Lesson 4 ไวยากรณ์และการอ่าน

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
การเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑
Advertisements

การใช้ Past Simple Tense
วิธีการเรียนบทเรียนมัลติมีเดีย Great Wall Chinese
สรุปภาพรวมของหน่วยการเรียนรู้
สรุปภาพรวมของหน่วยการเรียนรู้
: วัตถุประสงค์การวิจัย : การนิยามศัพท์
สื่อการสอนโดยใช้โปรแกรม Power Point
ความสำคัญของงานวิจัย เสนอ รศ.ดร.เผชิญ กิจระการ
การจำลองความคิด รายวิชา ง40102 หลักการแก้ปัญหาและการโปรแกรม
ไวยากรณ์ของภาษาการทำโปรแกรม (2) (Syntax of programming languages)
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน ๑๐ ข้อ ๒
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ธรรมชาติและลักษณะของภาษา
โรงเรียนมหาชนะชัยวิทยาคม อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ ตา
กรอบแนวคิด ในการทำวิจัย
Functional Programming
สรุปภาพรวมของหน่วยการเรียนรู้ สวัสดี ผมชื่อเฟยเฟย 你好!我是飞飞。
G N L เรื่องที่น่าชื่นชม ยินดี การเรียนรู้ใหม่ ๆ ความคาดหวัง Greeting
สร้างสรรค์งานโดย ครูพงศ์ศักดิ์ อินปา
สรุปภาพรวมของหน่วยการเรียนรู้
สรุปภาพรวมของหน่วยการเรียนรู้ เรื่อง 中国货币 (สกุลเงินจีน) ช่วงชั้นที่ที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ครูนาฎหทัย สิทธิบุญ โรงเรียนแกลง“วิทยสถาวร”จังหวัดระยอง.
ครูอิงครัต กังวาลย์ โรงเรียนทุ่งสง
การเพิ่มคำ.
การเขียนขยายเค้าโครงเอกสารแต่ละบท ให้มีเนื้อหาสมบูรณ์
การอ่านจับใจความเรื่องสั้น
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องนโยบายการปฏิรูป การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
: หัวข้อและความสำคัญของปัญหา
: หัวข้อและประเด็นปัญหา
ระเบียบวิธีวิจัยพื้นฐานทาง การตลาด
กระบวนวิชา TL 214 การพัฒนาทักษะภาษาไทยรายกรณี
โครงร่างการวิจัย (Research Proposal)
ไวยากรณ์ของภาษาการทำโปรแกรม (1) (Syntax of programming languages)
เครื่องมือช่วยในการจับประเด็น รวบรวมความคิดให้เป็นหมวดหมู่
การจัดทำคู่มือ การปฏิบัติงาน Work Manual
เครื่องมือช่วยในการจับประเด็น รวบรวมความคิดให้เป็นหมวดหมู่
วิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนวชิรป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
1 การอ่านตำรา การอ่านตำรา.
การใช้ภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู
ทบทวนทฤษฎีหลักสูตร ดร.อมรา เขียวรักษา.
2.1 วิธีแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer problem solving methods)
Parts of Speech ( ชนิดของคำ )
การใช้ภาษา เพื่อการสื่อสาร
ขั้นตอนและหลักการวิเคราะห์
PAST SIMPLE TENSE.
การเขียน.
หัวข้อการเรียน ENL 3701 Week 5
แนวทางนำเสนอ การ พัฒนาหลักสูตร บูรณการอาเซียน นำเสนอโดย นายไพโรจน์ พิทักษ์ทวยหาญ ศึกษานิเทศก์ ชำนาญการพิเศษ สพป. เชียงใหม่ เขต ๑ ( ๓๑ มี. ค. ๕๗ )
แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคล Individualized Education Program (IEP)
ซอฟแวร์ที่น่าสนใจ จัดทำโดย นางสาวจุติภรณ์ ชาญเชี่ยว คณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 รหัสนิสิต
การสร้างสรรค์บทละคร.
สาระการเรียนรู้ที่ ๒ การเชื่อมประพจน์
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
หัวข้อการเรียน สัปดาห์ที่ ๓ ENL 3701
ชนิดของคำ คำอุทาน ครูศรีเรือน ยิ้มศรีเจริญกิจ
ENL 3701 Unit 2 การอ่านคืออะไร
การประเมินพัฒนาการทางภาษาตามแนวสมดุลภาษา
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการโปรแกรมคอมพิวเตอร์
สรุปการบรรยายของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ Evaluation of Global Health การสืบค้นองค์กรนานาชาติว่ามีองค์กรใดบ้างที่ให้ การสนับสนุนในด้านสุขภาพ เช่น 0.7.
(Demonstration speech)
ENL 3701 ภาษาศาสตร์และการอ่าน 1 Linguistics and Reading English 1
การเรียนทางคลินิก โดยใช้ปัญหาเป็นหลัก
ENL 3701 Unit 7 ปัญหาการอ่านในระยะเริ่ม เรียน. ลักษณะการอ่านเบื้องต้น หรือระยะเริ่มเรียน Beginning Reading (in English) Beginners in Reading – นักเรียนในชั้น.
บทที่ 6 Context Free Grammar และการแจกแจงประโยค.
หัวข้อการเรียน สัปดาห์ที่ ๔ ENL 3701
คำถามที่ให้ช่วยกันหาคำตอบ
หัวข้อการบรรยาย ENL 3701 Week #2
โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ
เรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม
วิทยาศาสตร์หมายถึงอะไร
ใบสำเนางานนำเสนอ:

Lesson 4 ไวยากรณ์และการอ่าน LI 395 Lesson 4 ไวยากรณ์และการอ่าน

หัวข้อที่จะเรียนในสัปดาห์นี้ ๑. ความหมายของไวยากรณ์ ๒. ความรู้เรื่องวจีวิภาคที่ใช้เป็นพื้นฐานในการอ่าน ๓. ความรู้เรื่องวากยสัมพันธ์ที่ใช้เป็นพื้นฐานในการอ่าน

๑. ความหมายของไวยากรณ์ ไวยากรณ์ (Grammar)โดยทั่วไปหมายถึงการศึกษาด้านโครงสร้างของคำ และความสัมพันธ์ของคำในประโยคของภาษาใดภาษาหนึ่ง อาจให้ความหมายได้ ๔ อย่าง (ตามพจนานุกรมการอ่านของสมาคมการอ่านนานาชาติ) ๑. คำอธิบายเกี่ยวกับภาษาใดภาษาหนึ่ง เพื่อให้ข้อมูลว่าภาษาทำหน้าที่อย่างไร ซึ่งจะรวมด้านเสียง ด้านคำ ด้านวจีวิภาคและด้านความหมายของโครงสร้างภาษาทั้งในปัจจุบันและในอดีตที่ผ่านมา

๒. วจีวิภาค (Morphology) และ วากยสัมพันธ์ ของภาษาใดภาษาหนึ่ง ๓. การศึกษาเชิงพรรณาของภาษาหนึ่งหรือหลายภาษา ๔. สิ่งที่ผู้พูดรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและการใช้ภาษาของตัวเองเพื่อการสื่อสารและความคิดริเริ่ม

ประเภทของไวยากรณ์ Frank Smith .ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องไวยากรณ์ว่า ๑. ไวยากรณ์ที่เราเรียนกันอยู่นี้ส่วนมากเป็นแบบเก่า (Traditional grammar) เป็นการพรรณาเกี่ยวกับหน้าที่ของคำ ซึ่งมีกฏต่างๆที่จะต้องปฎิบัติตาม ๒. ไวยากรณ์แบบใหม่ที่เน้นด้านความหมาย (Semantic grammar) ซึ่งอธิบายความหมายของโครงสร้างลึก (Deep structure) และโครงสร้างผิว (Surface structure) ซึ่งมีความแตกต่างในด้านแนวคิด (Concept) หลายประการ

ความรู้เรื่องวจีวิภาค (Morphology) ๑. คำและหน่วยคำ (Words and morphemes) คำประกอบขึ้นด้วยเสียงและความหมาย เช่นคำว่า talk, talks, talked, talker มีส่วนที่แตกต่างกันคือรูปและเสียงลงท้าย /-s/, /-ed/, และ /-er/ ส่วนที่แตกต่างนี้นับเป็นหน่วยของคำด้วย ซึ่งบางหน่วยให้ความหมาย เช่น /-s/, /-ed/ แสดงเวลาในปัจุบันและอดีต /-er/ แสดงเป็นผู้กระทำ เป็นต้น หน่วยของคำเหล่านี้อาจเปลี่ยนรูปไปตามเงื่อนไขต่างๆ ซึงเรียกว่า Allomorph เช่นหน่วยคำเดียวกันแต่เขียน และออกเสียงต่างกันตามสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน

เช่น hats, dogs, roses หน่วยคำ [ s ], จะออกเสียง เป็น /z/ เมื่อตามหลังพยัญชนะ [ g] หรือ [se] ซึ่งมีเสียงสั่นสะเทือนในสายเสียง เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีคำที่เปลี่ยนรูปสระ เช่น man-men, ox-oxen, drink-drank-drunk รูปสระที่เปลี่ยนไปพร้อมกับเสียง ก็เป็นหน่วยคำที่เกิดจากเงื่อนไขทางรูปคำและเสียง เพื่อบอกจำนวน (พจน์) และกาล (time aspect) เป็นต้น

ประเภทของหน่วยคำ ๑. หน่วยคำอิสระและหน่วยคำผูกพัน (Free and bound morpheme) write = หน่วยคำอิสระ writer, writing, written, [ -er], [-ing], [-en] เป็นหน่วยคำผูกพัน คืออาศัยคำอิสระ เพื่อแสดงความหมายที่เปลี่ยนไป ในตัวเองเมื่ออยู่เดี่ยวๆก็ไม่มีความหมายอะไร

๒. หน่วยคำทางความหมายและหน่วยคำทางไวยากรณ์ (Lexical and grammatical morphemes) เช่น boy, girl, man, เป็นหน่วยคำอิสระทางความหมาย แต่เวลาพูดเป็นกลุ่มคำหรือประโยค จะมีคำมาช่วยขยายความหรือแสดงอาการกระทำ เช่น A boy is standing. He is talking with a girl. A, is,-ing, He, with เป็นคำไวยากรณ์ ทำหน้าที่ให้ความหมายแก่คำอิสระในด้านต่างๆ เช่นบอกหน้าที่ แสดงอาการ กระทำ อ้างอิงคำอื่น เป็นต้น

๓. หน่วยคำแกนและหน่วยคำเติม (Roots and Affixes) เช่นคำว่า national, democracy Nat-, demo- เป็นหน่วยคำแกน คือเป็นรากศัพท์ของคำที่สร้างขึ้นใหม่ –ion+al, cracy, เป็นหน่วยคำเติม คือเป็นsuffix หรือปัจจัยที่เติมมาข้างหลังเพื่อทำให้เกิดคำใหม่ คำอื่นๆ เช่น preface, retain, illness หน่วยคำที่เติมมาข้างหน้า prefix, pre-, re-, ill- บวกกับรากศัพท์ ก็สร้างคำใหม่ขึ้นมา

๔. หน่วยคำผันและหน่วยคำคง (Derivational affixes and inflectional affixes) Happy--happiness, quickquickly, bookbooks, learnlearned ส่วนของคำ –ness, -ly เป็นหน่วยคำผัน คือทำให้คำอิสระเปลี่ยนรูปคำ (form)และหน้าที่(function)ไป ส่วน –s, -ed เป็นหน่วยคำคง คือทำหน้าที่เปลี่ยนรูปและความหมาย ไปตามกาล แต่ไม่ได้เปลี่ยนหน้าที่ (function)

ส่วนประกอบของคำ การสร้างคำจากหน่วยคำประเภทต่างๆจึงสามารถสร้างคำใหม่ขี้นมาได้หลายแบบ เช่น ๑. หน่วยอิสระ เป็นคำโดดเช่น pen, book, road, etc. ๒. หน่วยคำอิสระ + หน่วยคำอิสระ เช่น homework. Policeman, blackboard

๓. หน่วยคำอิสระ + หน่วยคำผูกพัน หน่วยคำผูกพัน + หน่วยคำอิสระ เช่น manner, unhappy ๔. หน่วยคำผูกพัน + หน่วยคำผูกพัน เช่น interesting, disappointment เป็นต้น

๓. ความรู้เรื่องวากยสัมพันธ์ (Syntax) วากยสัมพันธ์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียงคำ วลี ประกอบขึ้นเป็นประโยค มีกฏเกณฑ์ที่ต้องปฎิบัติ เพื่อการยอมรับและเข้าใจตามที่เจ้าของภาษานิยมกัน กฏเกณฑ์การสร้างประโยค (syntactic rules) เป็นตัวเชื่อมระหว่างภาษาระดับลึก (Deap structure) กับภาษาระดับผิว (Surface structure)

การสร้างประโยค ทำได้หลายวิธี เช่น ๑. การเรียงลำดับคำ (word order) เพื่อสื่อความหมาย เช่น Dogs chase cats. กับ Cats chase dog. มีความหมายต่างกัน เพราะมีการสับเปลี่ยนคำใหม่ ๒. ความสัมพันธ์ของคำ (Constituents of words) แสดงถึงความใกล้ชิดของคำที่อยู่ในประโยค เช่น the boy jumped (the boy + jumped, The+boy, jumped) เมื่อประโยคยาวขึ้น ส่วนประชิด (constituency) ก็จะต่างออกไป

โครงสร้างประโยคแบบใหม่ Deep structure ได้แก่โครงสร้างภาษาที่มีความหมายรองรับโครงสร้างอื่นๆที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น 3. Are you hungry? จะมาจากโครงสร้างเดิมคือ 2 2. You are hungry. :ซึ่งเปลี่ยนมาจาก 1. 1.Hungry(you) (are) ประโยค 1, 2 เป็นprimary & deep structure ประโยค 3 เป็น Surface structure ซึ่งเปลี่ยนมา จากโครงสร้างที่รองรับด้านความหมายต้นๆ

ไวยากรณ์แบบปริวรรตและไวยากรณ์แบบสัมพันธ์ความหมายเป็นรายกรณี ๑.ไวยากรณ์ปริวรรต (Transformation Grammar) ผู้บุกเบิก Noam Chomsky ๒.ไวยากรณ์แบบสัมพันธ์ความหมายเป็นรายกรณี (Generative semantics or Case Grammar) แนวคิด แบบ ๑ โครงสร้างนำไปสู่ความหมาย แบบ ๒ ความหมายนำไปสู่โครงสร้าง