SEARCHING
SEARCH 1. นำดรรชนีที่กำหนดไว้ในคำสั่ง OCCURS มาเปรียบเทียบกับจำนวนของข้อมูลในตาราง ถ้า ดรรชนีมีค่ามากกว่า จะทำให้มีการไปทำงานที่คำสั่ง ที่อยู่ในส่วนของ AT END และจากนั้นจะไปทำงาน ที่คำสั่งที่อยู่ถัดจาก คำสั่ง SEARCH 2. แต่ถ้าดรรชนีมีค่าไม่เกินขนาดของตาราง จะมีการไปทำงานที่ส่วนของคำสั่ง WHEN เพื่อ เปรียบเทียบเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จะไปที่ คำสั่งที่อยู่ถัดจากเงื่อนไขนั้น แล้วจะทำให้จบการ ทำงานของคำสั่ง SEARCH นั่นคือจะไปทำงานที่ คำสั่งถัดจาก SEARCH 3. แต่ถ้าเงื่อนไขไม่เป็นจริง จะทำให้มีการเพิ่ม ค่าของดรรชนีขึ้นอีกหนึ่ง แล้วจะย้อนกลับไปทำงาน ดังเช่นข้อ COKE ICE THAIRATH SHAMPOO
SALES-TABLE
Load-data
SALES-TABLE M
SALES-TABLE M
ABCDEFGHIJKLMNOPQRSTUVWXYZ LetIndex LetterValues Letter(1), Letter(2), …, Letter(26)
NEXT SENTENCE
IF A = B NEXT SENTENCE ELSE MOVE C to D END-IF DISPLAY "This is NOT the NEXT SENTENCE". DISPLAY "This IS the NEXT SENTENCE".
Multiple WHEN
ABCDEFGHIJKLM NOPQRSTUVWXYZ Rindex Lindex
int binary_search(int a[], int key, int left, int right) { if (left > right) // แสดงว่าแถวลำดับไม่มีสมาชิกเหลืออยู่แล้ว และไม่มี key ที่ต้องการ return -1; // แสดงว่าไม่พบค่า key else // ถ้ายังมีสมาชิกอยู่ก็ทำการค้นหาต่อไป { int mid = (left+right)/2; //mid ดัชนีตรงกลางของแถวลำดับ ย่อยหรือหลัก if (a[mid]>key) // แสดงว่า key ต้องอยู่ระหว่าง a[left] กับ a[mid-1] return binary_search(a,key,left,mid-1); // ดังนั้นจึงไปค้นหาต่อใน แถวลำดับย่อยระหว่าง left และ mid-1 if(a[mid]<key) return binary_search(a,key,mid+1,right); if(a[mid]==key) // พบ return mid; // คืนค่าตำแหน่งของ key ในแถวลำดับ a กลับไป } }
Binary Search