PHP: [6] ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
บทที่ 2 รหัสควบคุมและการคำนวณ
Advertisements

บทที่ 2 รหัสควบคุมและการคำนวณ
การเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งเบื้องต้น
บทที่ 7 รีเคอร์ซีฟ ระหว่างการออกแบบเขียนโปรแกรมแบบบนลงล่าง (Top-down Design) จะมีงานย่อย(Subtask) เพื่อแก้ปัญหาในแต่ละเรื่อง และผู้เขียนโปรแกรมต้องการใช้งานย่อยในลักษณะที่เรียกตัวเองขึ้นมาทำงาน.
การกำหนดรายการหัวข้อ
หลักการโปรแกรม 1 Lecture 3: ตัวแปร, นิพจน์คณิตศาสตร์, การคำนวณทางคณิตศาสตร์,การดำเนินการกับสายอักขระ.
Structure Programming
Structure Programming
Function.
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโปรแกรม Microsoft Office Access 2003
ฟังก์ชันตรวจสอบเงื่อนไข
บทที่ 3 พื้นฐานการเขียนโปรแกรม Visual Basic
รับและแสดงผลข้อมูล.
PHP LANGUAGE.
การกำหนดลักษณะของตัวอักษร
PHP LANGUAGE.
Lecture no. 2: Overview of C Programming
เรื่อง ประเภทของข้อมูล
การประกาศตัวแปร “ตัวแปร” คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เก็บค่าต่างๆและอ้างอิงใช้งานภายในโปรแกรม ตามที่เรากำหนดขึ้น การสร้างตัวแปรขึ้นมาเราเรียกว่า.
โครงสร้าง HTML โครงสร้างพื้นฐาน HTML คำสั่งขึ้นบรรทัดใหม่ <BR>
ขั้นตอนการแปลงไฟล์.
C Programming Lecture no. 6: Function.
SCC : Suthida Chaichomchuen
FUNCTION File Week 7 by Mr. Jiraphan Srisomphan. 2 แสดงชื่อไฟล์ในไดเรกทรอรี่ด้วย Dir() >Handle-> เก็บค่าเลขรหัสของได เรกทรอรี่ที่สร้างขึ้น >Path-> เก็บรายชื่อพาธของไดเรก.
SC131 ภาคต้น 2550 การอ่านและเขียนสตรีม
Introduction to php Professional Home Page :PHP
บทที่ 7 รีเคอร์ซีฟ ระหว่างการออกแบบเขียนโปรแกรมแบบบนลงล่าง (Top-down Design) จะมีงานย่อย(Subtask) เพื่อแก้ปัญหาในแต่ละเรื่อง และผู้เขียนโปรแกรมต้องการใช้งานย่อยในลักษณะที่เรียกตัวเองขึ้นมาทำงานลักษณะของฟังก์ชั่นมีความรอบรัดสั้นกว่าแบบวนลูป.
ตัวแปร (Variable) คือ ชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเก็บข้อมูลในหน่วยความจำ สามารถเก็บข้อมูลชนิดใดก็ ได้ ลักษณะที่สำคัญ ค่าที่จัดเก็บ เมื่อปิดโปรแกรมข้อมูลจะหายไป.
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
ครูรัตติยา บุญเกิด.
ฟังก์ชันรับข้อมูล ง30212 การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 3 โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี
ใบงานที่ 7 การรับและแสดงผลข้อมูล
โปรแกรมภาษาจาวาเบื้องต้น Basic Java Programming 3(2-2-5)
ประวัติความเป็นมาภาษาซี
HTML, PHP.
ตัวแปร ชนิดข้อมูล และค่าคงที่
ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง
บทที่ 10 การทำงานกับ ข้อความ (string). สตริงในภาษา PHP ASCII (American Standard Code for Information Interchange) จำนวน 8 บิต เก็บได้ 256 ตัว Unicode.
ตัวแปรกับชนิดของข้อมูล
ตัวแปร ชนิดข้อมูล และ ตัวดำเนินการใน PHP
การเขียนผังงานแบบทำซ้ำ
Week 12 Engineering Problem 2
เสรี ชิโนดม ฟังก์ชัน เสรี ชิโนดม
วิทยา กรระสี (วท.บ. วิทยาการคอมพิวเตอร์)
ฟังก์ชัน.
การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 1
การเขียนโปรแกรม ตอนที่ 1 (ต่อ)
วิชา COSC2202 โครงสร้างข้อมูล (Data Structure)
CHAPTER 3 System Variables and Array
หลักการเขียนโปรแกรม ( )
Overview of C Programming
โปรแกรมฐานข้อมูลที่นิยมใช้
PHP: [8] การสร้างฟังก์ชั่นขึ้นใช้เอง (User-defined functions)
คำสั่งเกี่ยวกับการรับ และแสดงผล
การสร้างแบบสอบถาม และ การกำหนดเงื่อนไข.
โครงสร้างโปรแกรมภาษาซี
บทที่ 9 พอยเตอร์. สื่อชุดนี้เป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์วังอักษรใช้เพื่อ การศึกษาเท่านั้น พอยเตอร์ (Pointer) พอยเตอร์คือต้นฉบับของชนิดข้อมูล เป็นชนิด ข้อมูลที่สร้างจากข้อมูลมาตรฐานชนิดหนึ่ง.
Java Programming Java Structure and Datatype,Variable
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 1
CHAPTER 7 String Functions and Regular Expression
รู้จักกับ Microsoft Access 2003
XML ( Extensible Markup Language ). ภาษาที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถ นิยามความหมายของข้อมูลได้ หรือที่เรียกว่า Data definition โดยอนุญาตให้ผู้ใช้นิยามแท็ก.
บทที่ 5 รหัสควบคุมและ การคำนวณ C Programming C-Programming.
Data Structure and Algorithms
การกระทำทางคณิตศาสตร์
1 Functions กนกวรรธน์ เซี่ยงเจ็น สำนักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร พะเยา.
Variable, Constant. Variable คือชื่อที่ตั้งขึ้นมาเพื่อจองพื้นที่ใน หน่วยความจำสำหรับ พักข้อมูล.
โครงสร้างของภาษา HTML
หลักการทั่วไปเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม
ใบสำเนางานนำเสนอ:

PHP: [6] ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง

ฟังก์ชั่น (Functions) ฟังก์ชั่น (Functions) หมายถึง กลุ่มของคำสั่งที่ถูกนำมารวบรวมไว้ด้วยกัน เพื่อให้สามารถเรียกใช้ได้อย่างสะดวกและเป็นระบบ ใน PHP มีฟังก์ชั่นอยู่ 2 ชนิด ดังนี้ ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมไว้ให้ ฟังก์ชั่นที่ผู้เขียนโปรแกรมสร้างขึ้นมาใช้เองเรียกว่า User-defined functions

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น addslashed() ใช้เพิ่มเครื่องหมาย backslash(\) ให้กับอักษรพิเศษ 3 ตัว คือ double quote ("), single quote (') และ backslash (\) ฟังก์ชั่น chr() และ ord() chr() จะใช้ส่งตัวอักษรตามค่าแอสกี้ที่ระบุกลับมา เช่น chr(65) จะได้ตัวอักษร A กลับมา ord() จะใช้ส่งลำดับแอสกี้ของตัวอักษรกลับมา เช่น ord(“A”) จะได้ค่า 65 กลับมา ฟังก์ชั่น crypt() ใช้เข้ารหัสข้อความ

ตัวอย่าง <html> <head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $str = "Is your name O'reilly?"; // Outputs: Is your name O\'reilly? echo addslashes($str) . "<br />"; echo chr(65) . "<br />"; echo ord("A") . "<br />"; ?> </body> </html> ex10_01.php

ตัวอย่าง <html> <head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $myname = "สมโภชน์"; for ($i=1; $i<=3; $i++) { echo "ครั้งที่ $i : " . crypt($myname) . "<br />\n"; } ?> </body> </html> ex10_02.php

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น md5() ใช้เข้ารหัสข้อความด้วยวิธี Message-Digest Algorithm ของ RSA Data Security, Inc. ฟังก์ชั่นนี้มีแบบแผนในการเข้ารหัสที่แน่นอน โดยผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นสตริงที่มีความยาว 32 ตัวอักษร

ตัวอย่าง <html> <head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $myname = "สมโภชน์"; for ($i=1; $i<=3; $i++) { echo "ครั้งที่ $i : " . md5($myname) . "<br />\n"; } ?> </body> </html> ex10_03.php

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น explode() และ implode() explode() ใช้แบ่งข้อความออกเป็นส่วนย่อย ๆ โดยขึ้นอยู่กับตัวแยก (delimeter) ที่กำหนด และส่งผลลัพธ์กลับมาเป็นอาร์เรย์ที่มีข้อความย่อย ๆ เหล่านั้นเป็นสมาชิก รูปแบบ explode (สัญลักษณ์ที่ใช้แยก, ข้อความ) implode() ใช้นำข้อมูลจากอาร์เรย์มาประกอบกันเป็นข้อมูลชนิดสตริงตัวเดียว (ทำตรงข้ามกับ explode()) รูปแบบ implode (สัญลักษณ์ที่ใช้คั่น, อาร์เรย์)

ตัวอย่าง <html><head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head><body> <?php $mystr = "นาย เด็ดเดี่ยว ดวงดี webmaster"; //ใช้ช่องว่างเป็นตัวแยกข้อความ $a = explode(" ", $mystr); for ($i=0; $i<count($a); $i++) { echo "สมาชิกของอาร์เรย์ที่มีอินเด็กซ์ $i: " . $a[$i] . "<br />\n"; } ?> </body></html> ex10_04.php

ตัวอย่าง <html> <head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $a = array("นาย", "เด็ดเดี่ยว", "ดวงดี", "webmaster"); $mystr = implode("+", $a); echo $mystr; ?> </body> </html> ex10_05.php

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น htmlspecialchars() และ nl2br() htmlspecialchars() เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้เปลี่ยนตัวอักษรซึ่งมีความหมายพิเศษต่อเว็บบราวเซอร์ เช่น < , > ,& ,",' ให้อยู่ในรูปแบบที่เว็บบราวเซอร์สามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้อง เช่น > จะถูกเปลี่ยนเป็น > เป็นต้น nl2br() ใช้แทรกแท็ก <br> หรือแท็ก <br /> (แท็ก <br /> เป็นแท็กตามมาตรฐาน XHTML)

ตัวอย่าง <html> <head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $mystr = "<font color=red><b>ข้อความทดสอบ</b></font>"; echo "1: $mystr<br />\n"; echo "2: " . htmlspecialchars($mystr); echo nl2br("\n Bye bye"); ?> </body> </html> ex10_06.php

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น strcmp() ใช้เปรียบเทียบสตริง 2 ชุด โดยให้ความสำคัญกับตัวอักษรพิมพ์ใหญ่-เล็กของภาษาอังกฤษ (Case sensitive) รูปแบบ strcmp (สตริง 1, สตริง 2) ค่าที่ฟังก์ชั่น strcmp() ส่งคืนมาให้ มีดังนี้ - ค่าลบ (น้อยกว่า 0) แสดงว่าสตริงชุดแรกน้อยกว่า - ค่าบวก (มากกว่า 0) แสดงว่าสตริงชุดที่ 1 มากกว่า - 0 แสดงว่าสตริงชุดที่ 1 เท่ากับสตริงชุดที่ 2

ตัวอย่าง <html> <head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $str1 = "123"; $str2 = "123"; echo strcmp($str1, $str2); ?> </body> </html> ex10_07.php

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น strlen() และ strrev() strlen() ใช้นับจำนวนตัวอักษรในสตริง (ความยาวของสตริง) strrev() ใช้กลับลำดับของตัวอักษรในสตริง

ตัวอย่าง <html> <head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $mystr = "คนไทย This is a book."; echo "จำนวนตัวอักษร = " . strlen($mystr) . "<br />\n"; echo "reversed string : " . strrev($mystr); ?> </body> </html> ex10_08.php

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น substr() ใช้ดึงข้อความส่วนที่ต้องการออกมาจากข้อความที่กำหนด รูปแบบ substring (สตริง, จุดเริ่มต้น, ความยาว)

ตัวอย่าง <html><head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $mystr = "คนไทย"; for ($i=1; $i<=strlen($mystr); $i++) { echo substr($mystr, 0, $i) . "<br />\n"; } ?> </body></html> ex10_09.php

ฟังก์ชั่นที่ PHP จัดเตรียมให้ : ฟังก์ชั่นเกี่ยวกับสตริง ฟังก์ชั่น trim(), ltrim(), rtrim trim() ใช้ตัด whitespace (ตัวอักษรที่ไม่มีหน้าตา เช่น ช่องว่าง, แท็บ, ตัวอักษรขึ้นบรรทัดใหม่ เป็นต้น) ทางด้านหน้าและด้านหลังของข้อความออกไป ltrim() ใช้ตัด whitespace เฉพาะทางด้านหน้าของข้อความ rtrim() ใช้ตัด whitespace เฉพาะทางด้านหลังของข้อความ

ตัวอย่าง <html><head> <title>การใช้ฟังก์ชั่นสตริง</title> </head> <body> <?php $mystr = " ประเทศไทย "; echo "\$mystr มีความยาว " . strlen($mystr) . " ตัวอักษร<br />\n"; $lmystr = ltrim($mystr); echo "\$lmystr มีความยาว " . strlen($lmystr) . " ตัวอักษร<br />\n"; $rmystr = rtrim($mystr); echo "\$rmystr มีความยาว " . strlen($rmystr) . " ตัวอักษร<br />\n"; $absmystr = trim($mystr); echo "\$absmystr มีความยาว " . strlen($absmystr) . " ตัวอักษร<br />\n"; ?> </body></html> ex10_10.php