แผนผังคาร์โนห์ Kanaugh Map

Slides:



Advertisements
งานนำเสนอที่คล้ายกัน
ตารางค่าความจริง คือ อะไร
Advertisements

การทดลองที่ 5 วงจรนับ (Counter)
พีชคณิตบูลีน Boolean Algebra.
ลอจิกเกต (Logic Gate).
การประยุกต์ Logic Gates ภาค 2
เลขฐานต่าง ๆ อ.มิ่งขวัญ กันจินะ.
เกตทางตรรกและพีชคณิตแบบบูล
การแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์
วงจรดิจิตอล Digital Circuits Wadchara.
การแทนค่าข้อมูล และ Primary Storage (Memory)
CS Assembly Language Programming
ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มิถุนายน ๒๕๕๒
NUMBER SYSTEM เลขฐานสิบ (Decimal Number) เลขฐานสอง (Binary Number)
สมการเชิงอนุพันธ์อย่างง่าย
แคลคูลัส (Calculus) : ศึกษาเกี่ยวกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของตัวแปร หนึ่งเทียบกับตัวแปรอื่นๆ 1. ฟังก์ชัน เรากล่าวได้ว่า y เป็นฟังก์ชันของ x เมื่อมีความสัมพันธ์ระหว่าง.
EEE 271 Digital Techniques
Minimization วัตถุประสงค์ของบทเรียน
Digital Logic and Circuit Design
Combination Logic Circuit
Number Representations
Arithmetic circuits Binary addition Binary Subtraction
-- Introduction to Sequential Devices Digital System Design I
ดิจิตอล + เลขฐาน บทที่ 2.
การลดรูป Logic Gates บทที่ 6.
Flip-Flop บทที่ 8.
ดร.สุรศักดิ์ มังสิงห์ SPU, Computer Science Dept.
บทที่ 3 ตัวดำเนินการ และ นิพจน์
ASSIGN3-4. InstructionResult Z-FlagC-FlagP-FlagS-FlagO-Flag MOV AL,9Eh 9Eh H ????? ADDAL,9Eh 3C ADD AL,1Eh 5A
ความหมายของตัวเลขในหลักต่าง ๆ
C# Operation สุพจน์ สวัตติวงศ์ Reference:
ทำการตั้งเบิกเพิ่ม แบบฟอร์ม GFMIS.ขบ.03 เพื่อชดใช้ใบสำคัญ
Debug #2 โครงสร้างคอมพิวเตอร์ และภาษาแอสเซมบลี้
ระบบเลขฐาน (Radix Number)
รูปแบบคาโนนิคัล หรือรูปแบบบัญญัติ หรือรูปแบบมาตรฐาน canonical forms
เกท (Gate) AND Gate OR Gate NOT Gate NAND Gate NOR Gate XNOR Gate
Flip Flop ฟลิบฟล็อบ Flip Flop เป็น Multivibrator ชนิด Bistable คือ มี Output คงที่ 2 สภาวะ คำว่าคงที่ คือ คงอยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่งโดยไม่จำกัดเวลา จนกว่าจะมี
ทฤษฎีของพีชคณิตบูลีน (Boolean algebra laws)
การวิเคราะห์และสังเคราะห์เกต
อาจารย์สายสุนีย์ เจริญสุข
ERROR (Data Link Layer)
ตอนที่ 4 ความรู้พื้นฐานทางดิจิตอล
ค33212 คณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ 6
การแปลงเลขฐานใดๆเป็นฐานใดๆ
ค21201 คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 1
(สถิตยศาสตร์วิศวกรรม)
Block Cipher Principles
1. สีสันหรือฮิว(HUE) หมายถึง สีที่ตาเรามองเห็น
สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Architecture)
การแทนข้อมูล คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งใช้สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ในการทำงานเพื่อเก็บข้อมูล ประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ การมองเห็นข้อมูลของคอมพิวเตอร์กับการมองเห็นข้อมูลของผู้ใช้จะไม่เหมือนกัน.
วงจรนับ (COUNTER CIRCUIT)
พีชคณิตบูลีน และการออกแบบวงจรลอจิก (Boolean Algebra and Design of Logic Circuit)
CS Assembly Language Programming
ระบบคอมพิวเตอร์และการประมวลผล
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ ระดับอุดมศึกษา เรื่อง วิธีการกำหนดระดับความสามารถของผู้เรียน วิทยากร : รองศาสตราจารย์ ดร. สุพัฒน์ สุกมลสันต์ เวลา น .
ง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ระบบเลขฐาน
ระบบเลขในคอมพิวเตอร์
LAB 1. การเขียนสมการลอจิก จากวงจรลอจิก
Gate & Circuits.
การแทนรหัสข้อมูล Base numbers Data representation.
Introduction to Computer Organization and Architecture Introduction to Computer Organization and Architecture Episode 3 Numbers Representation.
Introduction to Digital System
ระบบเลขจำนวน ( Number System )
การทดลองสุ่มและแซมเปิ้ลสเปซ
ลิมิตและความต่อเนื่องของฟังก์ชัน
ครั้งที่ 3 การวิเคราะห์ และ ออกแบบวงจรเกต
หลักเกณฑ์และวิธีการจัดเตรียมคำขอรับ สิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตร
Timing diagram ปรับปรุง 19 มีนาคม
ติว ม. 6 วันที่ 15 ก.ค 2558.
บทที่ 2 การวัด.
เส้นขนาน.
ใบสำเนางานนำเสนอ:

แผนผังคาร์โนห์ Kanaugh Map การลดรูป Boolean Expression หรือ Switching Function ให้สั้นที่สุด สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่ง Kanaugh Map เป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยให้การลดรูปทำได้ง่าย และมีข้อผิดพลาดน้อยกว่าการใช้ Boolean Theory book_digitaltechnique1.pdf p.

Karnaugh Map 2 ตัวแปร เพียงแบบฟอร์ม มีที่มาจากฐาน 2 A B 1 2 1 3 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบให้ความหมาย AB (1/3) 1 2 A=0,B=0 A=1,B=0 1 3 A=0,B=1 A=1,B=1 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบให้ความหมาย AB (2/3) (1*21) + (1*20) = 3 A B 1 002 102 012 112 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบให้ความหมาย AB (3/3) A' = A A B 1 A' B' A B' A' B A B 1

Karnaugh Map 3 ตัวแปร แบบให้ความหมาย ABC 0 = A' = A AB 00 01 10 11 C 0002=0 A' B' C' 0102=2 A' B C' 1002=4 A B' C' 1102=6 A B C' 0012=1 A' B' C 0112=3 A' B C 1012=5 A B' C 1112=7 A B C 1

Karnaugh Map 4 ตัวแปร แบบให้ความหมาย ABCD 00 01 10 11 CD 00002=0 A' B' C' D' 01002=4 A' B C' D' 10002=8 A B' C' D' 11002=12 A B C' D' 00 00012=1 A' B' C' D 01012=5 A' B C' D 10012=9 A B' C' D 11012=13 A B C' D 01 00102=2 A' B' C D' 01102=6 A' B C D' 10102=10 A B' C D' 11102=14 A B C D' 10 00112=3 A' B' C D 01112=7 A' B C D 10112=11 A B' C D 11112=15 A B C D 11

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบมองตัวแปร (1/6) B 1 A 1 1 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบมองตัวแปร (2/6) B 1 A 1 1 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบมองตัวแปร (3/6) B 1 B 1 1 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบมองตัวแปร (4/6) B 1 B 1 1 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบมองตัวแปร (5/6) B 1 AB+AB 1 1 1

Karnaugh Map 2 ตัวแปร แบบมองตัวแปร (6/6) B 1 A+B = AB 1 1 1 1

จงเขียน Karnaugh Map แสดงโอกาสการเปิดอัตโนมัติ ของหลอดไฟฟ้าบนเสาไฟที่ส่องแสงตามแสงอาทิตย์ 1. กำหนดเงื่อนไข เงื่อนไขแรก ส่องแสงเมื่อพระอาทิตย์ตก = A เงื่อนไขที่สอง ส่องแสงเมื่อนำถุงดำคลุมกล่องตรวจวัดแสง = B 2. เขียนฟังก์ชัน f(A,B) = A + B 3. เขียน Karnaugh Map และเขียนฟังก์ชั่นใหม่ A 1 B 1 A+B = A . B 1 1 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 1/15 ) 1 1 1 1 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = A AB 00 01 10 11 CD 00 1 1 01 1 1 10 1 1 11 1 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 2/15 ) 1 1 1 1 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = B AB 00 01 10 11 CD 00 1 1 01 1 1 10 1 1 11 1 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 3/15 ) 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = A . B AB 00 01 10 11 CD 00 1 01 1 10 1 11 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 4/15 ) 1 1 1 1 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = A + B AB 00 01 10 11 CD 00 1 1 1 01 1 1 1 10 1 1 1 11 1 1 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 5/15 ) 1 1 f(A,B,C,D) = A . B . C AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 1 11 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 6/15 ) 1 f(A,B,C,D) = A . B . C . D AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 7/15 ) 1 1 1 1 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = A AB 00 01 10 11 CD 1 1 00 01 1 1 10 1 1 11 1 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 8/15 ) 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = A . B AB 00 01 10 11 CD 1 00 01 1 10 1 11 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 9/15 ) 1 1 f(A,B,C,D) = A . B . C AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 1 11 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 10/15 ) 1 1 1 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = (A B + A B ) AB 00 01 10 11 CD 1 1 00 01 1 1 10 1 1 11 1 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 11/15 ) 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = (A . B . D) + (A' . B' . D) AB 00 01 10 11 CD 00 01 1 1 10 11 1 1

Function ต่าง ๆ ( 12/15 ) ลดใน 13 f(A,B,C,D) = (A'BC'D )+(A'BCD') +(AB'C'D) +(AB'CD') AB 00 01 10 11 CD 00 01 1 1 10 1 1 11

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 13/15 ) 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = (A B + A B ) (C D + C D ) AB 00 01 10 11 CD 00 01 1 1 10 1 1 11

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 14/15 ) 1 1 1 1 f(A,B,C,D) = (ABC'D')+(ABC'D) +(ABCD') +(ABCD) = AB AB 00 01 10 11 CD 00 1 01 1 10 1 11 1

AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 11 Function ต่าง ๆ ( 15/15 ) 1 1 f(A,B,C,D) = (ABCD')+(ABCD) +(DCBA) +(AD'BC) = ABC AB 00 01 10 11 CD 00 01 10 1 11 1

Switching Function ของ 1 คือ Minterm f(A,B,C,D) = m(0,1,2,3,15)= (A . B) + (A . B . C . D) AB 00 01 10 11 CD 00 1 01 1 10 1 11 1 1

จงลดรูป Switching Function ด้วย Karnaugh Map (1/3) 1. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + C 2. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + C 3. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + C 4. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + C 5. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + (A . B) + C 6. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + (A . B) + C 7. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + (A . B) + C 8. f(A,B) = (A . B) + (A . B) + (A . B) + (A . B) + C [1].p87

จงลดรูป Switching Function ด้วย Karnaugh Map (2/3) 1. f(A,B) = (A + B) (A + B) (C + D) 2. f(A,B) = (A + B) (A + B) (C + D) 3. f(A,B) = (A + B) (A + B) (C + D) 4. f(A,B) = (A + B) (A + B) (C + D) 5. f(A,B) = (A + B) (A + B) (A + B) (C + D) 6. f(A,B) = (A + B) (A + B) (A + B) (C + D) 7. f(A,B) = (A + B) (A + B) (A + B) (C + D) 8. f(A,B) = (A + B) (A + B) (A + B) (A + B) (C + D) [1].p89

จงลดรูป Switching Function ด้วย Karnaugh Map (3/3) 1. f(A,B,C,D) = m(0,1,2,3,4,6,8,10,12,14) 2. f(A,B,C,D) = m(1,3,4,6,9,11,12,14) 3. f(A,B,C,D) = m(0,1,2,3,4,6,9,11) 4. f(A,B,C,D) = m(1,3,6,7,8,9,12,13) 5. f(A,B,C,D) = m(1,8,10,12,13,14,15) 6. f(A,B,C,D) = m(0,2,4,6,8,10) [1].p102

เปลี่ยน Switching Function เป็น NAND f(A,B,C,D) = m(0,1,2,3,15) = (A . B) + (A . B . C . D) = (A . B) + (A . B . C . D) = (A . B) (A . B . C . D) คล้าย [1]p.109 การเปลี่ยน and เป็น or คือ การแยก not ออกจากกัน การเปลี่ยน or เป็น and คือ การแยก not ออกจากกัน เช่นกัน A B f(A,B,C,D) C D