งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

SCC : Suthida Chaichomchuen

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "SCC : Suthida Chaichomchuen"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 SCC : Suthida Chaichomchuen std@kmitnb.ac.th
Project Management SCC : Suthida Chaichomchuen

2 ความหมาย : Project Project หมายถึง การดำเนินกิจกรรมตามแผนงานที่ได้จัดทำขึ้น โดยแต่ละกิจกรรมจะมีวันเริ่มต้นและสิ้นสุด เพื่อบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ภายใต้ระยะเวลา แหล่งทรัพยากร และงบประมาณที่กำหนดไว้

3 ความหมาย : Project Management

4 Project Manager เป็นผู้ที่คอยดูแล ให้คำแนะนำ ควบคุม และติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ ให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดขึ้น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการพัฒนาระบบร่วมกัน

5 หน้าที่ของ Project Manager
กำหนดขอบเขตของโครงการ วางแผนและจัดตั้งทีมงาน จัดตารางการดำเนินงาน กำกับและควบคุมโครงการ

6 ทักษะของ Project Manager
ความเป็นผู้นำ การจัดการ แก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น บริหารทีมงาน การบริหารงานเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือในสภาวะที่มีความเสี่ยง

7 Project Management Process
แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ระยะการเริ่มต้นโครงการ ระยะการวางแผนโครงการ ระยะดำเนินโครงการ ระยะปิดโครงการ

8 ระยะที่ 1 : การเริ่มต้นโครงการ
จัดตั้งทีมงานจัดทำโครงการ จัดทำแผนการในการเริ่มต้นโครงการ จัดทำกระบวนการบริหารโครงการ จัดทำสมุดโครงการ

9 ระยะที่ 2 : การวางแผนโครงการ
แสดงรายละเอียดขอบเขตของโครงการและความเป็นไปได้ แบ่งกิจกรรมทั้งหมดของโครงการ ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากรและวางแผนการใช้ทรัพยากรนั้น จัดตารางระยะเวลาดำเนินการในเบื้องต้น วางแผนการติดต่อสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องในระหว่างการพัฒนาระบบ จัดทำมาตรฐานในการดำเนินงาน

10 ระยะที่ 2 : การวางแผนโครงการ
ระบุและประเมินความเสี่ยง ประมาณการใช้งบประมาณ จัดทำรายงานแสดงสถานะของงาน (Statement of Work : SOW) จัดทำ Baseline Project Plan

11 Baseline Project Plan : BPP
เป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดขอบเขตของโครงการ ต้นทุน กำไร ความเสี่ยง และความต้องการใช้ทรัพยากร

12 ส่วนประกอบของเอกสาร BPP
ส่วนแนะนำโครงการ ส่วนรายละเอียดของระบบ ส่วนรายละเอียดการศึกษาความเป็นไปได้ ส่วนรายละเอียดการบริหารโครงการ

13 ระยะที่ 3 : ดำเนินโครงการ
ดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมที่วางแผนไว้ ติดตามผลการปฏิบัติงานของทีมงาน คอยติดตามการเปลี่ยนแปลง บำรุงรักษาชุดเอกสารของโครงการ แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินงาน

14 ระยะที่ 4 : ปิดโครงการ ปิดโครงการ ทบทวนการดำเนินงานหลังปิดโครงการ
สิ้นสุดสัญญาในโครงการพัฒนาระบบ

15 เทคนิคการบริหารโครงการ
Gantt Chart PERT/CPM Chart

16 Gantt Chart พัฒนาขึ้นโดย Henry L. Gantt ในปี 1917
เป็นกราฟแท่งในแนวนอนซึ่งแสดงขอบเขตของระยะเวลาของกิจกรรมแต่ละขั้นตอน โดยรายชื่อกิจกรรมจะถูกแสดงไว้ในแนวตั้งทางด้านซ้ายมือ ระยะเวลาการทำงานจะแสดงในแนวนอนของแผนภาพ

17 Gantt Chart กิจกรรม 1. รวบรวมความต้องการ 2. ออกแบบรายงาน
3. ออกแบบหน้าจอ 4. ออกแบบฐานข้อมูล 5. จัดทำเอกสาร 6. เขียนโปรแกรม 7. ทดสอบโปรแกรม 8. ติดตั้งโปรแกรม

18 PERT/CPM Chart PERT Chart : Project Evaluation and Review Technique Chart CPM Chart : Critical Path Method

19 PERT Chart เป็นแผนภาพแสดงกิจกรรมของโครงการที่เชื่อมโยงกันในลักษณะของเครือข่าย (ข่ายงาน) ทำให้ทราบว่าจะต้องดำเนินกิจกรรมใดให้เสร็จสิ้นก่อนกิจกรรมถัดไป โดยแต่ละกิจกรรมจะแทนด้วยเส้นลูกศร และเชื่อมโยงกันด้วยวงกลม (เรียกว่า โหนด) เพื่อบอกให้ทราบถึงจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของแต่ละกิจกรรม

20 PERT Chart เหมาะสำหรับโครงการใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
การกำหนดเวลากิจกรรมของ PERT Chart จึงเป็นการกำหนดในรูปของความน่าจะเป็น (Probabilistic)

21 PERT Chart 1 2 3 4 6 7 8 ฐานข้อมูล จัดทำ เอกสาร ออกแบบ 5.5 หน้าจอ
รวบรวม ความต้องการ ออกแบบ หน้าจอ รายงาน ฐานข้อมูล เขียนโปรแกรม ทดสอบ โปรแกรม ติดตั้ง จัดทำ เอกสาร 5.5

22 CPM Chart เป็นแผนภาพแสดงกิจกรรมของโครงการที่เชื่อมโยงกันในลักษณะเครือข่าย (ข่ายงาน) ทำให้ทราบว่าต้องดำเนินกิจกรรมใดให้เสร็จสิ้นก่อนกิจกรรมถัดไป เช่นเดียวกับ PERT Chart

23 CPM Chart เหมาะสำหรับโครงการที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต ทำให้มีข้อมูลเพื่อกำหนดระยะเวลาของกิจกรรมได้เป็นที่แน่นอน (Deterministic)

24 CPM Chart 1 5 2 6 3 4 5.5 7 8 ออกแบบรายงาน ออกแบบหน้าจอ เขียนโปรแกรม
ทดสอบ โปรแกรม ติดตั้ง จัดทำเอกสาร ออกแบบ ฐานข้อมูล

25 Critical Path : เส้นทางวิกฤต
หมายถึง เส้นทางที่ใช้เวลาในการดำเนินกิจกรรมรวมของโครงการนานที่สุด และกิจกรรมที่อยู่บนเส้นทางวิกฤตจะเรียกว่า กิจกรรมวิกฤต Critical Activity

26 การหาเส้นทางวิกฤต เป็นการหาเส้นทางที่ใช้เวลานานที่สุดและเหลือเวลาน้อยที่สุด ต้องทราบระยะเวลาโดยประมาณของแต่ละกิจกรรม กำหนดได้ 2 วิธี Deterministic Statistic

27 การกำหนดระยะเวลาด้วย Statistic
แยกแยะกิจกรมของโครงการ กำหนดกิจกรรมที่ต้องดำเนินให้เสร็จสิ้นก่อนดำเนินกิจกรรมต่อไป กำหนดระยะเวลาทั้งหมด 3 ค่า เวลาทำกิจกรรมให้เสร็จสิ้นเร็วสุด Optimistic เวลาทำกิจกรรมให้เสร็จสิ้นช้าสุด Pessimistic เวลาทำกิจกรรมให้เสร็จสิ้นที่เป็นไปได้มากที่สุด Realistic

28 การกำหนดระยะเวลาด้วย Statistic
นำค่าทั้ง 3 มาคำนวณหาค่าใช้จริงเพียงค่าเดียว เรียกว่า ค่าระยะเวลาคาดหวัง Expected Time โดยใช้สูตร ET = o + 4r + p 6

29 การกำหนดระยะเวลาด้วย Statistic
วาดแผนภาพ PERT/CPM จากกิจกรรมและระยะเวลาคาดหวังที่หาได้จากข้อ 1-3 คำนวณหาเส้นทางวิกฤต

30 ตัวอย่าง : การคำนวณหาเส้นทางวิกฤต
สมมติว่าบริษัท AAA ต้องการพัฒนาระบบขึ้นมา 1 ระบบ หลังจากการเสนอโครงการได้รับการอนุมัติแล้ว จึงได้วางแผนการดำเนินงานของโครงการดังกล่าว และนำเสนอแผนงานในส่วนของระยะเวลาในการดำเนินงาน พร้อมทั้งแสดงเส้นทางวิกฤต โดยมีขั้นตอนในการคำนวณหาเส้นทางวิกฤต ดังนี้

31 ขั้นตอนที่ 1 : แยกแยะกิจกรรมของโครงการ
1. รวบรวมความต้องการ 2. ออกแบบรายงาน 3. ออกแบบหน้าจอ 4. ออกแบบฐานข้อมูล 5. จัดทำเอกสาร 6. เขียนโปรแกรม 7. ทดสอบโปรแกรม 8. ติดตั้งโปรแกรม

32 ขั้นตอนที่ 2 : กำหนดกิจกรรมก่อนหน้า
กิจกรรม กิจกรรมก่อนหน้า 1. รวบรวมความต้องการ - 2. ออกแบบรายงาน 1 3. ออกแบบหน้าจอ 1 4. ออกแบบฐานข้อมูล 2, 3 5. จัดทำเอกสาร 4 6. เขียนโปรแกรม 4 7. ทดสอบโปรแกรม 6 8. ติดตั้งโปรแกรม 5, 7

33 ขั้นตอนที่ 3 : คำนวณหาค่าระยะเวลาคาดหวัง
กิจกรรม กิจกรรม กำหนดระยะเวลา ค่าระยะเวลา ก่อนหน้า (สัปดาห์) คาดหวัง o r p ET T T T T4 2, T T T T8 5,

34 ขั้นตอนที่ 4 : วาดแผนภาพ PERT/CPM
4.1 วาดเริ่มจากโหนดกิจกรรมที่ 1 1 ET = 5

35 4.2 วาดโหนดกิจกรรมที่ 2 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 1 ก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 4 4.2 วาดโหนดกิจกรรมที่ 2 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 1 ก่อนหน้า 1 ET = 5 2 ET = 6

36 4.3 วาดโหนดกิจกรรมที่ 3 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 1 ก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 4 4.3 วาดโหนดกิจกรรมที่ 3 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 1 ก่อนหน้า 1 ET = 5 2 ET = 6 3

37 4.4 วาดโหนดกิจกรรมที่ 4 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 2,3 ก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 4 4.4 วาดโหนดกิจกรรมที่ 4 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 2,3 ก่อนหน้า 1 ET = 5 2 ET = 6 3 4 ET = 2

38 4.5 วาดโหนดกิจกรรมที่ 5 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 4 ก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 4 4.5 วาดโหนดกิจกรรมที่ 5 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 4 ก่อนหน้า 1 ET = 5 2 ET = 6 3 4 ET = 2 5 ET = 5.5

39 4.6 วาดโหนดกิจกรรมที่ 6 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 4 ก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 4 4.6 วาดโหนดกิจกรรมที่ 6 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 4 ก่อนหน้า 1 ET = 5 2 ET = 6 3 4 ET = 2 5 ET = 5.5 6

40 4.7 วาดโหนดกิจกรรมที่ 7 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 6 ก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 4 4.7 วาดโหนดกิจกรรมที่ 7 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 6 ก่อนหน้า 1 ET = 5 2 ET = 6 3 4 ET = 2 5 ET = 5.5 6 7 ET = 3

41 4.8 วาดโหนดกิจกรรมที่ 8 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 5,7 ก่อนหน้า
ขั้นตอนที่ 4 4.8 วาดโหนดกิจกรรมที่ 8 ซึ่งมีกิจกรรมที่ 5,7 ก่อนหน้า 1 ET = 5 2 ET = 6 3 4 ET = 2 5 ET = 5.5 6 7 ET = 3 8 ET = 1

42 ขั้นตอนที่ 5 : คำนวณหาเส้นทางวิกฤต
5.1 เริ่มหาจากวันแรกสุด (TE) Earliest Expected Completion Time : TE โดยทำการบวกสะสมค่า ET จากโหนดซ้ายมือไปทางขวาจนถึงโหนดสุดท้ายของแต่ละเส้นทาง

43 ขั้นตอนที่ 5.1 : หาค่า TE 1 ET = 5 2 ET = 6 3 4 TE = 13 5 ET = 5.5 6 7
8 TE = 22 TE = 5 TE = 11 ET = 2 TE = 18.5 ET = 1 TE = 18 ET = 3

44 ขั้นตอนที่ 5 : คำนวณหาเส้นทางวิกฤต
5.2 เริ่มหาจากวันสุดท้าย (TL) Latest Expected Completion Time : TL ค่าเริ่มต้นของ TL จะมีค่าเท่ากับ TE ค่าสุดท้าย จากนั้นให้ทำการลบออกด้วยค่า ET ของแต่ละโหนด เริ่มต้นจากโหนดทางขวามือไปทางซ้ายจนถึงโหนดแรกของแต่ละเส้นทาง

45 ขั้นตอนที่ 5.2 : หาค่า TL 1 ET = 5 2 ET = 6 3 4 TE = 13 TL = 13 5
7 TE = 21 TL = 21 8 TE = 22 TL = 22 TE = 5 TL = 5 TE = 11 TL = 11 ET = 2 TE = 18.5 ET = 1 TE = 18 TL = 18 ET = 3

46 ขั้นตอนที่ 5 : คำนวณหาเส้นทางวิกฤต
5.3 คำนวณหาค่าเวลายืดหยุ่น (Slack Time) คือ ระยะเวลาที่กิจกรรมสามารถล่าช้าโดยไม่ส่งผลกระทบให้โครงการล่าช้า ซึ่งกิจกรรมที่มีเวลายืดหยุ่นจะอยู่บนเส้นทางที่ไม่ใช่เส้นทางวิกฤต (Noncritical Path) หาได้จากผลต่างของ TE และ TL ถ้าค่าเวลายืดหยุ่นเป็นศูนย์ (0) แสดงว่ากิจกรรมนั้นเป็นกิจกรรมที่อยู่บนเส้นทางวิกฤต

47 ขั้นตอนที่ 5.3 : คำนวณหาค่าเวลายืดหยุ่น
กิจกรรม TE TL เวลายืดหยุ่น เส้นทางวิกฤต TE - TL วิกฤต วิกฤต วิกฤต วิกฤต วิกฤต วิกฤต วิกฤต

48 ข้อแตกต่างระหว่าง Gantt และ PERT/CPM
Gantt Chart 1. เหมาะสำหรับโครงการ ที่มีขนาดเล็ก 2. สามารถแสดงให้เห็น ถึงกิจกรรมที่ทำใน เวลาเดียวกันได้ 3. แสดงกิจกรรมที่สำคัญ ต่อโครงการได้ (Critical Path) PERT/CPM Chart 1. เหมาะสำหรับโครงการ ที่มีขนาดใหญ่ 2. สามารถแสดงกิจกรรม ที่สำคัญได้ (Critical Path) ทำให้มีการ ควบคุมการใช้ทรัพยากร ได้อย่างคุ้มค่า


ดาวน์โหลด ppt SCC : Suthida Chaichomchuen

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google