อาจารย์ชนิดา เรืองศิริวัฒนกุล หลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ Electronic Commerce อาจารย์ชนิดา เรืองศิริวัฒนกุล หลักสูตรสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ การโปรโมทเว็บไซต์
แนวโน้มการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ผ่านสื่อในรูปแบบต่างๆ Source: Morgan Stanley Technology Research.
การโปรโมทเว็บไซต์ คือ การโฆษณาเผยแพร่เว็บไซต์ที่เราสร้างขึ้นให้เป็นที่รู้จักอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะให้เป็นที่รู้จักของผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ต ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งสำหรับใช้แจ้งข่าวสาร เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเว็บได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของตน โดยทั่วไปแล้วนักท่องเว็บมักจะทำการค้นหาข้อมูลของเว็บไซต์ผ่านทางเครื่องมือประเภทเว็บไดเรกทอรี่ และ Search Engine จึงสามารถนำมาใช้เป็นช่องทางในการโปรโมทเว็บไซต์
การโปรโมทเว็บไซต์แบบออฟไลน์ เป็นการโฆษณาผ่านทางสื่อหนังสือพิมพ์โดยการลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ทั่วๆไปเพื่อให้คนรู้จักและเข้าถึงได้ โฆษณาผ่านทางบิลบอร์ดตามแหล่งชุมชน ถนนใหญ่ๆ หรือแหล่งที่มีคนผ่านในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก โฆษณาผ่านสื่อรถยนต์ เช่น โฆษณาด้วยการติดแบนเนอร์หรือชื่อเว็บไซต์ข้างรถยนต์ของตัวเองหรือรถยนต์ประจำทาง ( รถเมล์ ) ผ่านนามบัตร โดยการพิมพ์ชื่อเว็บไซต์หรือ URL ลงบนนามบัตร ซึ่งถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ผ่านเสื้อที่สวมใส่ โดยการพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ลงบนเสื้อเพื่อให้ติดตาคนที่พบเห็น การโฆษณาผ่านถุงกระดาษ ถุงพลาสติก หรือแพคกิ้งข้างขวดหีบห่อต่างๆ
การโปรโมทเว็บไซต์แบบออนไลน์ 1. การลงโฆษณาในเว็บไซต์ดังๆ เช่น Sanook.com , Pantip.com , Thai2hand.com เป็นต้น ซึ่งการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ ด้วยวิธีนี้มีทั้งแบบซื้อแบอร์เนอร์และเป็นแบบเท็กซ์ลิ้งค์ ซึ่งให้ผลตอบ กลับมาค่อนข้างดีทีเดียว ส่วนค่าโฆษณามีตั้งแต่ฟรี(ในระยะแรก) 2.โดยการเข้าไปโพสท์หรือลงประกาศในเว็บบอร์ดต่างๆของหลายๆ เว็บไซต์ที่มีบอร์ดสำหรับประกาศซื้อขายหรือลงโฆษณา ซึ่งเป็นบริการ ฟรี
การโปรโมทเว็บไซต์แบบออนไลน์ 4.โดยการแลกลิ้งค์กับพันธมิตร โดยเฉพาะเว็บไซต์หรือบล็อกที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรา จะช่วยให้มีคนมาเยี่ยมชมในระดับหนึ่งได้ 5.การโปรโมทเว็บไซต์ผ่าน Search Engine การโปรโมทประเภทนี้จะให้ผลตรงจุดมากที่สุด ผู้คนในโลกออนไลน์ในปัจจุบันนิยมค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมทั้งสินค้าและบริการต่างๆผ่านเครื่องมือค้นหาจากเว็บไซต์ที่ให้บริการการค้นหาข้อมูลอย่าง Google , Yahoo , MSN และเว็บไซต์พันธุ์ไทยอย่าง Sanook.com ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ดีที่สุดที่แพร่หลายและได้ผลดีเช่นเดียวกัน
การโปรโมทเว็บไซต์แบบออนไลน์ อินเทอร์เน็ตเป็นรูปแบบใหม่ของการประชาสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับผู้ขายได้โดยตรง ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นเพียงคลิกเมาส์ และสอบถามข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ ถือได้ว่าเป็นการสื่อสารแบบสองทาง (Two-way communication)
Why Internet advertisement? ผู้ชมทีวีเริ่มให้ความสนใจและนิยมใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น กลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ที่เป็นผู้มีการศึกษา ผู้มีรายได้สูง เป็นกลุ่มเป้าหมายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ปรับปรุงข้อมูลข่าวสารได้ตลอดเวลา อีกทั้งประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ขยายถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งใน และต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าสื่อ ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ สามารถเผยแพร่ข้อมูลได้หลายรูปแบบ เช่น ข้อความ รูปภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง
Why Internet Advertisement ?(cont.) สามารถประชาสัมพันธ์บริการด้านความบันเทิง หรือเกมส์ หรือการส่งเสริมการขายได้ง่าย มีผู้ใช้งาน Web TV และ Internet radio เพิ่มมากขึ้น สามารถสร้างความสัมพันธ์เฉพาะกลุ่ม หรือแต่ละบุคคลได้ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
Web Advertisement Web Advertisement คือ การเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าและบริการให้เข้าถึงผู้บริโภค อาจจะเป็นผู้ซื้อ หรือ ตัวแทนขาย รูปแบบการค้าทั่วไป การโฆษณาประชาสัมพันธ์ปกติเป็นการสื่อสารทางเดียว (One way communication) ซึ่งอาจมีผู้สนับสนุน (sponsor) เป็นผู้ช่วยเหลือค่าใช้จ่าย
Web Advertisement (cont.) ประโยชน์ของ Internet Advertisement การโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตสามารเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันในหนึ่งปี และค่าใช้จ่ายเท่ากับโฆษณาทั่วไป มีจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมาก ทำให้สามารถขยายตลาดได้ง่าย โอกาสในการทำการตลาดแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับลูกค้าได้ง่าย สื่อผสมสามารถทำได้ง่ายบนอินเทอร์เน็ตจึงทำให้เว็บไซต์เป็นที่ดึงดูดของผู้บริโภค
คำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการโฆษณา EC Page หน้าของโปรแกรม HTML ที่แสดงข้อความ รูปภาพ และองค์ประกอบอื่นๆ เช่น Java, multimedia file Ad views-Popup จำนวนหน้าโฆษณาที่ปรากฎ ในเวลาที่ผู้ใช้เรียกหน้าเว็บเพจขึ้นมา Ad-Click จำนวนครั้งที่ผู้ชมได้ทำการคลิกป้ายโฆษณาจริงๆ ภายในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง Banner เป็นภาพกราฟฟิกแสดงทั้งรูปภาพ หรือข้อความ (นิ่งหรือเคลื่อนไหว) บนหน้าเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ใช้คลิกเชื่อมโยงไปยังเพจ หรือเว็บไซต์อื่น ขนาดปกติ มีความยาว 5 - 6.25 นิ้ว ความกว้าง 5 - 1 นิ้ว และมีหน่วยวัดเป็นพิกเซล
คำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการโฆษณา EC Button เป็นแบนเนอร์ขนาดเล็กใช้เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บไซต์ หรือ อาจจะเป็นสัญลักษณ์ไว้ใช้ดาวน์โหลดโปรแกรม Click เป็นการนับจำนวนแต่ละครั้งที่ผู้ใช้คลิกป้ายแบนเนอร์เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์นั้น ๆ Click ratio เป็นสัญลักษณ์(ค่า) วัดความสำเร็จของป้ายแบนเนอร์โฆษณา ว่ามีผู้คลิกจำนวนมากน้อยเพียงใด เช่น มีผู้ชมเปิดดูเพจโฆษณา 100 เพจ แต่มีการคลิกดูโฆษณาเพียง 10 ครั้ง แสดงว่า Click ratio (10/100)*100 = 10%
คำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการโฆษณา EC CPM (Cost-per-thousand impressions) เป็นหน่วยวัดต้นทุนที่ผู้โฆษณาจะต้องจ่ายเป็นค่าป้ายโฆษณา เมื่อมีผู้ชมอย่างน้อย 1,000 คน ได้เข้าไปยังเพจโฆษณาของตน Hit 1 Hit คือ การเข้าถึง หรือ เรียกดูข้อมูลจากเครื่องบริการเว็บ และมีการบันทึกเพื่อนับจำนวน Hit ของเว็บเพื่อตรวจวัดความนิยม หรือ ความหนาแน่นของข้อมูลบนสายส่ง ข้อมูลหนึ่งเพจที่แสดงบนเว็บไซต์อาจจะเกิดจากการ Hit เครื่องเซอร์เวอร์หลาย ๆ ครั้งก็ได้ ขึ้นอยู่กับบราวเซอร์ ขนาดของเพจ และปัจจัยอื่น ๆ Visit การเข้าสู่เว็บไซต์และจากไปของผู้ชมในแต่ละครั้ง
รูปแบบการโฆษณาของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ Advertisement Methods โฆษณาผ่านป้ายโฆษณา (Banner) โฆษณาผ่านทางอีเมล์ (E-Mail Advertising) โฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือ โฆษณาด้วยจอเคลื่อนไหว (Splash Screen) โฆษณาผ่านการเช่าพื้นที่โฆษณา (Spot leasing) โฆษณาผ่านทางยูอาร์แอล (URL) โฆษณาผ่านทางช่องสนทนา (Chat room) อื่นๆ
Advertisement Methods: Banner เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันมากบนอินเตอร์เน็ต เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกเชื่อมโยงถึงอีกเว็บไซต์หนึ่ง ป้ายแบนเนอร์จะแสดงข้อมูลในรูป ข้อความ รูปภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว Video Clip และ เสียง เพื่อโฆษณาสินค้า และบริการ ขนาดของป้ายโฆษณา ขนาดปกติ มีความยาว 5 - 6.25 นิ้ว ความกว้าง 0.5 - 1 นิ้ว และมีหน่วยวัดเป็นพิกเซล ขนาดไฟล์ 7-10 kb ซึ่งถ้ามีขนาดใหญ่เกินไปอาจจะสร้างปัญหาในการเข้าถึงข้อมูลช้าเกินไป
Advertisement Methods: Banner ข้อดีและข้อจำกัด ข้อดี เมื่อผู้สนใจคลิกแบนเนอร์จะเป็นการเชื่อมโยงถึงเว็บไซต์โดยตรง ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ กระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจก่อนจะได้รับข้อมูลสารสนเทศ หรือความบันเทิง สามารถใช้สื่อผสมในการโฆษณาได้
Advertisement Methods: Banner ข้อดีและข้อจำกัด ข้อเสียของป้ายแบนเนอร์คือ มีค่าใช้จ่ายสูงถ้าต้องการได้รับความสำเร็จในการโฆษณา ข้อความที่จะใช้กับโฆษณาต้องอาศัยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อให้ได้ข้อความสั้น น่าสนใจ และสื่อถึงกลุ่มเป้าหมาย ตำแหน่งการวางแบนเนอร์ในหน้าเว็บ หรือ การกำหนด Click zone อาจจะไม่คงที่ เช่น การศึกษาพบว่าบางครั้งแบนเนอร์ที่ติดตั้งไว้ด้านล่างเพจ ถูกคลิกมากกว่าแบนเนอร์ที่อยู่ด้านบนเว็บ เป็นต้น
Advertisement Methods: Banner Banner swapping การฝากแบนเนอร์ไว้กับผู้ให้บริการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรืออาจมีเล็กน้อย เป็นการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนแบนเนอร์กับบริษัทโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ผู้ทำการฝากป้ายต้องทำการลงทะเบียน ได้รับ source code HTML ไปใส่ไว้ในเว็บของตนเอง ยุ่งยากในการจัดเรียง และกำหนดตำแหน่งแบนเนอร์ของเว็บให้เหมาะสม กับจำนวนการจราจรข้อมูล ซึ่งบริษัทจะต้องติดต่อกับเว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์เพื่อตกลงเงื่อนไข และความต้องการร่วมกัน http://www.bannerswap.com/
Advertisement Methods: Banner Banner exchanges หลาย ๆ เว็บไซต์นิยมใช้วิธีนี้มากกว่า Banner Swapping เพราะง่าย และแมชกันมากกว่า เช่น บริษัท ก. แสดงเว็บ ข. แต่เว็บ ข ไม่ได้แสดงแว็บ ก อย่างไรก็ตามเว็บ ข แสดงเว็บ ค และ เว็บ ค แสดงเว็บ ก นั่นคือการแลกกับหลาย ๆ เว็บ อาจ 3 เว็บหรือมากกว่า
Advertisement Methods: Banner ข้อแตกต่างคือ Banner swapping เป็นการเชื่อมโยงระหว่างบริษัทหนึ่งกับบริษัทหนึ่ง แต่ Banner exchanges เป็นการเชื่อมโยงแบบเป็นกลุ่มคือหลาย ๆ บริษัทมาทำการเชื่อมโยงเว็บด้วยกัน
Advertisement Methods : E-mail เป็นวิธีที่นิยมในการส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้บริโภค หรือ ระหว่างบริษัท มีการซื้อขาย e-mail addresses รวบรวบเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น ใช้ MS Outlook มีผู้รวบรวมและให้บริการข้อมูล www.targ-it.com , 1mailinglist4u.com www.mailorder.com www.medbase200.com suadequest.hypermart.net/free_email_lists.htm
Advertisement Methods : E-mail เป็นการส่งสารสนเทศของบริษัทให้กับลูกค้าโดยใช้ค่าใช้จ่ายต่ำ สามารถจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้าในฐานข้อมูลได้ กลุ่มเป้าหมายลูกค้าเป็นกลุ่มที่เราทราบข้อมูลบางส่วน Mailing List เป็นการส่งข้อมูลสินค้าหรือบริการไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรงผ่านทาง E-mail Address ปัญหาJunk mail , Spamming
Advertisement Methods :Mobile phones เป็นการโฆษณาที่มีการปฏิสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง เป็นการดำเนินได้ทุกสถานที่ และทุกเวลา
Advertisement Methods :Splash Screen รู้จักกันในชื่อ e-mercial หรือ interstitial เป็นเพจ หรือส่วนที่ใช้แสดงข้อมูลโฆษณาสินค้า และบริการในขณะที่ท่องเว็บ โดยแสดงเพจในระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อชี้นำให้เข้าไปในเว็บไซต์ ข้อดี คือ นักโฆษณาสามารถใช้สร้างรูปแบบ และสารสนเทศใหม่ ๆ ให้มีประสิทธิภาพ ดึงดูดใจผู้ใช้เว็บ รวมถึงการสร้างสัมพันธ์กับผู้บริโภค ซึ่งผู้ใช้สามารถคลิกปฏิเสธได้ถ้าไม่ต้องการ
Advertisement Methods : Spot leasing พื้นที่เฉพาะสำหรับให้เช่าโฆษณาบนหน้าเพจของ Search Engines สำหรับธุรกิจที่ต้องการ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการทำสัญญาระหว่างเจ้าของ (Host) กับผู้เช่า (Lessee) ผู้เช่าสามารถระบุช่วงเวลา และตำแหน่งบน Web นิยมใช้ในเว็บประเภทเว็บท่าเพื่อเตรียมพื้นไว้ให้บริการเช่าเพื่อโฆษณา ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสูง เช่น yahoo, useek, infoseek, lycos, google, altravistra, siamguru, haunsa, yamyai,sanook
วิธีโฆษณาแบบใหม่ของ Google (Google Adsense)
Advertisement Methods : URL (Universal Resource Locators) ฟรีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนเพื่อโฆษณา Web site ใน Search engine แต่ละ Search engine จะใช้วิธีการที่แตกต่างกัน บาง Search engine ใช้ Meta Tag การค้นหาต้องตรง (Match) กับ Keyword ในการลงทะเบียนมิฉะนั้นอาจจะค้นหาไม่พบ
Advertisement Methods : URL ข้อดี เสียค่าใช้จ่ายต่ำ ต้องลงทะเบียน URL ของเว็บไซต์โดยไปที่เว็บไซต์ของ search engines ใช้ Keyword สำหรับการค้นหา ข้อจำกัด ดัชนีที่สร้างจาก Search engines มีความแตกต่างกัน Meta tags เป็นส่วนที่มีความซับซ้อน
Advertisement Methods :URL กลไกการทำงานของเว็บไซต์ Search Engines โดยปกติแล้วเว็บไซต์ค้นหาจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. Search Engines : เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ทำการสำรวจเว็บไซต์บนระบบ Internet และเพิ่มเข้าสู่ฐานข้อมูล ของ Search Engines โดยอัตโนมัติ มีเครื่องมือ “Search Robot” ทำหน้าที่คอยวิ่งเข้าไปอ่านข้อความจากหน้าเว็บไซต์ต่างๆ แล้วนำมาจัดลำดับคำค้นหา มาเก็บในฐานข้อมูลตนเอง ข้อมูลที่ Search Engines เหล่านี้ต้องการเมื่อลง ทะเบียน คือ ชื่อ Web Site และ/หรือ E-mail Address ตัวอย่าง เช่น google,AltaVista,Infoseek,whatUseek, Lycos, yahoo
การโปรโมทเว็บไซต์ทาง Search engine ของ google เข้าไปที่ http://www
Advertisement Methods :URL กลไกการทำงานของเว็บไซต์ Search Engines 2. Web Directories (Index) เป็นเว็บไซต์ที่ใช้การค้นหาด้วยวิธีการเพิ่มข้อมูลลงในฐานข้อมูลของระบบด้วยกำลังคน(มีเจ้าหน้าที่ดูแลเพิ่มข้อมูล) ป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ผู้ลงทะเบียนต้องกำหนด เมื่อลงทะเบียน คือ รายละเอียดของผู้ลงทะเบียน , Short Description และ Keywords ของ Web Site และหมวดสินค้า/บริการที่ผู้ลงทะเบียนต้องการให้ Web Site ไป List อยู่ ต้องระบุหมวดสินค้า/บริการให้สอดคล้องกับรายละเอียดของ Web Site มิฉะนั้น อาจจะไม่ได้ถูกตรวจสอบเพื่อจัดหมวดหมู่จากเจ้าหน้าที่ ตัวอย่างเช่น Yahoo.com, Sanook.com, LookSmart.com
การโปรโมทเว็บไซต์โดยใช้บริการเว็บไดเรกทอรี่ (web directory) การโปรโมทเว็บไซต์โดยใช้บริการของเว็บไดเรกทอรี่ มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่าย และไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยหากต้องการให้ผลลัพธ์ของการค้นหาปรากฏอยู่ในลำดับต้นๆ อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก ได้แก่ yahoo.com,mickinley.com และ google.com ส่วนกรณีที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้จัดทำหรือกำหนดหมวดหมู่ที่ต้องการขึ้นเอง โดยผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ปรากฏอยู่ลำดับต้นๆ โดยมีเว็บให้บริการได้แก่ sanook.com,hunsa.com,hotbot.com เป็นต้น
ตัวอย่างการโปรโมทเว็บไซต์ทางเว็บไดเร็กทอรี่ โปรโมทเว็บไซต์ผ่านทางเว็บไดเรกทอรี่ของ yahoo แบบเสียค่าใช้จ่าย โดยไปที่ https://ecom.yahoo.com/dir/submit/intro/
ตัวอย่างการโปรโมทเว็บไซต์ทางเว็บไดเร็กทอรี่ โปรโมทเว็บไซต์ผ่านทางเว็บไดเรกทอรี่ของ hunsa แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเข้าไปที่ http://webdir.hunsa.com/reg.php
Advertisement Methods :URL 3. Meta Search เป็นเว็บไซต์ที่ไปค้นหาจากเว็บไซต์ค้นหาอีกที โดยจะนำคำที่ต้องการค้นจากเว็บไซต์ประเภทต่างๆ เป็นการสร้างเงื่อนไขของการค้นหาข้อมูลเพียงครั้งเดียว แล้วตัว Meta Search จะทำการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องจาก Search Engines และ / หรือ Web Directories หลายๆ แห่งในเวลาเดียวกัน
Advertisement Methods :URL การใช้คำสั่ง Meta Tag Meta Tag คือ การสรุปข้อมูล และรายละเอียดของ Web Site เพื่อเป็นตัวสนับสนุนให้ Search Robot หรือ Crawler หรือหุ่นยนต์สำหรับสำหรับการลงทะเบียนอัตโนมัติของแต่ละ Search Engine จัดลำดับได้ง่ายขึ้น Meta Tag จะไม่ปรากฎในหน้าจอของ Browser แต่จะแสดงอยู่ที่ผลของการ Search
Advertisement Methods :URL การใช้คำสั่ง Meta Tag ส่วนประกอบของ Meta Tag 1.Title เป็นชื่อของเว็บไซต์ที่สั้น กระชับ ชัดเจน และควรสอดคล้องกับสิ่งที่อยู่ในเว็บไซต์ 2.Description เป็นคำบรรยายถึงข้อมูล และรายละเอียดว่าไซต์ หรือ Page นั้นๆ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งโดยปกติแล้วจะกำหนดคำไว้ว่าไม่ควรเกิน 25 คำ 3.Keywords เป็นคำหลักที่ Search Engines ใช้ในการจัดหมวดหมู่ให้เว็บไซต์รวมทั้งเป็นส่วนที่จะนำ Visitors เข้าเยี่ยมชมไซต์ของท่าน
ตัวอย่างการใส่ Title tag ดังนี้ <html> <head> <title>คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์</title> <body>….</body> </html>
ตัวอย่างการใช้ Meta tag <html> <head> <title>คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์</title> <meta name=“description” content=“ข้อมูลคณะวิทยาศาสตร์ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ โปรแกรมวิชาต่างๆ> <meta name=“keyword” content=“sci uru”, “science uru”, “คณะวิทยาศาสตร์ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์”> <body>….</body> </html>
ตัวอย่างการกำหนด title ของเว็บไซต์ hunsa
ตัวอย่างการกำหนด title ของเว็บไซต์ kapook
ตัวอย่างการระบุ keyword KEYWORD หมวดงานหางาน, หางานทำ, หาเงิน, หาเงินทางเน็ต, หาเงินทางอินเตอร์เน็ต, หางาน, สมัครงาน, สมัคงาน, งานพิเศษ, สมัครงาน, งาน part time, งานว่าง, งาน partime, งาน parttime, งาน part-time, งานparttime KEYWORD หมวดเกมส์เกมส์, เกมส์, เกมส์ทำอาหาร, เกมส์แต่งตัว, เกมส์ออนไลน์, เกมแต่งตัว, เกมส์รถแข่ง, เกมทำอาหาร, เกมส์ต่อสู้, เกมส์แข่งรถ, เกมส์ปลูกผัก, เกมส, เกมออนไลน์, เกมส์จับคู่, เกมส์รถ, เกมปลูกผัก, เกมส์จับผิดภาพ
Advertisement Methods :URL การค้นหา กรณีของ Search Engines : การใช้คำสั่ง Meta Tag ระบบการค้นหาของ Search Engines จะอ่านค่าตาม keyword ที่ผู้ค้นหากำหนดขึ้น แล้วนำมาตรวจสอบกับเนื้อความใน Home Page และหรือเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มีเปอร์เซ็นต์ของการ Match คำให้ตรงกับ Keyword นั้น ๆ ในระดับสูงก็อาจจะแสดงผลอยู่ในระดับต้น ๆ ของการค้นหา ใช้หลักการค้นหา Text ที่พบในหน้า Home Page และ / หรือ Web Pages ไม่ได้เป็นการรับรองว่า Web Site จะถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ แต่ทำให้ Search Engine ทำงานได้ง่ายและสะดวกขึ้น รูปภาพ และ Text ที่ไม่สอดคล้องกับ Keyword ก็จะถูกมองข้ามไป
Advertisement Methods :URL การค้นหา กรณีของ Search Engines : กรณีของ Web Directories : ให้เลือกหมวดหมู่ที่เหมาะสมและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในไซต์ของท่านให้มากที่สุด แล้วทำการลงทะเบียน ข้อมูลที่ท่านต้องให้เพิ่มเติมมักจะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่านเอง และอาจรวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ที่ดูแลเว็บไซต์ให้กับท่าน
ที่มา www.truehits.net
ออกแบบเว็บไซต์ให้โดนใจ Search Engine ใส่ title และ keyword ของหน้าเว็บ ใส่ Keyword ที่ต้องการในเว็บไซต์ให้เน้นด้วยตัวหนา ควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพ และให้คำอธิบายให้กับภาพ ทำแผนที่เว็บไซต์ (Site map) หลีกเลี่ยงการออกแบบเว็บไซต์ด้วย flash หรือรูปภาพเยอะเกินไป หลีกเลี่ยงการออกแบบเว็บไซต์ด้วยเฟรม
ตัวอย่างการกำหนด Meta tag ให้กับเว็บไซต์ title keyword alt img tag description
อัตราค่าใช้บริการในการโปรโมทเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญในการโปรโมทเว็บไซต์เช่น www.seonic.com , www.submittoday.com , www.netstep.org และ http://webindex.sanook.com เป็นต้น สำหรับการคิดค่าบริการขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการจะกำหนดมาตรฐานสำหรับคำนวณค่าบริการอย่างไร
อัตราค่าใช้บริการในการโปรโมทเว็บไซต์ ตัวอย่างการคิดอัตรค่าบริการของ Netstep.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการให้บริการในเรื่องของการโปรโมทเว็บไซต์ต่างๆ ที่มาขอใช้บริการให้ search engine ดังๆได้รู้จัก โดยอัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับคู่แข่งในตลาด โดยคิดจาก keyword ของลูกค้าที่ต้องการโปรโมทที่สามารถค้นหาได้จาก search engine ต่างๆ หากมีคู่แข่งจำนวนมาก อัตราค่าบริการก็จะสูงมากตามไปด้วย
อัตราค่าใช้บริการในการโปรโมทเว็บไซต์ อัตราค่าบริการของ netstep.org จำนวนผลการค้นหา (เว็บเพจที่เป็นคู่แข่ง) อัตราค่าบริการ (บาท) 0-1,000 5,000 1,001-10,000 10,000 10,001-50,000 20,000 50,001-100,000 30,000 100,000-500,000 50,000 500,001-1,000,000 80,000 1,000,000 1 หรือมากกว่า ประเมินตามงาน
อัตราค่าใช้บริการในการโปรโมทเว็บไซต์ โดยการพิมพ์ข้อความที่เป็น keyword ค้นหาผ่าน google
เว็บไซต์ยอดนิยมในการโปรโมทเว็บไซต์ www.overture.com www.yahoo.com www.lycos.com www.altavista.com www.dmoz.org www.google.com www.hotbot.com www.goto.com www.norternlight.com www.webcrawler.com
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการออกแบบโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต สะดุดตา และดึงดูดความสนใจ สื่อความหมาย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะรายบุคคล ดาวน์โหลดรวดเร็ว เน้นตราสัญลักษณ์สินค้า / บริษัทให้ชัดเจน แตกต่างจากคู่แข่ง กิจกรรมบนอินเตอร์เน็ต เช่น Bulletin board, mailing list หรือ newsgroups ต้องสอดคล้องกับวิธี off-line หลังจากลูกค้าคลิกสื่อโฆษณาแล้ว ต้องเตรียมระบบคำสั่งซื้อ การชำระเงินที่เหมาะสม และสะดวกไว้ให้พร้อม
กิจกรรม 1. ชื่อเว็บไซต์ และรายละเอียดของเว็บไซต์ ให้นักศึกษาทดสอบกลยุทธ์การโฆษณาแบบต่างๆ และใน search engine โดยเลือกบริษัท dot com 1 บริษัท (ไทยหรือต่างประเทศ) และทดสอบผลโดยระบุ 1. ชื่อเว็บไซต์ และรายละเอียดของเว็บไซต์ 2. รูปแบบต่างๆที่ใช้ในการโฆษณาของเว็บไซต์นั้น เช่น Ad views-Popup, Splash Screen, Spot leasing , banner เป็นต้น (ยกตัวอย่างโฆษณา) 3. ทดสอบว่า search engine รู้จักเว็บไซต์ที่เราศึกษาหรือไม่ ดังนี้ เลือก search engine จำนวน 3 เว็บไซต์ คือ google , yahoo, altavista มาทดสอบเปรียบเทียบเพื่อใช้ในการค้นหาเว็บไซต์ที่ศึกษา ระบุ key words ที่ใช้ค้นหา ไม่ซ้ำกันจำนวน 4 คำ เพื่อทดสอบ search engine แต่ละตัว ตรวจสอบอันดับของเว็บไซต์ที่ศึกษา ผลลัพธ์อยู่อันดับที่เท่าไหร่ จากรายการทั้งหมดเท่าไหร่ เวลาที่ใช้ในการค้นหา หน้าอะไร ถ้าเกิน 5 หน้า ก็ให้แสดงข้อความว่าเกินหน้าที่ 5
กิจกรรม 4. ให้นักศึกษาเขียนคำสั่ง Meta Tag โปรโมตเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเอง เพื่อให้ search engine ทำการค้นหาได้เร็วขึ้น โดยให้มีทั้ง Title , Description และ Keywords