งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

งานนำเสนอกำลังจะดาวน์โหลด โปรดรอ

ความหมายของงานแม่พิมพ์โลหะ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


งานนำเสนอเรื่อง: "ความหมายของงานแม่พิมพ์โลหะ"— ใบสำเนางานนำเสนอ:

1 ความหมายของงานแม่พิมพ์โลหะ
วิชา : งานสร้างชิ้นส่วนแม่พิมพ์โลหะ หน่วยการเรียนที่ 1: ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแม่พิมพ์โลหะ 1/44 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแม่พิมพ์โลหะ ความหมายของงานแม่พิมพ์โลหะ แม่แบบที่ใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยผ่านกระบวนการ ตัด เฉือน กด อัด ขึ้นรูป ให้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

2 ประเภทต่างๆของแม่พิมพ์โลหะ
1.งานตัด (shearing) เป็นงานตัดทั่วๆไปที่ใช้คมตัดเฉือนโลหะให้ขาดออกจากกัน ลักษณะการตัด ลักษณะงานที่ตัด

3 เป็นงานตัดริมขอบของงานโดยมีคมตัดด้านบนเอียงทำมุมกับแนวดิ่ง
2. Bevel Shearing เป็นงานตัดริมขอบของงานโดยมีคมตัดด้านบนเอียงทำมุมกับแนวดิ่ง ลักษณะการตัด

4 3. Blanking เป็นงานตัดที่ต้องการเอาส่วนที่ถูกตัดไปแปรสภาพเป็นชิ้นงานต่อไป ลักษณะการตัด ลักษณะงานที่ตัด

5 4. Trimming เป็นงานตัดขอบส่วนที่ไม่ต้องการออกจากชิ้นงานที่ขึ้นรูปมาแล้ว ลักษณะการตัด ลักษณะงานที่ตัด

6 5. Notching เป็นงานตัดเฉพาะบางส่วนทางด้านริมของชิ้นงาน ลักษณะงานที่ตัด

7 6.Slitting เป็นการตัดในแนวตรง ใช้ในการตัดแยกโลหะแผ่นเล็กออกจากแผ่นใหญ่
ลักษณะงานที่ตัด

8 7.Parting หรือ Separting
การแยกชิ้นงานที่สมมาตรกันออกจากกันเป็น 2 ส่วน ลักษณะงานที่ตัด

9 8.Piercing เป็นการตัดเจาะรูเพื่อนำรูไปใช้งาน ลักษณะการตัด
ลักษณะงานที่ตัด

10 9.Perforating เป็นการตัดเจาะรูหลายๆรูพร้อมกัน ลักษณะงานที่ตัด

11 10.Shaving เป็นการตัดครั้งที่สองหลังจากที่ Shearingหรือ Cutting มาแล้วเพื่อ ทำให้ขอบชิ้นงานเรียบ ลักษณะการตัด ลักษณะงานที่ตัด

12 งานพับและงานปั๊มเข้ารูป
1. Bending เป็นการพับโลหะซึ่งอาจจะเป็นรูปตัววีหรือตัวยู ลักษณะงานที่พับ

13 2. Forming เป็นการปั๊มโลหะแผ่นเรียบให้มีรูปร่างตามต้องการ
ลักษณะงานที่ขึ้นรูป

14 ลักษณะงานที่เว้าเข้า
3.Flanging เป็นการพับขอบของชิ้นงานตามรูป ลักษณะงานที่เว้าเข้า ลักษณะงานที่โค้งออก

15 4.Burring เป็นการพับบริเวณขอบของรูหรือบานออก ลักษณะการพับ

16 5.Curling เป็นการม้วนที่ปลายขอบชิ้นงานรูปถ้วย ท่อ หรือโลหะแผ่น
ลักษณะการม้วน

17 6.Seaming เป็นการต่อปลายโลหะเข้าด้วยกันโดยวิธีการพับติดกัน
ลักษณะการพับ

18 7.Beading เป็นการขึ้นรูปสันนูนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับชิ้นงาน
ลักษณะการขึ้นรูป

19 8.Embossing เป็นการปั๊มโลหะเพื่อทำให้เกิดเป็นรอยกดตื้นๆ
ลักษณะการขึ้นรูป

20 9.Necking เป็นการลดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางรูปทรงกระบอก ลักษณะการขึ้นรูป

21 งานขึ้นรูป (Drawing) 1.Drawing
เป็นการขึ้นรูปโดยที่พั้นช์จะกดโลหะแผ่นเรียบเข้าในช่องว่างของดาย ลักษณะการขึ้นรูป

22 2.Redrawing เป็นการขึ้นรูปต่อจากการขึ้นรูปครั้งแรกทำให้มีความลึกเพิ่มขึ้น ลักษณะการขึ้นรูป

23 3.Reverse Redrawing เป็นการขึ้นรูปต่อจากการขึ้นรูปครั้งแรกแต่ทิศทางตรงข้าม ลักษณะการขึ้นรูป

24 4.Ironing เป็นการลดความหนาของผนังจะทำให้ผิวหน้าเรียบตลอด
ลักษณะการขึ้นรูป

25 1.Cold Extrusion งานประเภท Extrusion
เป็นการขึ้นรูป โดยที่Punchจะอัดโลหะเข้าไปใน Die orifice ซึ่ง จะทำให้ได้ชิ้นงานตามรูปพื้นที่หน้าตัดของ Die orifice

26 2.Forward Extrusion เป็นการอัดโลหะเข้าไปในช่องว่างของ die และมีรูปร่างตามลักษณะ die ลักษณะการอัดขึ้นรูป

27 3. Backward Extrusion เป็นการอัดโลหะให้ไหลตัวเข้าใน punch จะได้รูปร่างงานตามลักษณะ punch ลักษณะการอัดขึ้นรูป

28 4.Forward and Backward Extrusion
เป็นการอัดโลหะ โดยโลหะจะไหลตัวเข้าไปใน Die และมีบางส่วนจะไหลตัวเคลื่อนเข้าหา Punch ซึ่งจะทำให้ได้ชิ้นงานตามลักษณะPunch และ Die ลักษณะการอัดขึ้นรูป

29 5. Impact Extrusion เป็น Back ward Extrusionชนิดหนึ่ง ซึ่งความหนาของผนังมีความบางมาก ใช้ได้กับโลหะที่อ่อนมาก ลักษณะการอัดขึ้นรูป

30 6. Upsetting เป็นการอัดโลหะเพื่อ ให้ความยาวลดลงโดยมีบางส่วนของชิ้นงานมีพื้นที่หน้าตัดลดลง ลักษณะการอัดขึ้นรูป

31 7.Swaging เป็นการอัดโลหะจนโลหะไหลตัวเข้าไปจนเต็มช่องว่างของ Die และจะมีโลหะบางส่วนไหลออกมานอกDie ลักษณะการอัดขึ้นรูป

32 8.Coining เป็นการอัดโลหะโดยที่ทุกส่วนของชิ้นงาน จะถูกอัดอยู่ระหว่าง Punch กับ Die และไม่มีส่วนใดออกมานอก Die ลักษณะการอัดขึ้นรูป

33 9.Sizing ให้ได้ขนาดที่ถูกต้องแน่นอน เป็นการปั๊มครั้งที่สองเพื่อ
ลักษณะการอัดขึ้นรูป

34 10.Heading เป็นการปั๊มเพื่อขึ้นรูปทางด้านปลายของชิ้นงาน
ลักษณะการอัดขึ้นรูป

35 งานปั๊มประเภทอื่นๆ 1.Bulging
เป็นการขยายผนังของรูปทรงกระบอกหรือท่อโดยใช้แรงดันจากด้านใน ลักษณะการอัดขึ้นรูป

36 2.Stretch Drawing Forming
เป็นการขึ้นรูปที่มี Clamp ยึดปลายทั้งสองข้างของโลหะไว้ ลักษณะแม่พิมพ์

37 3.Hydro Forming เป็นการขึ้นรูปที่มีแต่ Punchเป็นตัวกำหนดรูปร่างของชิ้นงาน ส่วนDieเป็นของเหลว ลักษณะแม่พิมพ์

38 ประเภทของแม่พิมพ์โลหะ
1.แม่พิมพ์เดี่ยว(Single Die) Punch Shank Punch Plate Punch holder Guide Post Fix Stripper Die holder Die

39 2.แม่พิมพ์ผสม(Compound Die)
1.Knock out pin 9.Pressure plate 2.Shank Punch 3.Pressure pin Backing plate 4.Punch holder Punch plate 5.Guild post Die 6.Stripper bolt Stripper 7.Die holder Die plate 8.Punch Spring

40 3.แม่พิมพ์ต่อเนื่อง (Progressive Die)
1.Punch holder 9.Punch 2.Blacking Punch pierce 3.Punch plate 11.Stripper 4.Guild post stock guild 5.Die holder Specer 6.Punch Die insert 7.Pilot pad 8.punch Spring

41 เครื่องปั๊ม 1.Ecentric press

42 2.Screw press

43 3.Dise friction press

44 4.Hydraulic press


ดาวน์โหลด ppt ความหมายของงานแม่พิมพ์โลหะ

งานนำเสนอที่คล้ายกัน


Ads by Google