Smart Card นำมาประยุกต์ใช้งานด้านต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิต, บัตรแทนเงินสด,บัตรแทนสมุดเงินฝาก,บัตรประชาชน,บัตรสุขภาพ,บัตรสุขภาพ,เวชทะเบียนหรือบันทึกการตรวจรักษา บัตรบันทึกการเข้าออกสถานที่ เป็นต้น จุดเด่นสามารถประมวลผลด้วยตนเอง และระบบความปลอดภัยสูง
บัตรแถบแม่เหล็ก
บัตรแถบแม่เหล็ก เช่นบัตรเครดิต เดบิต ที่ใช้ กันอยู่ปัจจุบัน การออกแบบจะง่ายต่อการจัดแบ่งข้อมูล ดังรูปภาพ แบ่งข้อมูลออกเป็นแทร็ก ทำให้ง่ายต่อการจัดแบ่งข้อมูลออกเป็นกลุ่ม
พื้นฐานของ Smart Card แนวคิดมาจากการนำ ชิปหน่วยความจำ (EEPROM) มาฝังในบัตรพลาสติก โดยมีหน้าสัมผัสเป็นขาเชื่อมต่อกับระบบภายนอก และในการเชื่อมต่อต้องมีการป้อนกระแสไฟฟ้าให้ชิปสามารถทำงานได้ การสั่งงานทำได้โดยการเชื่อมสัญญาณผ่านหน้าสัมผัสที่กำหนด อาจไม่เหมาะสำหรับบัตรขนาดเล็ก เนื่องจากขาสัญญาณของหน่วยความจำ Bus มีจำนวนน้อย เพราะยิ่งหน่วยความจำที่มีความจุสูง ๆ ยิ่งต้องใช้สัญญาณอ้างอิงตำแหน่งของข้อมูล Address Bus ,มาก จึงมีการนำเอาระบบสื่อสารแบบ single bus มาใช้ในการรับส่งข้อมูล
ข้อดีของการนำเอาชิปหน่วยความจำมาใส่ในบัตรพลาสติก ความจุมากกว่า ไม่มีผลต่อสนามแม่เหล็ก ไม่มีผลต่อรอยขีดข่วน ข้อเหมือนกับบัตรแถบแม่เหล็กก็คือ สามารถทำการอ่านและเขียนข้อมูลได้อย่างอิสระ จึงถือได้ว่าความปลอดภัยของข้อมูลถือเป็นศูนย์ นั่นคือไม่มีความลับ
ดังนั้นจึงมีการเพิ่มวงจรสำหรับป้องกันลงไป เพื่อให้ สามารถกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลแต่ละไบต์ด้วยวงจร ที่เมื่อกำหนดเงื่อนไขไปแล้วไม่สามารถแก้ไขได้อีก ต่อมาจึงมีการออกแบบวงจรที่สามารถกำหนด PIN สำหรับเข้าถึงข้อมูลในบัตร ซึ่งต้องทำการแสดงกุญแจรหัสทุกครั้งที่บัตรเริ่มทำงาน และยังสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสได้อีกด้วย
ต่อมามีการเอา Microcontroller ส่วนมากเรียก Microprocesse ทำให้เกิดความซับซ้อนยิ่งขึ้น ต้องเขียนเป็นชุดคำสั่ง แล้วส่งให้ชิป Microprocessor ทำงานแทน และทำให้ต้องเพิ่มส่วนของหน่วยความจำโปรแกรม (OS-Operating System) ยังมี Smart Card อีกประเภทหนึ่งคือ ไม่ใช้หน้าสัมผัส (Contactless) แต่ใช้คลื่นวิทยุส่วนหนึ่งมาเป็นกระแสไฟฟ้าสำหรับป้อนชิป และอีกส่วนหนึ่งมาดีเทกเอาข้อมูลคำสั่งให้ชิป ซึ่งได้รับความนิยมมาก แต่ราคาก็สูง
องค์ประกอบในการใช้งานสมาร์ตการ์ด ตัวบัตรและตัวชิป สามาร์ตการ์ดรีดเดอร์ ชอฟแวร์
ชนิดของ Smart Card
จากรูปสามารถแบ่งสมาร์ตการ์ดได้ 2 ชนิดคือ 1. Memory Card 2. Processor Card
Memory Card (Synchronous Card) รับส่งข้อมูลตามสัญญาณนาฬิกาที่ป้อนให้แก่ชิป
Processor Card (Asynchronous Card) ปรับปรุงโดยการใส่เทคโนโลยีไมโครโปรเซสเซอร์เข้าไปในชิป เพื่อให้สามารถประมวลผลได้ และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ข้อมูล และมีความเร็วในการทำงานสูงกว่าสมาร์ตการ์ดชนิด Memory หลายเท่า
Contactless Card เป็นสมาร์ตการ์ด ที่ล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน การสื่อสารผ่านคลื่อวิทยุ ที่ได้รับการมอดูเลตข้อมูลและส่งให้กับชิป ส่วนชิปสมาร์ตการ์ดจะใช้ขดลวดเป็นเสารับ ส่งสัญญาณ และจะถูกฝังในเนื้อบัตร จึงดูแทบจะไม่ออกว่าเป็นสมาร์ตการ์ด นอกจากนี้ยังมีการรวมเอาสมาร์ตการ์ดชนิด Contactless และ Contact ไว้บนบัตรเดียวกัน
แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. Com Bi Card เป็นการรวมกันระหว่าง contact card and contactless เข้าด้วยกัน
2. Hybrid Card หน่วยความจำจะถูกแยกจากกันระหว่าง contact and contactless เพื่อความสะดวกในการใช้งาน Hybrid Card จะรวมถึงบัตรที่มีคุณสมบัติในการใช้งานตั้งแต่สองอย่างขึ้นไป เช่นสมาร์ตการ์ดที่มีทั้งชิปสมาร์ตการ์ดและแถบแม่เหล็ก , บัตรสมาร์ตการ์ดที่เป็นทั้ง contact และ contactless