งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

Overview of C Programming

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "Overview of C Programming"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 Overview of C Programming
กราบเรียนท่านอาจารย์ และสวัสดีเพื่อนๆ

2 ทำไมต้องเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
1. เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง โดยการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานจะต้องป้อนคำสั่งให้กับมัน และต้องเป็นคำสั่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ 2. การนำคำสั่งมาเรียงต่อกันให้ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเรียกว่า โปรแกรม เมื่อโปรแกรมถูกป้อนเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวเครื่องจะทำงานทีละคำสั่ง 3. สำหรับการใช้คำสั่งสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานนั้นจะต้องใช้ภาษาที่คอมพิวเตอร์รหัสเลขฐานสอง เมื่อมีการป้อนภาษานี้เข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ รหัสเลขฐานสองจะถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณทางไฟฟ้าที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ

3 ภาษาคอมพิวเตอร์ การออกแบบตัวอักษรภาษาอังกฤษให้แทนคำสั่งรหัสเลขฐานสอง เรียกว่า รหัสนีโมนิก เลขฐานสอง ภาษาระดับต่ำ ได้แก่ ภาษาแอสเซมบลี ภาษาระดับสูง ได้แก่ ภาษาเบสิก ภาษาซี ภาษาปาสคาล โคบอล เป็นต้น ภาษาสมัยใหม่ ได้แก่ VisualBasic, Visual C, Java, PHP , Paul

4 ประวัติความเป็นมาภาษา ซี
BCPL ภาษา B ภาษา C Basic Combined Programming Language บนเครื่อง PDP-7 (UNIX) พ.ศ. 2513 พ.ศ. 2515 โดย เดนนิช ริทชี่

5 ภาษาซี (C Language) คุณสมบัติ เป็นภาษาระดับสูง
ไม่ขึ้นกับระบบปฏิบัติการ (OS) ไม่ขึ้นกับชนิดของเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นภาษาโครงสร้าง (Structure Language) กราบเรียนท่านอาจารย์ และสวัสดีเพื่อนๆ

6 โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
โครงสร้างประกอบด้วย ส่วนประมวลผลก่อน ส่วนประกาศส่วนกลาง ส่วนของฟังก์ชัน ส่วนต้นแบบฟังก์ชัน 1. ส่วนประมวลผลก่อน 2. ส่วนประกาศส่วนกลาง 3. ส่วนต้นแบบฟังก์ชั่น 4. ส่วนของฟังก์ชั่น กราบเรียนท่านอาจารย์ และสวัสดีเพื่อนๆ

7 ส่วนประมวลผลก่อน #include <stdio.h> #define START 0
ส่วนที่ 1 เป็นส่วนที่ระบุให้ซีคอมไพเลอร์เตรียมการทำงานที่ กำหนดในส่วนนี้ไว้ โดยหน้าคำสั่งจะมีเครื่องหมาย # เช่น เป็นการระบุให้นำไฟล์ stdio.h มารวมกับไฟล์นี้ เพื่อที่จะสามารถใช้คำสั่งที่อยู่ในไฟล์นี้มาใช้งานได้ หรือ เป็นการกำหนดค่าคงที่ให้กับตัวแปร START โดยให้มีค่าเป็น 0 เป็นการกำหนดให้ตัวแปร temp มีค่าเท่ากับ 37 #include <stdio.h> #define START 0 #define temp 37

8 ส่วนประกาศส่วนกลาง char name;
ส่วนที่ 2 declaration เป็นการกำหนดชนิดข้อมูลที่จะใช้ใน โปรแกรมซึ่งตัวแปรหรือข้อมูลต่าง ๆ นั้นจะต้องถูกประกาศ ในส่วนนี้ก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในโปรแกรมได้ เช่น เป็นการกำหนดว่าตัวแปร name เป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร หรือ ข้อความ เป็นต้น char name;

9 ส่วนประกาศส่วนกลาง int stdno; float score;
หรือ interger ซึ่งอาจได้แก่ค่า 0,4,-1,-3,…. เป็นต้น เป็นการกำหนดว่าตัวแปร score เป็นข้อมูลชนิดเลขมีจุด ทศนิยม (floating point)ซึ่งอาจมีค่า 0.23, 1.34 เป็นต้น int stdno; float score;

10 ส่วนประกาศต้นแบบฟังก์ชั่น
ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่ใช้กำหนดว่ามีฟังก์ชั่นอะไรบ้าง และมีการประกาศพารามิเตอร์อย่างไร เช่น เป็นการประกาศฟังก์ชั่นต้นแบบสำหรับฟังก์ชั่นชื่อ main เป็นการประกาศฟังก์ชั่นต้นแบบสำหรับพังก์ชั่นชื่อ main โดยมีค่าที่ส่งกลับเป็นชนิด interger และไม่มีการส่งค่าเข้าไปในฟังก์ชั่นนี้ main ( ) int main ( void );

11 ส่วนประกาศฟังก์ชั่น int main ( void ) { printf ( “Hello World \n” );
ส่วนที่ 4 เป็นส่วนที่ใช้กำหนดรายละเอียดของแต่ละฟังก์ชั่น ว่ามีลักษณะการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง รับค่าใดเข้าไปในฟังก์ชั่นบ้าง และส่งค่ากลับเป็นอะไร เช่น เป็นการประกาศฟังก์ชั่นชื่อ main ตามฟังก์ชั่นต้นแบบ สำหรับฟังก์ชั่น main นี้ไม่มีการรับค่าเข้าในฟังก์ชั่น แต่เมื่อทำงานเสร็จแล้วจะส่งค่ากลับมาเป็น 0 int main ( void ) { printf ( “Hello World \n” ); return (0); }

12 กฎเกณฑ์ของโปรแกรมภาษาซี
กฎเกณฑ์ (Rules) ประกอบด้วยส่วนย่อย ๆ โดยใช้ปีกกา ({ }) เป็นตัวกำหนดขอบเขต ฟังก์ชั่นแรกต้องเป็น main() เสมอ ใช้เครื่องหมาย ; (semi colon) เป็นตัวกำหนดการ สิ้นสุดของคำสั่ง ใช้อักษรตัวเล็กในการเขียนโปรแกรม ใช้เครื่องหมาย , (comma) เป็นตัวคั่นตัวแปรและ พารามิเตอร์ ใช้เครื่องหมาย /* */ เป็นการกำหนดข้อความ ที่ไม่ ต้องการให้คอมไพเลอร์ปฏิบัติงาน กราบเรียนท่านอาจารย์ และสวัสดีเพื่อนๆ

13 //Program name file.c #include <stdio.h>
โครงสร้างโปรแกรม //Program name file.c #include <stdio.h> #include <stdlib.h> type variable; main () { ; system(“pause”); }

14 ชนิดและแบบของข้อมูลในภาษาซี
แบบข้อมูลหรือชนิดของตัวแปรต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในภาษาซีประกอบด้วย char ชนิดของตัวอักษรหรืออักขระ int ชนิดจำนวนเต็มปกติ short ชนิดจำนวนเต็มปกติ long ชนิดจำนวนเต็มที่มีความยาวเป็น 2 เท่า unsigned ชนิดของเลขที่ไม่คิดเครื่องหมาย float ชนิดเลขมีจุดทศนิยม double ชนิดเลขที่มีจุดทศนิยมความยาว เป็น 2 เท่า

15 ตารางแสดงเนื้อที่ในหน่วยความจำของชนิดข้อมูล

16 ชนิดและแบบของข้อมูลในภาษาซี
ในการเขียนโปรแกรม แบบข้อมูลที่ใช้จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้ ข้อมูลและตัวแปรชนิดอักขระ ข้อมูลและตัวแปรชนิดจำนวนเต็ม ข้อมูลและตัวแปรชนิดเลขมีจุดทศนิยม ข้อมูลและตัวแปรแบบสตริง

17 ชนิดข้อมูลชนิดอักขระ
อักขระแทนด้วย char โดยอยู่ภายในเครื่องหมาย ‘ ’ เช่น ‘a’ , ‘A’ , ‘9’ อักขระพิเศษบางตัวไม่สามารถให้ค่าได้โดยตรง แต่ จะให้ค่าเป็นรหัส ASCII ซึ่งจะเขียนในรูปของเลข ฐานแปด เช่น รหัส BELL แทนด้วย ASCII 007 เขียนแทนด้วย BELL=‘\007’ หรือรหัสควบคุมการ ขึ้นบรรทัดใหม่ ตัวอักขระที่กำหนดให้กับรหัส คือ n สามารถกำหนดเป็น newline = ‘\n’;

18 ชนิดข้อมูลของเลขจำนวนเต็ม
จำนวนเต็มในภาษาซีสามารถใช้แทนได้ 4 รูปแบบ คือ int, short, long และ unsigned การกำหนดตัวแปรแบบ unsigned คือจำนวนเต็ม ที่ไม่คิดเครื่องหมาย ซึ่งจะต้องใช้ควบคู่กับรูปแบบ ข้อมูลจำนวนเต็มชนิดอื่น คือ int , short หรือ long เช่น unsigned int unsigned short

19 ชนิดข้อมูลของเลขมีจุดทศนิยม
การกำหนดขนิดข้อมูลเลขจุดทศนิยมสามารถ กำหนดได้ 2 แบบ คือ float , double โดย double เก็บค่าได้เป็น 2 เท่าของ float ตัวเลข แบบนี้นิยมใช้กับงานทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องการ ความละเอียดในการเก็บค่า การเก็บข้อมูลในรูปแบบนี้ คือ เก็บแบบเอ็กโพเนนซ์ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ตัวเลข แสดงแบบเอ็กโพเนนซ์ แสดงแบบวิทยาศาสตร์ 9,000,000, * e9 345, * e5 * e-4 * e-6

20 ชนิดข้อมูลแบบสตริง สตริงหมายถึงการนำตัวอักขระหลายตัวมาประกอบ
กันเป็นข้อความ จะเรียกว่า array หรือแถวลำดับของตัวอักขระ นั่นเอง ในการใช้งานชนิดข้อมูลแบบสตริงนั้นอักขระตัว สุดท้ายจะเก็บรหัส null คือ \0 หมายถึงจุดจบของ ข้อความ เช่น H e l o \0 1 2 3 4 5 6

21 ตัวแปรในภาษาซี ตัวแปร คือ การจองเนื้อที่ในหน่วยความจำและตั้งชื่อไว้ เพื่อเรียกใช้งานในขณะปฏิบัติงาน การกำหนดชื่อตัวแปร มีหลักการดังนี้ 1. ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร 2. ห้ามใช้เครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ในชื่อ ตัวแปร 3. สามารถใช้เครื่องหมาย underline ‘_’ ได้ 4. ห้ามใช้ reserved words เช่น int, float,etc.

22 การประกาศตัวแปรในภาษาซี
การประกาศชื่อตัวแปรในภาษาซีสามารถทำได้ดังนี้ <ชนิดข้อมูล> <ชื่อตัวแปร>; ตัวอย่างเช่น char ch; double height; int num; unsigned int a; float width; long int b;

23 การเขียนประโยคคำสั่ง
การเขียนประโยคคำสั่งในภาษาซี แต่ละคำสั่งจะ ประกอบด้วย ตัวระบุ (Identifier) คำสงวน ตัวแปร ชื่อฟังก์ชั่น และตัวดำเนินการ (operator) ต่าง ๆ แต่ละคำสั่งจบลงด้วยเครื่องหมายอัฒภาค (;) เช่น printf ( “Hello” ); printf ( “ C \n” ); อาจเขียนในบรรทัดเดียวกันก็ได้ เช่น printf ( “Hello” );printf ( “ C \n” ); ทั้งสองแบบให้ผลลัพธ์เหมือนกัน

24 การแสดงผลลัพธ์ในภาษาซี
การแสดงผลลัพธ์ในภาษาซีจะใช้ฟังก์ชั่น printf โดยที่ฟังก์ชั่น printf มีรูปแบบดังนี้ ส่วนควบคุมการพิมพ์ จะเป็นข้อความและรูปแบบ ของการพิมพ์โดยอยู่ในเครื่องหมาย “ ” อาร์กิวเมนต์ เป็นส่วนที่จะนำข้อมูลมาพิมพ์ ตามรูปแบบที่กำหนดมาในส่วนควบคุมการพิมพ์ printf( ส่วนควบคุมการพิมพ์, อาร์กิวเมนต์, …)

25 รูปแบบที่ใช้กำหนดการพิมพ์ใน printf
รูปแบบการพิมพ์สำหรับตัวเลขมีดังนี้ %d พิมพ์ข้อมูลจำนวนเต็มด้วยเลขฐานสิบ %o พิมพ์ข้อมูลด้วยเลขฐานแปด %x พิมพ์ข้อมูลด้วยเลขฐานสิบหก %u พิมพ์ข้อมูลด้วยเลขฐานสิบแบบไม่คิด เครื่องหมาย %e พิมพ์ข้อมูลด้วยตัวเลขแบบวิทยาศาสตร์ เช่น 2.13e45 %f พิมพ์ข้อมูลด้วยตัวเลขมีจุดทศนิยม %g พิมพ์ข้อมูลด้วยรูปแบบ %e หรือ %f โดยเลือกแบบที่สั้นที่สุด

26 รูปแบบที่ใช้กำหนดการพิมพ์ใน printf
รูปแบบการพิมพ์สำหรับสตริงมีดังนี้ %c พิมพ์ด้วยตัวอักษรตัวเดียว %s พิมพ์ด้วยข้อความ ตัวอย่างการคำสั่ง printf เช่น printf ( “%d %f %s“ , 20 , 25.5 , “Hello” ); คู่ที่ 1 คู่ที่ 2 คู่ที่ 3

27 เครื่องหมายปรับเปลี่ยนรูปแบบข้อมูล
เครื่องหมายสำหรับปรับเปลี่ยนรูปแบบของข้อมูล ในการแสดงผล เครื่องหมายลบ ให้พิมพ์ข้อมูลชิดขอบซ้าย (ปกติข้อมูลทั้งหมดจะพิมพ์ชิดขวา) สตริงตัวเลข ระบุความกว้างของฟิลด์ จุดทศนิยม เป็นการกำหนดความกว้างของ จุดทศนิยม ตัวอย่างการใช้เครื่องหมายปรับเปลี่ยนรูปแบบของ การแสดงผล printf ( “%3d %-6.0f “ , 20 , 25.5 );

28 การรับข้อมูลเข้าในภาษาซี
การรับข้อมูลเข้ามาใช้งานในภาษาซีจะใช้ฟังก์ชั่น scanf รูปแบบของ scanf ( ) ส่วนควบคุมข้อมูล เป็นการกำหนดรูปแบบ ข้อมูลในเครื่องหมาย “ ” อาร์กิวเมนต์ เป็นส่วนที่จะนำข้อมูลมาเก็บ (ในตัวแปร) ซึ่งชนิดของข้อมูลต้องตรงตาม รูปแบบที่กำหนดในส่วนควบคุมข้อมูล scanf( ส่วนควบคุมข้อมูล, อาร์กิวเมนต์,...)

29 การรับข้อมูลเข้าในภาษาซี
การกำหนดลักษณะอาร์กิวเมนต์มีได้ 2 แบบดังนี้ ถ้าข้อมูลนั้นอาจจะนำไปใช้ในการคำนวณ จะใส่เครื่องหมาย & หน้าตัวแปร ถ้าข้อมูลนั้นเป็นข้อความที่จะนำไปเก็บไว้ในตัว แปรเลยไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องหมาย & หน้า ตัวแปร ตัวอย่างการใช้ฟังก์ชั่น scanf scanf ( “%d “,&num); scanf ( “%s “,str);

30 เครื่องหมายที่ใช้คำนวณในภาษาซี
เครื่องหมายที่ใช้คำนวณในภาษาซีเรียกว่า ตัวดำเนินการ (Operator) มีดังนี้ ตัวดำเนินการ ความหมาย ตัวอย่าง ผลลัพธ์ + การบวก 6 + 8 14 - การลบ 7 – 5 2 * การคูณ 3 * 4 12 / การหาร 8/2 4 ลบ (ยูนารีเครื่องหมายลบ) -5 % โมดูลัส (หาเศษเหลือจากการหาร) 7 % 2 1 4 % 2

31 การเปลี่ยนชนิดของข้อมูล
ทำได้โดยระบุชนิดที่ต้องการเปลี่ยนภายใน เครื่องหมาย ( ) แล้ววางหน้าตัวแปรหรือข้อมูล ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชนิด ตัวอย่าง ถ้าในโปรแกรมภาษาซีมีการประกาศ ตัวแปรเป็น ต้องการเปลี่ยนตัวแปร float ไปเป็น integer ทำได้ดังนี้ float money; (int) money;

32 นิพจน์กำหนดค่า นิพจน์กำหนดค่า (Assignment expression)
เครื่องหมายที่ใช้กำหนดค่าคือ = โดยเป็นการ กำหนดค่าทางขวาของเครื่องหมาย ให้กับตัวแปร ที่อยู่ทางซ้าย เช่น j = 7+2; หรือ k = k + 4;

33 นิพจน์กำหนดค่า สัญลักษณ์ ความหมาย > มากกว่า < น้อยกว่า >=
มากกว่าหรือเท่ากับ <= น้อยกว่าหรือเท่ากับ == เท่ากับ != ไม่เท่ากับ

34 นิพจน์กำหนดค่า ความแตกต่างของเครื่องหมาย = และ ==
เครื่องหมาย = เป็นตัวกำหนดค่า เครื่องหมาย == เป็นเครื่องหมายเปรียบเทียบ ตัวอย่างเช่น หมายถึง เป็นการกำหนดค่าให้กับตัวแปร point ให้มีค่าเท่ากับ 44 หมายถึง เป็นการตรวจสอบว่าค่า point มีค่าเท่ากับ 44 หรือไม่ point = 44; point == 44;

35 เครื่องหมายและนิพจน์แบบตรรกศาสตร์
เครื่องหมายและนิพจน์เปรียบเทียบแบบ ตรรกศาสตร์ && หมายถึง และ (and) | | หมายถึง หรือ (or) ! หมายถึง ไม่ (not) ตัวอย่างเช่น จะได้ค่าความจริงเป็นจริงก็ต่อเมื่อ a และ b เป็นจริงทั้งคู่ จะได้ค่าความจริงเป็นเท็จก็ต่อเมื่อ a และ b เป็นเท็จทั้งคู่ a && b a || b

36 การเพิ่มค่าและลดค่าตัวแปร
สามารถใช้เครื่องหมายต่อไปนี้แทนการเพิ่มหรือ ลดค่าของตัวแปร ++ เป็นการเพิ่มค่าให้กับตัวแปรทีละ 1 -- เป็นการลดค่าตัวแปรทีละ 1 ตัวอย่างเช่น ++n เป็นการเพิ่มค่า n อีก 1 --n เป็นการลดค่า n ลง 1 ความแตกต่างระหว่าง n++ และ ++n เช่น n = 5; x = n++; จะได้ค่า x เท่ากับ 5 แล้วค่า n เท่ากับ 6 แต่ถ้า x = ++n; จะได้ค่า x เท่ากับ 6

37 END Department of Computer Science


ดาวน์โหลด ppt Overview of C Programming

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google