั้นแรก : ทำรูปตาข่ายงาน Network Model กำหนดให้ทราบว่างานจะสำเร็จนั้นจะ ต้องทำอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร Event เหตุการณ์ 1 2 3 4 กิจกรรม Activity

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม Event เหตุการณ์ 1 2 3 4 กิจกรรม Activity Event = เหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่ม ต้นและจุดสิ้นสุดของงาน Activity = กิจกรรมที่ต้องปฏิบัติซึ่งต้องใช้เวลาและ ทรัพยากรต่างใช้เครื่องหมายแทนกิจกรรม

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม ขั้นที่ 2 : คำนวณเวลา หมายถึง กิจกรรมนั้นๆ จะทำเสร็จภายในกี่วัน หรือต้องใช้ระยะเวลาเท่าไร แบ่งเป็น 3 กรณี ด้วยกัน

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม 1. เวลาที่กิจกรรมเสร็จเร็วที่สุด To (Optimistic Time) 2. เวลาที่พอหรือปานกลาง Tm (Most Likely Time) 3. เวลาที่ใช้มากที่สุด Tp (Pessimistic Time)

Expected Time (Te) = To +4Tm+Tp Event เหตุการณ์ 1 2 3 4 3 7 10 4 8 10 5 10 16 10 12 14 6.8 12 7.6 10.2 งานทั้งหมดมี 4 ชิ้น Expected Time (Te) = To +4Tm+Tp 6 Te (1-3) = [4+4(8)+10]/6 = 7.6

(Critical Path Method) เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม วิธีการของวิถีวิกฤต (Critical Path Method) ใช้ประโยชน์ในการวางแผน กำหนดเวลาทำงาน และควบคุม

เทคนิคที่ใช้ในการควบคุม * เวลาที่ปรากฎกำหนดไว้เพียงค่าเดียว (One-time estimate) * เพราะผู้วางแผนมีประสบการณ์ในงาน นั้นเป็นอย่างดี * จะเน้นความสำคัญที่งานย่อย PERT

Good luck in your Examination The End Good luck in your Examination