อุทยานดอกไม้
ผกากรองเป็นไม้ดอกอายุหลายปี ตามลำต้นมีขนปกคลุม ผกากรองเป็นไม้ดอกอายุหลายปี ตามลำต้นมีขนปกคลุม แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบๆ ต้น ใบเป็นรูปไข่ ขอบใบจัก ปลายใบแหลม ใบออกเป็นคู่ๆ สลับกัน สีเขียวเข้ม ดอกออกเป็นช่อบริเวณส่วนยอดของกิ่งก้าน มีหลายสี ทั้งสีเดียวและสีผสม ขนาดดอกเล็ก
จำปาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง จำปาเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ดอกเริ่มแย้มมีกลิ่นหอมในช่วงพลบค่ำ ในเช้าวันถัดมา กลีบดอกจะกางออกจากกัน และร่วงหล่นในตอนเย็น ออกดอกเกือบตลอดปี แต่จะมีปากในช่วงฤดูฝน ปลูกนานกว่า 3 ปี จึงจะออกดอก
จำปีเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นใหญ่สูงกว่าจำปาเล็กน้อย ต้นจะแตกพุ่มยอดใบงามกว่าจำปา ใบนั้นเป็นใบเดี่ยว ปลายใบจะแหลม โคนใบมน ดอกเป็นดอกเดี่ยว มีสีขาวคล้ายๆ กับสีของงาช้าง
กุหลาบนับว่าเป็นไม้ดอกที่มีความงาม ยากที่ไม้ดอกอื่นจะเทียบเท่า จนได้รับชื่อว่าเป็น "ราชินีแห่งดอกไม้" (Queen of flower)
ราตรีเป็นดอกไม้ ที่มีกลิ่นหอมในเวลากลางคืน เมื่อมีดอกมันจะส่งกลิ่นไปไกล กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป มีกลิ่นเย็นเรื่อยๆ ทำให้ได้อีกชื่อหนึ่งว่า หอมดึก ส่วนมากนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน
พะยอมเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่สูง 15-30 เมตร ทรงพุ่มกลม พยอม พะยอมเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่สูง 15-30 เมตร ทรงพุ่มกลม เปลือกสีเทาเข้ม แตกกิ่งจำนวนมาก ใบเป็นใบเดี่ยวรูปรีขอบขนานกว้าง 3-6 ซม. ยาว 8-15 ซม. ขอบใบเป็นคลื่น ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ดอกออกเป็นช่อดอกใหญ่สีขาว ออกตามกิ่ง กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบโคนเชื่อมติดกัน ออกดอกพร้อมกันเกือบทั้งต้น ฤดูดอกบานอยู่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
เป็นพรรณไม้พุ่มเตี้ย มีลำต้นเป็นข้อ สูงประมาณ 3 ฟุต อังกาบ เป็นพรรณไม้พุ่มเตี้ย มีลำต้นเป็นข้อ สูงประมาณ 3 ฟุต ใบเป็นรูปหอก โคนและปลายเรียวแหลม ขนาดกว้างประมาณ 4 ซม. ยาวประมาณ 10 ซม. ดอกออกเป็นกระจุก
กรรณิการ์เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ 2 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ๆ สลับกันไปตามข้อของต้น มีขนอ่อนๆ ปกคลุมอยู่ทั่วใบ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่รี ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีดอกราว 5-8 ดอก
ลำดวนเป็นไม้ต้นสูง 8-20 เมตร ทรงพุ่มรูปกรวยคว่ำและแน่นทึบ ลำดวนเป็นไม้ต้นสูง 8-20 เมตร ทรงพุ่มรูปกรวยคว่ำและแน่นทึบ ลำต้นตรงแตกกิ่งและใบจำนวนมาก ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับสองด้าน ใบรูปรีแกมขอบขนานกว้าง 3-4 ซม. ยาว 5-12 ซม. ปลายใบแหลม ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองนวล ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง
นมแมวเป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย ขนาดไม่สูงนัก สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ลักษณะของใบเป็นรูปหอก โคนใบมน ปลายใบแหลมยาวประมาณ 3 นิ้ว ดอกสีเหลือง
ซ่อนกลิ่นเป็นพรรณไม้ล้มลุกที่มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ซ่อนกลิ่นเป็นพรรณไม้ล้มลุกที่มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน ลักษณะของหัวจะคล้ายๆ กับหัวหอม ใบมีสีเขียวเล็กและเรียวยาวโผล่ออกมาจากพื้นดิน ใบยาวประมาณ 1-1.5 ฟุต ดอกจะชูช่อออกมาตรงกลางกอของลำต้น
ยี่โถเป็นไม้พุ่มขนาดกลางสูงได้ถึง 20 ฟุต ยี่โถเป็นไม้พุ่มขนาดกลางสูงได้ถึง 20 ฟุต ใบเล็กแคบเรียวยาว เนื้อใบหนาและแข็ง ขนาดใบยาวประมาณ 4-8 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อแน่นตามยอดมีสีต่างๆ กัน เช่น สีชมพู แดง ขาว
ชงโคเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ 15 เมตร ชงโคเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ 15 เมตร ใบเป็นรูปไข่แยกเป็น 2 แฉกลึก ช่อดอกออกตามกิ่งข้างและจำนวนดอกน้อย กลีบดอกขาวหรือม่วง ลักษณะคล้ายดอกกล้วยไม้
มณฑาเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูง 3-8 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ มณฑาเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูง 3-8 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบรูปรี ขอบขนาน กว้าง 4-6 ซม. ยาว 7-15 ซม. ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดใหญ่สีเหลืองครีมรูปรี ปลายกลีบค่อนข้างแหลม ดอกห้อยลง
สายหยุดเป็นไม้เลื้อยกึ่งไม้ยืนต้น สายหยุดเป็นไม้เลื้อยกึ่งไม้ยืนต้น มีเถาแข็งแรงสามารถเลื้อยเกาะต้นไม้ได้ไกล 5-8 เมตร มักแตกกิ่งก้านสาขามากที่ส่วนยอดและแผ่สาขาออก ไปบริเวณกว้าง ใบสีเขียวเข้ม รูปรี ปลายใบแหลมขนาดใบยาว 12-14 ซม. ดอกออกเป็นดอกเดี่ยวมีลักษณะคล้ายดอกกระดังงาไทย
เฟื่องฟ้าเป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อยอายุยืนหลายสิบปี เฟื่องฟ้าเป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อยอายุยืนหลายสิบปี ขนาดตั้งแต่พุ่มเล็กถึงพุ่มใหญ่ มีหนามขึ้นตามลำต้นอยู่เหนือใบ ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกสลับกับกิ่งหรือเยื้องกัน
ชบาเป็นไม้พุ่มขนาด 1-3 เมตร อาจสูงได้ถึง 7-10 เมตร ชบาเป็นไม้พุ่มขนาด 1-3 เมตร อาจสูงได้ถึง 7-10 เมตร ใบรูปไข่กว้างปลายใบแหลมเรียว ขอบใบจักหรือขอบใบเรียบ ดอกออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ก้านดอกยาว
สร้อยทองเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นแตกแขนง มีพุ่มสูงประมาณ 30-100 ซม. สร้อยทองเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นแตกแขนง มีพุ่มสูงประมาณ 30-100 ซม. ใบมีรูปร่างยาวรี ยาวประมาณ 10-12 ซม. ใบมีสีเขียวเข้ม ดอกมีสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองเข้ม
บานบุรีหอมเป็นพรรณไม้เถาเล็ก จะเลื้อยเถายาวเกี่ยวเกาะกับไม้พุ่มใหญ่ๆ จะเลื้อยเถายาวเกี่ยวเกาะกับไม้พุ่มใหญ่ๆ ลักษณะของใบเป็นใบมนรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งของต้น ช่อๆ หนึ่งมีดอกอยู่ประมาณ 5-8 ดอก และจะทยอยกันบาน ดอกมีสีเหลืองแสด
ยี่สุ่นเป็นกุหลาบพันธุ์เตี้ยแคระ เป็นพุ่มทึบสีเขียวทั้งต้น สูงประมาณ 1-2 ฟุต ใบเหมือนกับใบกุหลาบทั่วไปแต่จะเล็กกว่ามีสีเขียว ดอกมีหลายสี
ขจรเป็นไม้เลื้อยเถาเล็กแตกยอดจำนวนมาก ทุกส่วนของลำต้นมีน้ำยางขาว ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นใบคู่เป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนใบเว้า ขอบใบเรียบ มีช่อดอกสีเหลืองอมชมพูอ่อนออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม
ประดู่เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีลำต้นสูงประมาณ 25 เมตร ประดู่เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีลำต้นสูงประมาณ 25 เมตร ใบจะออกรวมกันเป็นช่อ ลักษณะของใบเป็นรูปมนรี ปลายใบแหลม ถ้าขึ้นในที่แล้งจะผลัดใบก่อนออกดอก ดอกออกเป็นช่อมีสีเหลืองสดลักษณะคล้ายดอกถั่ว
พุดซ้อนเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-2เมตร พุดซ้อนเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1-2เมตร แตกกิ่งแขนงมาก ลำต้นเรียวเป็นรูปกรวย ใบเป็นใบเดี่ยว รูปหอก ปลายใบและโคนใบแหลม ใบมีสีเขียวมน ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีขาว
พลับพลึงเป็นไม้ล้มลุกหลายฤดู มีลำต้นใต้ดิน พลับพลึงเป็นไม้ล้มลุกหลายฤดู มีลำต้นใต้ดิน ส่วนเหนือดินประกอบด้วยกาบใบสีขาวหุ้มซ้อนกันเป็นชั้นๆ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงซ้อนเป็นวงกว้าง 7-15 ซม. ยาว 1 เมตร ปลายใบแหลม แผ่นใบอวบหนา มีหน่อจำนวนมากขึ้นรวมกันเป็นกอ ดอกเป็นช่อดอกขนาดใหญ่ สีขาวหรือม่วงแดง
หงอนไก่เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 20 นิ้ว หงอนไก่เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 20 นิ้ว สีของลำต้นสีเขียว ต้นมักจะแตกกิ่งก้านสาขามาก ใบเป็นใบเดี่ยวออกใบเป็นกลุ่ม ใบแต่ละกลุ่มจะมีใบใหญ่อยู่หนึ่งใบ รูปใบมนรี ปลายใบแหลม ขนาดใบใหญ่ประมาณ 3-4 ซม. นอกนั้นเป็นใบย่อยขนาดเล็ก ออกดอกดก และดอกมีสีสันรุนแรงคล้ายหงอนไก่ มีหลายสีเช่นแดงสด ขาวและเหลือง
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงกลางความสูง 5-15 เมตร พิกุล เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงกลางความสูง 5-15 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอกแคบๆ โคนใบแหลม ปลายใบมนหรือแหลม ใบเกลี้ยงขอบใบเรียบเป็นคลื่น ดอกออกเป็นกระจุกใหญ่ตามปลายกิ่ง หรือตามง่ามใบ ดอกออกดอกเดี่ยว
ทานตะวันลักษณะของลำต้นจะตรง สูงประมาณ 3-4 ฟุต ทานตะวันลักษณะของลำต้นจะตรง สูงประมาณ 3-4 ฟุต แต่ถ้าปลูกในถิ่นที่มีอากาศเย็นอาจสูงได้ถึง 6 ฟุต ใบจะออกสลับกัน ลักษณะของใบกลมรีกว้างประมาณ 4-8 นิ้ว ขอบใบเป็นรอยจักฟันเลื่อย ปลายใบแหลม ดอกมีขนาดใหญ่
รักเร่เป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อน รากมีลักษณะคล้ายหัว ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามากมาย ดอกเป็นแบบ head แบบเดียวกับเบญจมาศ ก้านดอกอวบยาวแข็งแรง กลีบดอก
เป็นไม้ประดับยืนต้นขนาดเล็ก ความสูง 3-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว กาหลง เป็นไม้ประดับยืนต้นขนาดเล็ก ความสูง 3-5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ปลายใบเว้าเข้าเป็นรูปหัวใจหรือมองดูคล้ายเป็นใบแฝดติดกัน ผลัดใบในฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม และจะแตกใบใหม่ราวเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
ประยงค์เป็นไม้พุ่มขนาดย่อมถึงใหญ่ ประยงค์เป็นไม้พุ่มขนาดย่อมถึงใหญ่ ใบมีสีเขียวเข้มและหนาเป็นมัน เป็นแบบใบรวม กลุ่มใบหนึ่งๆ จะประกอบด้วยใบย่อย 5 ใบ ลักษณะใบโค้งมนปลายแหลม ออกดอกเป็นช่อ ลักษณะดอกเป็นเม็ดกลมๆ ก้านดอกแตกเป็นกิ่งก้านสาขา ในก้านดอกหนึ่งๆ จะมีดอกตั้งแต่ 20-30 ดอก ดอกมีสีเหลืองอร่าม
พวงทองเป็นไม้ต้นเล็ก สูง 1-1.5 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกลม พวงทองเป็นไม้ต้นเล็ก สูง 1-1.5 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มกลม ใบยาวรีแหลม ยาวประมาณ 3 ซม. ดอกออกเป็นช่อเดียวที่โคนก้านใบ ขนาดดอก 1 ซม. มีกลีบ 5 กลีบ สีเหลืองสด เกสรตัวผู้ 10 อัน อยู่เป็นกระจุกกลางดอก ออกดอกตลอดปี
บานชื่นเป็นไม้ดอกฤดูเดียว ลำต้นสูงประมาณ 2 ฟุต ลักษณะลำต้นมีขน บานชื่นเป็นไม้ดอกฤดูเดียว ลำต้นสูงประมาณ 2 ฟุต ลักษณะลำต้นมีขน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบติดกับลำต้น ดอกมีหลายสี เช่น แดง ชมพู ขาว ส้ม เหลือง ม่วงและแสด
พุทธชาดเป็นไม้กึ่งยืนต้นกึ่งเลื้อย พุทธชาดเป็นไม้กึ่งยืนต้นกึ่งเลื้อย มีขนาดต้นสูง 1-2 เมตร ขนาดใบยาว 6 ซม. ออกใบเป็นคู่ตรงข้ามกัน ดอกขนาดเล็กสีขาว กว้าง 1.5 ซม. ดอกดกออกเป็นช่อ
เป็นพรรณไม้เลื้อยที่มีเถาอ่อนแต่ตรงส่วนโคนจะแข็งแรงมาก พวงชมพู เป็นพรรณไม้เลื้อยที่มีเถาอ่อนแต่ตรงส่วนโคนจะแข็งแรงมาก เถาจะทอดได้ยาวและเร็ว ลำเถามีสีเขียวอ่อน ใบดกมากเป็นใบเดี่ยวออกทแยงขึ้นไปตามลำเถา ลักษณะคล้ายใบโพธิ์ เนื้อใบบางเห็นเส้นใบได้ชัดมีสีแดงเรื่อๆ
เป็นพรรณไม้ขนาดกลางถึงใหญ่สูงประมาณ 15-25 เมตร กระดังงา เป็นพรรณไม้ขนาดกลางถึงใหญ่สูงประมาณ 15-25 เมตร เป็นพรรณไม้พุ่มแน่น โคนต้นมีปุ่มเล็กน้อย ใบเป็นใบเดี่ยวขึ้นหนาทึบสลับกันไปตามกิ่ง ขอบใบเรียบและมนรี ปลายใบแหลม ยาวประมาณ 6-7 นิ้ว ดอกมีสีเหลืองกลิ่นหอม
รสสุคนธ์เป็นพันธุ์ไม้เลื้อย มีเถาใหญ่เหนียวแข็งแรง รสสุคนธ์เป็นพันธุ์ไม้เลื้อย มีเถาใหญ่เหนียวแข็งแรง แตกกิ่งก้านสาขาและพุ่มใบหนาทึบ เลื้อยพันไม้ได้สูง 5-10 เมตร ใบแข็งหนาและระคายลักษณะคล้ายลิ้นสัตว์ ขนาดใบยาวประมาณ 4 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อ ดอกขนาดเล็กทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.8 ซม.
บุนนาคเป็นไม้ยืนต้นไม้ผลัดใบมีขนาดสูงได้มากกว่า 25 เมตร บุนนาคเป็นไม้ยืนต้นไม้ผลัดใบมีขนาดสูงได้มากกว่า 25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มรูปกรวย ลำต้นเรียบ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ๆ สลับกัน ทรงใบรูปหอกแหลมเรียวปลาย ด้านบนใบเป็นสีเขียวด้านล่างเขียวอ่อนเกือบขาว
นางแย้มเป็นพรรณไม้พุ่มลำต้นเตี้ยสูงประมาณ 3-5 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยวจะออกเป็นคู่ๆ ตรงข้ามกัน ลักษณะใบเป็นรูปใบโพธิ์ ตรงปลายแหลมแต่ไม่มีติ่ง ขอบใบหยักรอบใบ ออกดอกเป็นช่อ ดอกจะเบียดเสียดติดกันแน่นในช่อ
สารภีเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไม่ผลัดใบ สารภีเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไม่ผลัดใบ มีใบแน่นเป็นพุ่มหนาทึบและมีกิ่งก้านสาขามาก ขนาดต้นสูงประมาณ 12-15 เมตร ใบเรียบเกลี้ยงรูปไข่ ปลายใบกว้างกว่าโคนใบยาว 5-6 นิ้ว มีดอกสีขาวกลิ่นหอมแรงและไปได้ไกล
บัวหลวงเป็นไม้น้ำและไม้ล้มลุกหลายฤดู อุบล บัวหลวงเป็นไม้น้ำและไม้ล้มลุกหลายฤดู มีเหง้าและไหลอยู่ใต้ดินฝังตัวอยู่ในโคลนเลน ใบเป็นเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบเกือบกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20-50 ซม. ก้านใบและดอกแข็งมีหนามเล็กๆ เมื่อหักเป็นสายใยและมีน้ำยางขาว ดอกเป็นดอกเดี่ยวมีสีขาวและสีชมพูชูเหนือน้ำ
ลำต้นสูงประมาณ 6-15 เมตรไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลม ต้นแตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด จันทร์กระพ้อ ลำต้นสูงประมาณ 6-15 เมตรไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลม ต้นแตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด กิ่งเปราะ มีน้ำยางใสซึมออกมาตามรอยแตก โตเร็ว ใบเดี่ยว ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง ใบแก่สีเขียวเข้มเป็นมัน รูปรีแกม ขอบขนานหรือรูปใบหอก โคนใบเบี้ยว และจะหลุดร่วงไปตามอายุ ดอก ออกดอกเป็นช่อสั้นๆ
ผีเสื้อเป็นไม้พุ่มเล็กสูงประมาณ 10-15 นิ้ว ใบมีสีเขียวแก่ ลักษณะใบยาวปลายเรียวแหลม ขอบใบทั้งสองข้างมักจะโค้งเข้าหากลางใบเล็กน้อย ทำให้มีลักษณะคล้ายร่องน้ำ ใบออกเป็นคู่แบบสลับ โดยใบจะหุ้มรอบข้อทำให้ส่วนข้อมีลักษณะบวมโต ดอกมีทั้งชนิดดอกซ้อนและดอกชั้นเดียว
เล็บมือนางเป็นไม้เถา ลำต้นค่อนข้างแข็ง เล็บมือนางเป็นไม้เถา ลำต้นค่อนข้างแข็ง ขึ้นเป็นพุ่มแน่น ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม มีขนปกคลุมประปราย ใบรูปหอกปลายแหลม โคนใบแคบ กลางใบกว้างประมาณ 4-6 ซม. ยาว 12-15 ซม. ดอกออกเป็นช่อ เมื่อเริ่มบานมีสีขาวหรือสีชมพูอ่อน เมื่อบานเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม
เป็นไม้พุ่มเตี้ย ตามต้นและกิ่งมีขน ใบใหญ่คล้ายใบฝ้าย ขอบใบหยัก พุดตาล เป็นไม้พุ่มเตี้ย ตามต้นและกิ่งมีขน ใบใหญ่คล้ายใบฝ้าย ขอบใบหยัก ดอกใหญ่คล้ายดอกชบาซ้อน บานในตอนเช้า และจะเปลี่ยนสีจากสีขาวในตอนเช้า เมื่อสายจะเป็นสีชมพู ตกบ่ายจะเป็นสีชมพูเข้ม
ลำต้นแท้ มีข้อและปล้องเหมือนพืชใบเลี้ยงเดี่ยวทั่วไป กล้วยไม้ กล้วยไม้เป็นพืชวงศ์ใหญ่ มีความแตกต่างกันภายในวงศ์อย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไปลำต้นของกล้วยไม้ไม่มีแก่นและเปลือก เนื้อในเสมอกัน ลำต้นมี 2 ลักษณะ คือ ลำต้นแท้ มีข้อและปล้องเหมือนพืชใบเลี้ยงเดี่ยวทั่วไป มีการเจริญเติบโตทางยอด
ดาวเรืองเป็นไม้ดอกต้นสูง 25-60 ซม. ใบเป็นรูปหอกปลายแหลม ขอบหยัก ดอกเป็นช่อกระจุกเดี่ยวที่ปลายยอด ดอกวงนอกกลีบดอกเป็นรูปรางน้ำ โคนเป็นหลอดเล็กปลายแผ่ ดอกวงในกลีบดอกเป็นหลอดมีหลายสี
อัญชันเป็นไม้เถาเลื้อยที่นิยมปลูกไว้ริมรั้ว ขึ้นได้ดีในเขตร้อน และเป็นไม้ที่มีอายุสั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและอากาศ ดอกมีสีน้ำเงินเข้ม หรือน้ำเงินอมม่วง กลีบนอกมีสีเขียว
ยี่หุบเป็นพุ่มไม้เตี้ย สูงประมาณ 2-5 ฟุต ยี่หุบเป็นพุ่มไม้เตี้ย สูงประมาณ 2-5 ฟุต แตกกิ่งและใบน้อย ใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียวสดเนื้อใบแข็งกระด้าง ใบรูปรีปลายแหลมและโคนโบแหลม ยาวประมาณ 5 นิ้ว ดอกออกเป็นช่อห้อยตามปลายกิ่ง ช่อละ 5-8 ดอก ดอกสีเหลืองอ่อนนวล ก้านดอกยาว 1-2 ซม. กลีบดอกงองุ้มและแข็งหนาทับซ้อนกัน 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ
มะลิวัลย์เป็นไม้เถาเลื้อย มีต้นหรือเถาขนาดเล็กกลมเกลี้ยงสีน้ำตาลอ่อน สามารถเลื้อยพันไม้อื่นได้ไกล 2-3 เมตร ใบสีเขียวอมเหลือง ลักษณะใบบางแต่แข็ง เป็นรูปมนรี ปลายใบแหลม แตกใบเป็นคู่ ยาว 5 ซม. ดอกเป็นสีขาว
ชมผกา จำปา จำปีกุหลาบราตรี พะยอมอังกาบทั้งกรรณิการ์ ลำดวนนมแมว ซ่อนกลิ่นยี่โถชงโคมณฑา สายหยุดเฟื่องฟ้า ชบาและสร้อยทอง บานบุรียี่สุ่นขจร ประดู่พุดซ้อน พลับพลึงหงอนไก่ พิกุลควรปอง งามทานตะวัน รักเร่กาหลงประยงค์ พวงทอง บานชื่นสุขสอง พุทธชาดสะอาดแซม พิศพวงชมพู กระดังงาเลื้อยเคียงคู่ ดูสดสวยแฉล้ม รสสุคนธ์ บุญนาค นางแย้ม สารภีที่ถูกใจ งามอุบลปนจันทร์กะพ้อ ผีเสื้อแตกกอ พร้อมเล็บมือนาง พุดตานกล้วยไม้ ดาวเรืองอัญชัน ยี่หุบมะลิวัลย์แลวิไล ชูช่อไสว เร้าใจในอุทยาน