中国八大菜系 โครงงานแกะรอยอาหารจีนแปดตระกูล 中国八大菜系 โครงงานแกะรอยอาหารจีนแปดตระกูล จัดทำโดย นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5/18 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี
ที่มาของโครงงาน จึงได้เป็นที่มาในการแกะรอยตามหา “อาหารจีนแปดตระกูล” ด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/18 เป็นนักเรียนแผนการเรียนภาษาจีน ประกอบกับลักษณะนิสัยที่เป็นนักชิมน้อย มีความสงสัยว่า “ประเทศจีนที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ จะมีความแตกต่างของอาหารในแต่ละภาคอย่างไร” จึงได้เป็นที่มาในการแกะรอยตามหา “อาหารจีนแปดตระกูล”
อาหารจีน สมัยชุนชิว-จั้นกั๋ว ได้เริ่มมีการแบ่งอาหารจีนเป็น 2 ตระกูลใหญ่ คือ อาหารเมืองเหนือ และอาหารเมืองใต้ สมัยราชวงศ์ชิง ได้มีการแบ่งอาหารเป็น 4 ตระกูลใหญ่ ได้แก่อาหารซานตง (鲁菜-หลู่ไช่) อาหารเจียงซู (苏菜-ซูไช่) อาหารกวางตุ้ง (粤菜-เย่ว์ไช่) อาหารเสฉวน (川菜-ชวนไช่) ปัจจุบันมี 8 ตระกูลใหญ่ โดยเพิ่ม อาหารอันฮุย (徽菜-ฮุยไช่) อาหารฮกเกี้ยน (闽菜-หมิ่นไช่) อาหารหูหนัน (湘菜-เซียงไช่) อาหารเจ้อเจียง (浙菜-เจ้อไช่)
1.อาหารซานตง (鲁菜-หลู่ไช่) เน้นที่ รสอ่อนละมุน ความสด และ ความนุ่ม หอยเป๋าฮื้อตุ๋นน้ำแดง 红烧鲍鱼 [Hóngshāo bàoyú] ปลาเก๋าราดซอส 糖醋鲤鱼 [Táng cù lǐ yú]
2. อาหารเจียงซู (苏菜-ซูไช่) เด่นที่รสกำลังดี หวานเค็มกลมกล่อม เป็ดต้มเกลือจินหลิง 金陵盐水鸭 หมูเนื้อใส 水晶肴蹄 [Shuǐjīng yáo tí] [Jīnlíng yánshuǐ yā]
3. อาหารกวางตุ้ง (粤菜-เย่ว์ไช่) เด่นที่รสละไม เน้นรสชาติแท้ๆของส่วนผสมความสด ติ่มซำ 点心 [diǎnxīn] หมูหัน หูฉลาม 烤乳猪 [Kǎo rǔ zhū] 鱼翅汤 [Yúchì tāng]
4. อาหารเสฉวน (川菜-ชวนไช่) เด่นที่กลิ่นเข้ม รสจัด เผ็ดร้อน เผ็ดชาพริกไทย เต้าหู้ทรงเครื่อง สูตรเสฉวน 麻婆豆腐 [Má pó dòufu] หม้อไฟเสฉวน 四川火锅 [Sìchuān huǒguō]
5. อาหารอันฮุย (徽菜-ฮุยไช่) เด่นที่อาหารป่า ตุ๋นเต๋ากระดองอ่อน 发菜甲鱼 [Fà cài jiǎyú ] พิราบตุ๋นหวงซาน 黄山蒸鸽 [Huángshān zhēng gē]
6. อาหารฮกเกี้ยน (闽菜-หมิ่นไช่) เน้นที่รสชาติหอมหวาน เปรี้ยวเค็ม และสด ซึ่งมีครบทุกรสชาติ พระกระโดดกำแพง 佛跳墙 fo tiao qiang ผัดหมี่ฮกเกี้ยน 福建炒面 fu jian chao mian
7. อาหารหูหนัน (湘菜-เซียงไช่) เด่นที่รสจัดจ้านเข้มข้น เผ็ดเปรี้ยว เผ็ดซ่าพริกแดง ไก่ผัดตงอัน 东安子鸡 [Dōngān zǐjī] เต้าหู้เหม็นฉางชา 长沙臭豆腐 [Zhǎngshā chòu dòufu]
8. อาหารเจ้อเจียง (浙菜-เจ้อไช่) เด่นที่รสอ่อนละไม สด นุ่มละมุน หมูพะโล้ 東坡肉 [Dōng pō ròu] ปลาเปรี้ยวซีหู 西湖醋鱼 [Xīhú cù yú] ไก่ขอทาน 叫化鸡 [Jiào huā jī]
แหล่งที่มาของข้อมูล http://ohomakemoney.com http://www.learners.in.th/blogs/posts/453107 http://th.wikipedia.org