การอบรมการใช้ยา HAD
คำจำกัดความ HAD:ยาที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายหรือผลเสียต่อผู้ป่วยรุนแรงหากมีความผิดพลาดในการสั่งใช้ยา การคัดลอกคำสั่งการใช้ยา จ่ายยาหรือการบริหารยา
ประเภทความเสี่ยงสูงที่จะเกิดขึ้น ได้แก่ รายการยา มีโอกาสใช้ยาผิดวัตถุประสงค์เช่น ยาเสพติด ยาควบคุมพิเศษบางรายการ Pethidine inj. Morphine inj. Ketamine inj. ยาที่มีพิสัยการบำบัดแคบ Digoxin inj/Tab ยาที่มีรายงานว่าเป็นปัจจัยสาเหตุ หรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์พึงสังวรณ์(sentinel events) Mgso4 Inj. KCl inj. Atropine inj. RI Dopamine inj. Calcium gluconate inj Sodium Bicarb inj. Oxytocin inj. Adrenaline inj. 14 รายการ
เพื่อให้ง่ายต่อการจำจะแบ่งยา HAD ดังนี้ ตามข้อบ่งใช้ ตัวอย่าง Cardiogenic drugs Dopamine Inj. Atropine Inj. Adrenaline Inj. Digoxin Inj./Tab Electrolyte Calcium gluconate Inj. KCl Inj. Sodium Bicarbonate Inj. analgesic peri-operative Morphine Inj. Pethidine Inj. Ketamine Inj. Drugs use in Diabetes Regular Insulin Drugs use in labor Oxytocin Inj MgSO4 Inj.
การติดตามการใช้ยา HAD Critical point ค่าพารามิเตอร์ที่ติดตามหลังการให้ยา เช่น BP,HR,Urine output อาการที่ต้องติดตามหลังการให้ยา เช่น ระดับความรู้สึกตัว อาการคลื่นไส้อาเจียน ชาปลายมือปลายเท้า เนื้อเยื่อตาย Alert point
รู้กลไกการออกฤทธิ์ของยารู้ผลข้างเคียง
ตามข้อบ่งใช้ ตัวอย่าง Cardiogenic drugs Dopamine Inj. Atropine Inj. Adrenaline Inj. Digoxin Inj./Tab Electrolyte Calcium gluconate Inj. KCl Inj. Sodium Bicarbonate Inj. analgesic peri-operative Morphen Inj. Pethidine Inj. Ketamine Inj. Drugs use in Diabetes Regular Insulin Drugs use in labor Oxytocin Inj MgSO4 Inj.
Dopamine Inj. ใช้เพื่อเพิ่มความดันโลหิต เพิ่มการบีบตัวของหัวใจ การเต้นของหัวใจ ขึ้นกับขนาดการใช้ยา
กลไกการออกฤทธิ์ของยา ยากระตุ้น Adrenergic Receptors กระตุ้นระบบประสาทซิมพาเธติก ซึ่งจะไปมีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
ขนาดการให้ยามีผลต่อการกระตุ้นต่อแต่ละ receptor ที่ต่างกัน การให้ยาขนาดปานกลาง(2-10ug/kg/min) จะกระตุ้น β1-adrenergic receptors บริเวณหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจทำให้มีแรงบีบตัวของหัวใจ แต่ไม่เพิ่ม อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตสูงขึ้น
ขนาดการให้ยามีผลต่อการกระตุ้นต่อแต่ละ receptor ที่ต่างกัน การได้รับยาขนาดสูงเกินไป จะออกฤทธิ์กระตุ้น α-adrenergic receptors มากขึ้นทำให้หลอดเลือดหดตัว และกระตุ้นหัวใจเพิ่มขึ้นจะแต่จะทำ ให้หลอดเลือดที่ไตหดตัว ปัสสาวะจึงน้อยลง ผลข้างเคียงของยา
ดังนั้นค่าที่ต้องคอยติดตามผู้ป่วยได้แก่
Dopamine Inj. BP >160/90 mmHg HR >120 ครั้ง/min Urine output(cc) Critical point รายละเอียดเฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน ความถี่ Baseline ค่าเริ่มต้น 1 2 3 BP >160/90 mmHg 15 นาที HR >120 ครั้ง/min Urine output(cc) ลดลงขณะที่ BP ไม่ลด (< 20 ml/hr) 1 ชั่วโมง EKG (กรณีให้ยาขนาดความเข้มข้นสูง) Arhythmia อาการซีด – ขาว extravasation (15 นาที) ปวดชาปวดร้อนบริเวณประสาทส่วนปลาย Peripheral ischemia ตรวจสอบตำแหน่งให้ยา(ดูอาการ บวมแดง) ใจสั่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก Alert point
Atropine Inj
ใช้รักษาภาวะ sinus bradycardia ของสารพิษพวก Organophosphates ข้อบ่งใช้ ใช้รักษาภาวะ sinus bradycardia ของสารพิษพวก Organophosphates
กลไกการออกฤทธิ์
Atropine เป็น ไปออกฤทธิ์แย่งที่กับ ACh ในการจับ muscarinic receptor ผลคือจะไปทำให้เส้นประสาททำให้มีการหลั่ง ACh บริเวณ receptor เพิ่มขึ้น ซึ่งจะไปมีผลต่อระบบ parasympatetic
การออกฤทธิ์เกิดจากการกระตุ้น parasym ที่สมอง ยับยั้งที่ M2 receptor ทำให้มีAChเพิ่มขึ้นของ SA nodeที่หัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร ยาทำให้เกิดการยับยั้งการตอบสนองของกล้ามเนื้อที่เลนส์ตาต่อการกระตุ้นของ cholinergic nerve ทำให้ม่านตาขยายซึ่งทำให้ตาไม่สามารถสู้แสงได้ และเสียการกระบวนปรับภาพและทำให้เกิดการ มองภาพใกล้ไม่ชัด
ยามีผลอย่างเด่นชัดในการปิดกั้นการหลั่งของต่อมน้ำลายทำให้เกิดอาการปากแห้ง คอแห้ง
ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามคือ Critical point รายละเอียด เฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน ความถี่ (x) BP < 90/60 mmHg > 160/110 mmHg 1 ชั่วโมง HR < 60 ครั้ง/min > 120 ครั้ง/min I/O <50 ml/hr ทุก 8 ชม. Overdose รูม่านตาขยาย สับสน,ปัสสาวะคั่ง,หัวใจเต้นผิดปกติ,ปากแห้งคอแห้ง สับสน Alert point
Adrenaline Inj.
Adrenaline Mechanism of action คือ กระตุ้น alpha,beta-1,beta-2 adrenergic recepter
ผลการกระตุ้น recepter กระตุ้น A1 receptor เพิ่มความดันโลหิต
ผลที่ B1 receptor ถูกกระตุ้น ผลข้างเคียงของยา ! ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ยากระตุ้น beta-1 adrenergic receptor ส่งผลให้เพิ่มการเต้นของหัวใจ
ดังนั้นค่าที่ต้องคอยติดตามผู้ป่วยได้แก่
Adrenaline Inj. รายละเอียดเฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP Critical point รายละเอียดเฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP < 90/60 หรือ >140/90 mmHg HR >120 ครั้ง/นาที CNS/Overdose ชัก เหงื่อออกมาก .ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว Extravasation อาการบวมแดง ซีดขาว Alert point
Digoxin Inj/Tab
ส่งผลให้การบีบตัวของหัวใจแรงขึ้น ข้อบ่งใช้ ยับยั้ง Na+/K+ pump ซึ่งทำให้ Na+ ในเซลล์สูงขึ้น การที่ Na+ในเซลล์สูงขึ้นจะไปทำให้การขับ Ca++ ใน Na+/Ca++ pump ช้าลง ทำให้ปริมาณ Ca++ สูงขึ้น ส่งผลให้การบีบตัวของหัวใจแรงขึ้น
ดังนั้นค่าที่ต้องติดตามคือ รายละเอียดเฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน ความถี่ Baseline ค่าเริ่มต้น BP keep >90/60 <140/90 mmHg HR keep 60-120/min อาการพิษของยา คลื่นไส้ ปวดหัว ใจสั่น หัวใจเต้นผิดปกติ Critical point Alert point
ตามข้อบ่งใช้ ตัวอย่าง Cardiogenic drugs Dopamine Inj. Atropine Inj. Adrenaline Inj. Digoxin Inj./Tab Electrolyte Calcium gluconate Inj. KCl Inj. Sodium Bicarbonate Inj. analgesic peri-operative Morphen Inj. Pethidine Inj. Ketamine Inj. Drugs use in Diabetes Regular Insulin Drugs use in labor Oxytocin Inj MgSO4 Inj.
เพื่อป้องกันหัวใจเกิดการเต้นผิดจังหวะ Calcium Gluconate Inj. มีข้อบ่งใช้ในการรักษาภาวะ Hyperkalemia แบบรุนแรง (serum potassium >7 mEq/L) เพื่อป้องกันหัวใจเกิดการเต้นผิดจังหวะ
แคลเซียมไอออนจะออกฤทธิ์ antagonize กับ กลไกการออกฤทธิ์ แคลเซียมไอออนจะออกฤทธิ์ antagonize กับ โปแตสเซียมบริเวณ กล้ามเนื้อหัวใจและแปลงเปลี่ยนแปลง EKG ให้กลับสู่ปกติอย่างรวดเร็ว
Calcium Gluconate Inj. รายละเอียดเฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP Hypotension 90/60 Serum calcium > 10.5 mg/dl EKG ทุก 15-20 นาที อาการhypercalcemia กระตุก ตะคริว เกร็ง ชัก หัวใจเต้นช้าลง สับสน Critical point Alert point
KCl Inj. มีข้อบ่งใช้ในการรักษาภาวะ ภาวะ Hypokalemia ที่ไม่สามารถให้ K+ ทดแทนโดยการกินได้หรือ ในกรณีที่ K+ ในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว ต่ำกว่า 2.5 mEq/L และมีความเสี่ยงสูงจากการเต้นของหัวใจอย่างผิดปกติ (cardiac arrhythmia) ระดับปกติในเลือด 3.5 5 mEq /L : 3.5-mEq
จำเป็นต่อการทำงานของ cell กล้ามเนื้อหัวใจในการบีบตัว กลไกการออกฤทธิ์
ดังนั้นค่าที่ต้องติดตามคือ รายละเอียดเฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP SBP< 90 mmHg HR HR < 60 ครั้ง/นาทีHR > 120 ครั้ง/นาที Serum K 3.5 5 mEq /L (ถ้า>5ต้องรายงานแพทย์) Urine output < 600 ml/hr Serum Cr > 2mg% Hyperkalemia คลื่นไส้ ใจสั่น หัวใจเต้นช้า อึดอัด แน่นหน้าอก ชาปลายมือ/เท้า Overdoseหัวใจเต้นเร็ว เพราะการที่ urine flowไม่เพียงพอจะทำให้ K+ สะสมได้
ถ้า potassium ในเลือดสูงแก้ไขอย่างไร
Sodium Bicarbonate Inj
แก้ปัญหาภาวะ acidosis
หายใจเร็ว กระสับกระส่าย ภาวะชัก รายละเอียด เฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP < 90/60 mmHg > 140/90 mmHg HR Bradycardia < 60 ครั้ง/min Serum Na (ถ้ามี) Hypernatremia > 150 mEqL Hyper Na+ หายใจเร็ว กระสับกระส่าย ภาวะชัก Critical point โดยเป็นผลจากมีการดึงน้ำจากภายในเซลล์เข้าสู่น้ำ นอกเซลล์ ทำให้เซลล์สมองเหี่ยวลง เกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดฝอยภายในสมองได้ Alert point
ตามข้อบ่งใช้ ตัวอย่าง Cardiogenic drugs Dopamine Inj. Atropine Inj. Adrenaline Inj. Digoxin Inj./Tab Electrolyte Calcium gluconate Inj. KCl Inj. Sodium Bicarbonate Inj. analgesic peri-operative Morphen Inj. Pethidine Inj. Ketamine Inj. Drugs use in Diabetes Regular Insulin Drugs use in labor Oxytocin Inj MgSO4 Inj.
กลไกการออกฤทธิ์ระงับปวด จับกับ opioid recerptor ชนิด mu-receptor ส่งงผลยับยั้ง adenylate cyclase ทำให้เพิ่ม theshold การปวด
การฤทธิ์ของยาและผลข้างเคียง ยามีผลต่อ m-receptor ในสมอง สมองรับความรู้สึกทางด้านเจ็บปวดน้อยลงจึงช่วยระงับความเจ็บปวดได้ดี กดศูนย์ควบคุมการหายใจ
การออกฤทธิ์ของยาและผลข้างเคียง ทำให้มีอาหารคั่งค้างอยู่ในกระเพาะและลำไส้นานกว่าปกติ จึงมีอาการท้องผูก ออกฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร โดยลดการmovementของ กระเพาะอาหารและลำไส้
Morphine/Pethidine/Ketamine Inj. รายละเอียดเฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP < 90/60 mmHg RR < 14 ครั้ง/min Sleep-Conscious หมดสติ ปลุกไม่ตื่น วิงเวียน ตาพร่า เหงื่อออก รูม่านตาหดตัว
ตามข้อบ่งใช้ ตัวอย่าง Cardiogenic drugs Dopamine Inj. Atropine Inj. Adrenaline Inj. Digoxin Inj./Tab Electrolyte Calcium gluconate Inj. KCl Inj. Sodium Bicarbonate Inj. analgesic peri-operative Morphen Inj. Pethidine Inj. Ketamine Inj. Drugs use in Diabetes Regular Insulin Drugs use in labor Oxytocin Inj MgSO4 Inj.
ลดน้ำตาลในเลือด
Rugular Insulin :เป็นอินซูลินชนิดออกฤทธิ์เร็ว Onset 0.5-0.7 hr 1.5-4 hr Peak Duration 5-8 hr
รู้ความถี่ของการติดตามระดับน้ำตาลในเลือด ทุก 1 ชั่วโมง รู้ Peak รู้ความถี่ของการติดตามระดับน้ำตาลในเลือด
อาการ Hypoglycemia ใจสั่น หน้ามืด ตาลาย เหงื่อออกมาก
ดังนั้นค่าที่ติดตามได้แก่ Critical point รายละเอียด เฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP < 90/60 mmHg > 140/90 mmHg HR < 60 ครั้ง/min > 120 ครั้ง/min FBS, DTX FBS < 70 mg/dl DTX < 60 mg/dl Hypoglycemia ใจสั่น, หน้ามืด ตาลาย, เหงื่อออกมาก Alert point
ตามข้อบ่งใช้ ตัวอย่าง Cardiogenic drugs Dopamine Inj. Atropine Inj. Adrenaline Inj. Digoxin Inj./Tab Electrolyte Calcium gluconate Inj. KCl Inj. Sodium Bicarbonate Inj. analgesic peri-operative Morphen Inj. Pethidine Inj. Ketamine Inj. Drugs use in Diabetes Regular Insulin Drugs use in labor Oxytocin Inj MgSO4 Inj.
Oxytocin Inj
ใช้ชักนำให้เกิดการเจ็บ ครรภ์โดยมีกลไกทำให้มดลูกบีบตัวเพิ่มขึ้น
กลไกการออกฤทธิ์ Oxytocin จะผ่านทาง Phospholipase C-inositol pathway ทำให้ระดับแคลเซี่ยมในเซลล์สูงขึ้น ส่งผลให้มีการหด ตัวของกล้ามเนื้อมดลูกจนมีการเปลี่ยนแปลงของปาก มดลูกตามมา
ดังนั้นค่าที่ต้องติดตามคือ เนื่องจาก oxytocin มีฤทธิ์ antidiuretic ส่งผลให้ไตดูดน้ำกลับมากขึ้น ลดการขับน้ำออก ผู้ป่วยจึงเกิดภาวะน้ำเกิน รายละเอียด เฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP < 90/60 mmHg > 160/110 mmHg HR < 60 ครั้ง/min > 120 ครั้ง/min I/O <50 ml/hr Overdose ชัก โคม่า ชัก เนื่องจากยาทำให้เกิด water intoxication
MgSO4 Inj.
ข้อบ่งใช้ รักษาภาวะแมกนีเซียมในเลือดต่ำ รักษาอาการชักเนื่องจากครรภ์เป็นพิษ
ทำไมระดับแมกนีเซียมในเลือดผิดปกติทำให้เกิดอันตรายกับชีวิต จากการรายงานพบว่า Hypomagnesemia ในผู้ป่วยวิกฤตแรกรับจะสัมพันธ์กับอัตราการตายที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากแมกนีเซียมเป็นไอออนที่มีมากในร่างกาย(ระดับปกติในเลือด 1.5 2.5 mg/ dL )
กลไกการออกฤทธิ์ ยาจะออกฤทธิ์กด CNS และกดกล้ามเนื้อเรียบ กล้าม เนื้อลาย และกล้ามเนื้อหัวใจ ระงับการชัก ( โดยกดประสาท CNS และลดการหลั่งAchทำ ให้กั้นการทำ งานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อส่วนปลาย )
ดังนั้นค่าที่ต้องติดตามคือ Critical point รายละเอียด เฝ้าระวัง เกณฑ์การรายงาน BP < 90/60 mmHg > 140/90 mmHg PR < 60 ครั้ง/min > 120 ครั้ง/min RR < 14 ครั้ง /min Urine output < 100 cc/ 4 hr Stool(ครั้ง) ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ภาวะแมกนีเซียม overdose หน้าแดง เหงื่อออก กระหายน้ำอย่างรุนแรง สับสน กล้ามเนื้ออ่อนแรง Alert point
รู้วิธีใช้ รู้ผลข้างเคียง ต้องรู้แนวทางปฏิบัติด้วย รู้วิธีใช้ รู้ผลข้างเคียง ต้องรู้แนวทางปฏิบัติด้วย
ทุกจุดที่มีการสำรองยาความเสี่ยงสูงให้แยกเก็บเป็นสัดส่วน การเก็บรักษา ทุกจุดที่มีการสำรองยาความเสี่ยงสูงที่เป็นยาเสพติดจะต้องมีการป้องกันการเข้าถึงยาโดยเก็บในที่มิดชิดกำหนดการเข้าถึงยาได้เฉพาะบุคคลมีบัญชีควบคุมการเบิกจ่าย ทุกจุดที่มีการสำรองยาความเสี่ยงสูงให้แยกเก็บเป็นสัดส่วน
การสั่งจ่ายและการถ่ายทอดคำสั่ง -การสั่งจ่ายยาความเสี่ยงสูงไม่ใช้คำย่อ หากเป็นการสั่งจ่ายที่ผสมสารน้ำให้ระบุความแรง ขนาดยา พร้อมระบุปริมาณสารน้ำที่ใช้ ความแรงสุดท้ายที่ต้องการและวิธีการให้ยาที่ชัดเจน -หากเป็นการสั่งจ่ายทางโทรศัพท์จะต้องมีการทวนซ้ำพร้อมเซ็นกำกับการสั่งจ่ายภายใน 24 ชั่วโมง
การจัดและการจ่ายยา ยาความเสี่ยงสูงที่จ่ายจากห้องยาให้บรรจุในซองสีแดง พร้อมฉลากแนะนำการฝ้าระวังการใช้ทุกครั้ง
การบริหารและการติดตามการใช้ยา เตรียม 1คน เช็ค 1คน ต้องมีการดำเนินการตรวจสอบซ้ำในขั้นตอนการผสม การเตรียมยา การจัดยาเม็ด และการให้ยากับผู้ป่วย
การเฝ้าระวังการติดตามการใช้ยาหลังบริหาร ติดตามการใช้ยาจาก drugtips ที่แนบให้/ตามแบบฟอร์ม HAD พยาบาล ติดตามการใช้ยาจาก drugtips ที่แนบให้/แผ่นความรู้คู่ยาที่พยาบาลแขวนให้ข้างเตียง/พยาบาลแนะนำผู้ป่วย ตัวผู้ป่วยหรือญาติ
ติดตามการใช้ยาแล้วข้อมูลเก็บอะไรบ้าง อย่างไร พยาบาลมีหน้าที่ติดตามการใช้ยาความเสี่ยงสูงในผู้ป่วยทุกราย โดยลงข้อมูลที่ติดตามในแบบฟอร์มที่กำหนด
END