งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

เครื่องมือวิเคราะห์งานพัฒนาชุมชน

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "เครื่องมือวิเคราะห์งานพัฒนาชุมชน"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 เครื่องมือวิเคราะห์งานพัฒนาชุมชน
นายเอกราช ญาณอุบล พัฒนาการอำเภอลาดหลุมแก้ว หลักสูตรฝึกอบรมนักวิชาการพัฒนาชุมชน (ผู้ช่วยหัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน)

2 ทำไมต้องวิเคราะห์งาน/ภารกิจ
งานพัฒนาชุมชนมีลักษณะเป็นองค์รวม ภารกิจย่อย/งานย่อยเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นงานใหญ่/ภารกิจใหญ่ ภารกิจงานส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก ระบบการเมือง ทุนชุมชน การผลิต กทบ. กลุ่มอาชีพ กลุ่มออมทรัพย์ กิจกรรม ศก.พพ. ฯลฯ กลุ่ม OTOP SMEs วิสาหกิจชุมชน กข.คจ. กลุ่มอาชีพ ฯลฯ การตลาด Airport กลุ่ม ฯลฯ ภูมิภาค ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ห้างสรรพสินค้า ระบบสังคมวัฒนธรรม กรุงเทพ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

3 อัตราการเปลี่ยนแปลง อดีต – เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบช้า บางกรณีเป็นการเปลี่ยนแปลง ตามสภาวะธรรมชาติ/สิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน - อัตราเร่งการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น รวดเร็ว-รุนแรง-คาดการณ์ได้ยาก

4 ทฤษฎีใหม่...ในการอธิบายความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน
Chaos Theory : ทฤษฎีไร้ระเบียบ อิทธิพลของโลกาภิวัตน์ การหลั่งไหลของข้อมูลข่าวสาร รวดเร็ว หลากหลายทิศทาง หลากหลายช่องทาง หลากหลายแหล่ง ตลอดเวลา การรับรู้

5 อิทธิพลของข้อมูลข่าวสารทำให้ความสัมพันธ์ทางสังคมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ไม่เป็นเส้นขนาน ไม่ยอมรับ กวัดแกว่ง สับสน หากไม่เข้าใจ การเปลี่ยนแปลง อ่อนไหว คับข้องใจ หลากหลายรูปแบบ ไม่มีความสุข ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว อ่อนไหว กวัดแกว่ง – สังคมก็ยังพยายามที่จะ รักษาสมดุลย์ทางสังคมไว้ การเปลี่ยนแปลงที่รู้สึกได้นาทีต่อนาที

6 ภารกิจหรืองานต่างๆ ล้วนเป็นเหตุส่งผลต่อปัจจัยอื่นๆ ทั้งทางบวก ทางลบ ทั้งด้านสนับสนุน เอื้ออำนวย และในด้านกีดกัน เป็นอุปสรรค การวิเคราะห์งานทำให้เรายิ่งเห็น Insight ในการปรับปรุง พัฒนาปัจจัยให้เอื้ออำนวย เกิดประโยชน์ เกิดการพัฒนาในทางบวก

7 บทบาทและหน้าที่ของนักบริหาร นักวิชาการ
เป็นนักบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management) โดย ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เข้าใจการเปลี่ยนแปลง คาดการณ์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงได้ คิดกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองเป้าหมาย ในบริบทที่เปลี่ยนแปลง

8 เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ

9

10

11

12 Importance/Performance Matrix
Fix Excel Low Priority Overkill เป็นจุดเด่นทำให้ยั่งยืน ความคาดหวัง/การให้ความสำคัญ Importance 1.ลูกค้าไม่สนใจ แต่เราทำมาก ควรตัดสินใจลดทรัพยากรไปทำใน Fix หรือ Excel 2.บางกรณีต้องสื่อสารเพิ่มเป็นหลัก ลูกค้าไม่ get แม้เป็นเรื่องที่ดี ทบทวนการจัดสรรทรัพยากร Performance O 1O การตอบสนองต่อ Customer Needs

13

14

15 แนวคิด IP Matrix IP Matrix เป็นเครื่องมือวิเคราะห์สินค้า/ผลิตภัณฑ์/การบริการ โดยพิจารณาในประเด็นสำคัญ 2 ประเด็น คือ I = Importance (มีความสำคัญ) P = Performance (ทำได้ดี)

16 องค์ประกอบย่อย IP Matrix
I = Importance -เป็นภารกิจหลักตามยุทธศาสตร์กรม -มีความสำคัญในการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชน -กลุ่มเป้าหมายให้ความสำคัญ ตอบรับการทำงานเป็นอย่างดี -เป็นนโยบายที่ผู้บริหารให้ความสำคัญ

17 องค์ประกอบย่อย IP Matrix
P = Performance -เจ้าหน้าส่วนใหญ่มีความสามารถทำได้ดีกว่าคู่แข่ง/เหนือคู่แข่ง -มีผลงานที่เป็นรูปธรรม ประชาชน/บุคคลทั่วไปเห็นได้ชัดเจน แสดงการยอมรับ -มีทรัพยากรสนับสนุน

18 การประยุกต์ใช้ Boston Model ในการวิเคราะห์งาน พช.

19 ความสำคัญ/ที่มาของ Boston Model
การพัฒนายุทธศาสตร์ระดับบริษัท หรือระดับองค์การ ทำได้ 2 แบบ แบบที่ 1 เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์โดยรวม เรียกว่า Grand Strategy เป็นยุทธศาสตร์ที่ไม่เจาะจงครอบคลุมเกือบทุกด้าน ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อชี้นำการปฏิบัติหลักๆ เพื่อให้องค์การบรรลุเป้าหมายระยะยาว แบบที่ 2 เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์แบบเลือกการลงทุนในหน่วยธุรกิจ หรือ Portfolio Strategy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ และตำแหน่งของหน่วยธุรกิจ (Strategic Business Unit : SBU) เพื่อสร้างส่วนผสมที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายขององค์การอย่างดีที่สุด

20 BCG Matrix เป็นโมเดล ที่ใช้วิเคราะห์ด้านการเงินการลงทุนเกี่ยวกับการตลาด โดยการเริ่มต้นของ GE (General Electric) และ Boston Consulting Group (BCG) BCG matrix จะแสดงฐานะหรือความแข็งแกร่งของบริษัทเมื่อเทียบกับตลาดสินค้านั้นๆ โดยใช้เกณฑ์ในการพิจารณา 2 เกณฑ์ คือ 1. ส่วนแบ่งตลาดเชิงเปรียบเทียบ (Relative Market Share) เป็นการเปรียบเทียบกับคู่ แข่งว่าส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นกี่เท่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่สำคัญ 2.ความน่าสนใจของตลาด (Market Attractiveness) หรือ อัตราการเติบโตของตลาดสินค้า (Market Growth Rate) คือ อัตราการขยายตัวของตลาดสินค้าทั้งตลาดไม่ใช่ของบริษัท เพราะเกณฑ์ที่ใช้นี้เพื่อต้องการดูว่าตลาดสินค้านั้นๆ มีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด

21 Boston Model แบบจำลองที่ใช้ทั้งอัตราขยายตัวของตลาด (Market Growth) และ ส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจ (Market Share)เป็นเกณฑ์ในการวิเคราะห์ เพื่อให้ผู้บริหารทราบตำแหน่งธุรกิจ(งาน)ของตน และเลือกวางกลยุทธ์รวมถึงจัดสรรทรัพยากร ทางการเงินการบริหารขององค์กรได้อย่างเหมาะสม

22 Boston Model แบ่งธุรกิจเป็น 4 ประเภท
Stars (ดาวรุ่ง) คือ ธุรกิจ(งาน)ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับภาวะตลาดโลกของผลิตภัณฑ์นั้นที่ขยายตัวในอัตราสูง จึงจัดเป็น “ธุรกิจดาวรุ่ง” ที่ทำเงินได้สูง ธุรกิจประเภทนี้ควรมีค่าใช้จ่ายในการขยายการผลิต การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ในระดับสูงเพื่อเพิ่มยอดขายและรักษาส่วนแบ่งตลาด (ลูกค้าชอบ เราทำได้ดี) Cash Cows (แม่วัว) คือ ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาวะตลาดโลกของผลิตภัณฑ์นั้นขยายตัวในอัตราต่ำ หรือหดตัวลงผู้ประกอบการจึงควรพยายามรักษาฐานตลาดเดิม โดยอาจเพิ่มกลยุทธ์ในเชิงรุกมากขึ้น (ลูกค้าชอบ แต่เราทำได้น้อย)

23 Problem Children / Question Marks (เด็กมีปัญหา) คือ ธุรกิจที่มีส่วนแบ่งตลาดลดลง ขณะที่ภาวะตลาดโลกของผลิตภัณฑ์นั้นขยายตัวในอัตราสูง มักเป็น ธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มเข้าสู่ตลาด ผู้ประกอบการ จึงจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด(ลูกค้าลดลง ไม่ต้องการ ยังไม่เห็นคุณค่า แต่เป็นงานมีคุณค่า ต้องสื่อสารกับลูกค้าเพิ่มขึ้น) Dogs (สุนัข) คือ ธุรกิจที่ทั้งส่วนแบ่งตลาดและภาวะตลาดโลกของผลิตภัณฑ์นั้นมีอัตราขยายตัวลดลงทั้งนี้ ธุรกิจอาจเริ่มมีกำไรต่ำ หรือเข้าสู่สภาวะขาดทุน และอาจต้องหยุดดำเนินกิจการในที่สุด (ลูกค้าไม่ต้องการ เราก็ทำสู้คู่แข่งขันไม่ได้)

24 Boston Model

25 การนำไปใช้ประโยชน์ นำผลการวิเคราะห์ไปกลยุทธ์ 4 รูปแบบ ดังนี้ 1. question marks  กลยุทธ์สร้าง (build strategy) หรืออาจเรียกอย่างหนึ่งว่า กลยุทธ์เพิ่มการลงทุน (invest strategy) 2. strong cash cows กลยุทธ์รักษา (hold strategy) หรืออาจเรียกอย่างหนึ่งว่า กลยุทธ์ป้องกัน (protect strategy) 3. weak cash cows กลยุทธ์เก็บเกี่ยว (harvest strategy) 4. dogs + question masks กลยุทธ์ถอนตัว (divest strategy)

26 The End


ดาวน์โหลด ppt เครื่องมือวิเคราะห์งานพัฒนาชุมชน

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google