หน่วยที่ 3 การกำหนดขึ้นเป็นราคาดุลยภาพ หน่วยที่ 3 การกำหนดขึ้นเป็นราคาดุลยภาพ ราคาดุลยภาพ (Equilibrium Price) คือ ระดับราคาที่ทำให้ปริมาณเสนอซื้อและ ปริมาณเสนอขายเท่ากันพอดี
ตารางแสดงราคาดุลยภาพและปริมาณดุลยภาพ ปริมาณซื้อ ราคา ปริมาณขาย 210 150 100 60 30 10 3 4 5 6 7 8 130 160
P Q 15 20 D S 5 100 จุดดุลยภาพ ราคาดุลยภาพ ปริมาณดุลยภาพ
ราคาดุลยภาพ ระดับราคาที่ปริมาณสินค้าและบริการที่ ผู้บริโภคต้องการซื้อในขณะนั้นเท่ากับจำนวน สินค้าและบริการที่ผู้ผลิตต้องการขายใน ขณะเดียวกันนั้นพอดี (Qd = Qs) ปริมาณดุลยภาพ ปริมาณสินค้าและบริการที่ระดับราคาดุลยภาพ
อุปทานส่วนเกิน S D 28 8 Supply > Demand = 28 - 8 = 20 P Q 10 5 15 10 5 15 20 25 30 D S 28 8 อุปทานส่วนเกิน = 28 - 8 = 20
S D 26 16 Demand > Supply = 26 - 16 = 10 อุปสงค์ส่วนเกิน P Q 10 5 10 5 15 20 25 30 D S 26 16 Demand > Supply = 26 - 16 = 10 อุปสงค์ส่วนเกิน
การเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพ อุปสงค์ อุปทาน และภาวะดุลภาพ/การเปลี่ยนแปลงภาวะดุล หนังสือหน้า 30 เลขหน้า 2/44 การเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพ โดยปกติ ภาวะดุลยภาพของตลาดจะดำรงอยู่ได้นาน ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ตราบเท่าที่อุปสงค์และอุปทานยังไม่ เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าปัจจัยกำหนดอุปสงค์และอุปทาน ตัวใด ตัวหนึ่งหรือหลายตัว (ยกเว้นราคาของสินค้าและบริการชนิด นั้น) เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมีผลทำให้เส้นอุปสงค์หรือเส้น อุปทานเปลี่ยนแปลงไปแล้วย่อมทำให้ภาวะดุลภาพ เปลี่ยนแปลงไปด้วย
กรณีเกิดการย้ายเส้นอุปสงค์ในขณะที่เส้นอุปทานอยู่คงที่ 1.1 กรณีอุปสงค์เพิ่ม P Q D1 S1 E1 P1 Q1 D2 E2 P2 Q2 Q3
กรณีเกิดการย้ายเส้นอุปสงค์ในขณะที่เส้นอุปทานอยู่คงที่ 1.2 กรณีอุปสงค์ลด P Q D1 S1 E1 P1 Q1 D2 E2 Q3 P2 Q2
กรณีเกิดการย้ายเส้นอุปทานในขณะที่เส้นอุปสงค์อยู่คงที่ 2.1 กรณีอุปทานเพิ่ม P Q D1 S1 E1 P1 Q1 S2 E2 Q3 P2 Q2
กรณีเกิดการย้ายเส้นอุปทานในขณะที่เส้นอุปสงค์อยู่คงที่ 2.2 กรณีอุปทานลด S2 P Q D1 S1 E1 P1 Q1 E2 P2 Q2 Q3
3 อุปสงค์และอุปทานเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันในทิศทางเดียวกัน อุปสงค์ อุปทาน และภาวะดุลภาพ/การเปลี่ยนแปลงภาวะดุล หนังสือหน้า 31 เลขหน้า 2/47 3 อุปสงค์และอุปทานเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันในทิศทางเดียวกัน
4 อุปสงค์และอุปทานเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกันในทิศทางตรงกันข้าม
อุปสงค์เพิ่ม = อุปทานลด อุปสงค์เพิ่ม = อุปทานลด S2 P Q D1 S1 E1 P1 Q1 D2 E2 P2 Q2
อุปสงค์เพิ่ม > อุปทานลด อุปสงค์เพิ่ม > อุปทานลด S2 D2 P Q D1 S1 E1 P1 Q1 E2 P2 Q2
อุปสงค์เพิ่ม < อุปทานลด อุปสงค์เพิ่ม < อุปทานลด S2 P Q D1 S1 E1 P1 Q1 D2 E2 P2 Q2
การเข้าแทรกแซงตลาดของรัฐบาล การประกันราคาขั้นต่ำ (Price Support or Minimum Price) การกำหนดราคาขั้นสูง (Price Ceiling)
การประกันราคาขั้นต่ำ ระบบราคาทำให้สินค้ามีราคาต่ำมากเกินไป รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง ประกันราคา ราคาประกันหรือราคาขั้นต่ำ ต้องสูงกว่าราคาดุลยภาพเสมอ
1. การประกันราคาขั้นต่ำโดยรัฐบาลรับซื้ออุปทาน ส่วนเกิน : การที่รัฐบาลประกาศราคาประกัน และใช้ กฏหมายบังคับให้ผู้ซื้อทุกรายซื้อสินค้าในราคาประกันนั้น มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฏหมาย
รัฐใช้งบประมาณ = 30 x (150 - 50) = 3,000 P Q 100 D S 20 30 150 50 อุปทานส่วนเกิน รัฐใช้งบประมาณ = 30 x (150 - 50) = 3,000
: รัฐกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ แต่จะปล่อยให้ซื้อขายกันตามกลไกราคาปกติ 2. การประกันราคาขั้นต่ำโดยรัฐบาลจ่าย เงินอุดหนุนให้แก่เกษตรกร : รัฐกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ แต่จะปล่อยให้ซื้อขายกันตามกลไกราคาปกติ
รัฐใช้งบประมาณ = (30 - 20) x 100 = 1,000 P Q 100 D S 20 รัฐใช้งบประมาณ = (30 - 20) x 100 = 1,000 30 100
ราคาขั้นสูงหรือราคาควบคุม ต้องต่ำกว่าราคาดุลยภาพเสมอ การกำหนดราคาขั้นสูง ระบบราคาทำให้สินค้ามีราคาสูงมากเกินไป รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง ราคาควบคุม ราคาขั้นสูงหรือราคาควบคุม ต้องต่ำกว่าราคาดุลยภาพเสมอ
S D ราคาในตลาดมืด อุปสงค์ส่วนเกิน P (บาท) Q (ล้านหน่วย) 15 300 400 200 15 300 ราคาในตลาดมืด 400 200 5 25 อุปสงค์ส่วนเกิน Q ที่มีการขายจริง
แบบฝึกหัดบทที่ 3 1. จุดดุลยภาพแสดงให้ทราบถึงอะไร 2 แบบฝึกหัดบทที่ 3 1. จุดดุลยภาพแสดงให้ทราบถึงอะไร 2. ถ้าอุปสงค์ของข้าวโพดเพิ่มขึ้น 10% และอุปทานเพิ่มขึ้น 40% ราคาดุลยภาพของข้าวโพดจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร 3. ถ้าอุปสงค์เพิ่มขึ้นและอุปทานคงที่จะเป็นผลให้เกิดอะไร 4. ในภาวะหลังสงครามใหม่ๆ Demand และ Supply สำหรับสินค้าประเภทอาหารจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และมีผลต่อราคาอย่างไร 5. การกักตุนสินค้า เกิดตลาดมืด เป็นผลที่เกิดจากการที่รัฐดำเนินมาตรการอะไร