ทฤษฎีการผลิต และต้นทุนการผลิต ศิวาพร ทรงวิวัฒน์
พฤติกรรมผู้ซื้อ Output Supply และ Factor of Input Demad ความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีในการใช้ปัจจัยการผลิต ไปเพื่อผลิตสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลายชนิด พฤติกรรมผู้ซื้อ Output Supply และ Factor of Input Demad การตัดสินใจทางด้านอุปทานสินค้า Input Factor ปริมาณปัจจัยที่ใช้ในกระบวนการผลิต ปริมาณผลผลิตที่จะเสนอขาย พื้นฐานกระบวนการผลิต หรือความสัมพันธ์ด้านเทคโนโลยีการผลิตระหว่างปัจจัยการผลิต และผลผลิตที่ได้รับ Process Output Factor
Fixed Input Variable Input Production Function Q = (X1, X2,….., Xn) Q = ปริมาณผลผลิต X1, X2,….., Xn = ปัจจัยการผลิต Fixed Input ปัจจัยการผลิต ระยะการผลิตในระยะสั้น (Short-Run Production) Variable Input ระยะการผลิตในระยะยาว (Long-Run Production)
โดยที่ X = ปัจจัยผันแปร การวัดผลผลิตในระยะสั้น ผลผลิตส่วนเพิ่ม (Marginal Product : MP) จำนวนผลผลิตทั้งหมดที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อปัจจัยผันแปรเปลี่ยนแปลงไปหนึ่งหน่วย ผลผลิตเฉลี่ย (Average Product : AP) จำนวนผลผลิตทั้งหมดเฉลี่ยต่อหนึ่งหน่วยของปัจจัยผันแปรที่ใช้ในการผลิต ผลผลิตรวม (Total Product : TP) จำนวนผลผลิตทั้งหมดที่ได้รับจากการใช้ปัจจัยผันแปรจำนวนต่าง ๆ โดยทำงานร่วมกับปัจจัยคงที่อย่างน้อยหนึ่งอย่าง AP = TP / X โดยที่ X = ปัจจัยผันแปร MP = TP / X
Marginal Product : MP Average Product : AP = TP / ปัจจัยผันแปร ปัจจัยคงที่ ปัจจัยผันแปร TP AP MP 1 10 2 24 3 39 4 52 5 61 6 66 7 8 64 10 - 12 14 กฏว่าด้วยการลดน้อยถอยลงของผลผลิตส่วนเพิ่ม (Law of Diminishing Marginal Physical Return) “เมื่อจำนวนของปัจจัยการผลิตชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ผลผลิตส่วนเพิ่มที่ได้รับมีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ เช่นกัน” 13 12.20 11 9.43 8 15 13 9 5 2 Marginal Product : MP = TP / ปัจจัยผันแปร Average Product : AP = TP / ปัจจัยผันแปร
ผลผลิต ปัจจัย Increasing Return Diminishing Return Decreasing Return TP MP AP
การวัดผลผลิตในระยะยาว Y X เส้นผลผลิตเท่ากัน (Isoquant Curve : IC) หมายถึงเส้นที่แสดงอัตราส่วนการทดแทนกัน หรือการแลกเปลี่ยน (Trade-Offs) ระหว่างปัจจัยการผลิตชนิดต่าง ๆ ที่จะทำให้ได้รับผลผลิตจำนวนเท่าเดิม สามารถทดแทนกันได้ แต่ไม่สมบูรณ์ สามารถทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์ (Perfectly Substitue) ไม่สามารถทดแทนกันได้ แต่สามารถใช้ประกอบกัน
แนวคิดอัตราการใช้ปัจจัยการผลิตทดแทนกัน (Marginal Rate of Technical Substitution : MRTS) -Y MRTS = ------- X Y X IC Y X
Decreasing Return to Scale กฏผลได้ต่อขนาด (Law of Return to Scale) Y X IC1 = 10 IC2 = 30 IC3 = 60 IC4 = 90 IC5 = 110 Decreasing Return to Scale Constant Return to Scale Increasing Return to Scale
เส้นต้นทุนเท่ากัน (Isocost) Y X หมายถึงเส้นที่แสดงส่วนผสมต่าง ๆ ของปัจจัยการผลิตทั้ง 2 ชนิด (X,Y) ที่ซื้อได้ด้วยต้นทุนจำนวนเท่ากัน
Optuimum Inputs Combination Y X IC3 IC2 Optuimum Inputs Combination MRTS = Y/X = PX/PY IC1
Y Expanstion Path IC3 IC2 IC1 X เส้นแนวขยายการผลิต (Expanstion Path) คือเส้นที่แสดงถึงความสามารถในการเลือกทำการผลิต หรือขยายการผลิตสินค้าและบริการ โดยยังคงได้รับ Optimum Inputs Combination Y X Expanstion Path IC3 IC2 IC1
หมายถึงรายได้ที่สูญเสียไปจากเลือกทางเลือกอื่น Opportunity Cost หมายถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เป็นทั้งต้นทุนชัดแจ้ง และต้นทุนไม่ชัดแจ้ง ที่กิจการจะต้องจ่าย Private Cost หมายถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เป็นทั้งต้นทุนที่เกิดขึ้นภายในกิจการเอง และเกิดขึ้นจากภายนอกกิจการ Social Cost หมายถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่กิจการต้องจ่ายสำหรับซื้อ หรือเช่า ที่กิจการได้มีการจ่ายไปจริง ๆ Explicit Cost หมายถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่กิจการไม่ได้มีการจ่ายเป็นตัวเงินจริง Implicit Cost หมายถึงค่าใช้จ่าย ที่กิจการจ่ายไปแล้วไม่สามารถได้คืน Sunk Cost
ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Marginal Cost : MC) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เปลี่ยนแปลงไปจาการที่กิจการเปลี่ยนแปลงจำนวนผลผลิต ต้นทุนเฉลี่ยรวม (Average Cost : AC) ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยทั้งหมดที่กิจการจะต้องเสียไปต่อหนึ่งหน่วยผลผลิตที่ได้รับ ต้นทุนรวม (Total Cost : TC) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กิจการจะต้องเสียไปเพื่อซื้อปัจจัยมาผลิตเป็นสินค้าและบริการ การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตระยะสั้น เป็นการศึกษาผลผลิตภายใต้การใช้ปัจจัยผันแปร (Variable Input) ร่วมกับปัจจัยคงที่ (Fixed Input) ดังนั้นต้นทุนการผลิตในระยะสั้นจึงประกอบไปด้วย ปัจจัยคงที่ และปัจจัยผันแปร ต้นทุนเฉลี่ยรวม (Average Cost : AC) AC = AFC + AVC หรือ AC = (AFC/Y) + (AVC/Y) ต้นทุนเฉลี่ย = ต้นทุนคงที่เฉลี่ย + ต้นทุนผันแปรเฉลี่ย ต้นทุนส่วนเพิ่ม (Marginal Cost : MC) MC = TC / Y ต้นทุนส่วนเพิ่ม = อัตราการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนรวม / อัตราการเปลี่ยนแปลงจากจำนวนผลผลิต ต้นทุนผันแปรเฉลี่ย (Average Variable Cost : AVC ค่าใช้จ่ายปัจจัยผันแปรเฉลี่ยทั้งหมด เฉลี่ยต่อหนึ่งหน่วยของผลผลิต หาได้จาก AVC = TVC/จำนวนผลผลิต (Y) ต้นทุนรวม(Total Cost : TC TC = TFC + TVC ต้นทุนรวม = ต้นทุนคงที่รวม + ต้นทุนผันแปรรวม ต้นทุนคงที่รวม (Total Fixed Cost : TFC ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กิจการเสียไปเพื่อซื้อปัจจัยคงที่ทั้งหมดมาเพื่อผลิตสินค้า ต้นทุนผันแปรรวม (Total Variable Cost : TFC ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กิจการเสียไปเพื่อซื้อปัจจัยผันแปรทั้งหมดมาเพื่อผลิตสินค้า ต้นทุนคงที่เฉลี่ย (Average Fixed Cost : AFC ค่าใช้จ่ายปัจจัยคงที่เฉลี่ยทั้งหมด เฉลี่ยต่อหนึ่งหน่วยของผลผลิต หาได้จาก AFC = TFC/จำนวนผลผลิต (Y)
AC = AFC + AVC AFC = TFC /Q TC = TFC + TVC MC = TC / Q AVC = TVC /Q 4 - 1 10 2 16 3 18 20 5 26 6 36 7 52 8 76 4 - - - 1 10 4 14 20 22 24 30 40 56 80 4 2 1.33 1 0.80 0.63 0.57 0.50 10 8 6 5 5.20 7.43 9.50 14 10 7.33 6 6.67 8 10 6 2 10 16 24 AC = AFC + AVC AFC = TFC /Q TC = TFC + TVC MC = TC / Q AVC = TVC /Q
พื้นที่เท่ากับ TFC พื้นที่เท่ากับ AFC TC AC, MC Q TC TVC TFC MC AC AVC
ปัจจัยทุกอย่างเป็นปัจจัยผันแปร ต้นทุนหน่วยสุดท้ายระยะยาว (LMC) เป็นการตัดสินใจภายใต้เงื่อนไขการผลิตที่เหมาะสมคือมีต้นทุนต่ำที่สุด ขณะเดียวกันได้ผลผลิตสูงสุด ซึ่งก็คือ LAC = LMC ต้นทุนรวมระยะยาว (LTC) ตัดสินใจเลือกใช้ปัจจัยการผลิตทุกประเภทภายใต้เงื่อนไขการเสียต้นทุนต่ำที่สุด ซึ่งแสดงด้วยเส้น Isoquant และ Isocost ต้นทุนเฉลี่ยรวมระยะยาว (LAC) เส้น AC เป็นเส้นเดียวกันกับเส้น AVC เนื่องจากในระยะยาวไม่มีต้นทุนคงที่ จึงพิจารณาจากโรงงานที่เสียต้นทุนต่ำที่สุด การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตระยะยาว ปัจจัยทุกอย่างเป็นปัจจัยผันแปร LMC การวิเคราะห์ทุกอย่างจะเป็นเรื่องการใช้ปัจจัยการผลิตให้เสียต้นทุนต่ำที่สุด และให้เหมาะสมกับการผลิตแต่ละระดับ AC3 MC3 MC1 AC1 MC2 AC2 LAC
รายรับส่วนเพิ่ม (Marginal Revenue) MR = TR / Q โดยที่ TR = อัตราการเปลี่ยนแปลงของรายรับรวม Q = อัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณสินค้าและบริการ รายรับ (Revenue) รายรับเฉลี่ย (Average Revenue) AR = TR / Q โดยที่ TR = รายรับรวม Q = ปริมาณสินค้าและบริการ หมายถึงจำนวนเงินที่ได้รับจากการขายสินค้า และบริการ ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ ราคา x ปริมาณสินค้า (P x Q) รายรับรวม (Total Revenue) TR = P x Q โดยที่ P = ราคาสินค้าและบริการ Q = ปริมาณสินค้าและบริการ
เงื่อนไขการได้รับกำไรสูงสุด Slope TR = Slope TC หรือ MR = MC เงื่อนไขการได้รับกำไรสูงสุด กำไรสูงสุดจะได้ต่อเมื่อรายรับรวม (TR) มีมากกว่าต้นทุนรวม (TC) = TR > TC TC TR = TR = TC