ศาสนาคริสต์ ๑. ผู้ก่อตั้งคือ พระเยซู ๑. ผู้ก่อตั้งคือ พระเยซู ๒. มีฐานะเป็นทั้งศาสดาพยากรณ์และเทพบุตร ๓. มีพื้นฐานมาจากศาสนายิว ๔. เป็นศาสนาเอกเทวนิยม ยะโฮวาห์ ๕. มีผู้นับถือมากที่สุดเพราะอิทธิพลจากการเมืองในอดีต ๖. พระเยซูได้ชื่อ Christ = Mesiah แปลว่า ผู้ไถ่บาป ๗. สอนศาสนาอยู่ได้ ๓ ปี ก็ถูกประหาร เพราะอ้างตนเองว่าเป็น บุตรของพระยะโฮวาห์ ผิดกฎศาสนายิว
๒. ส่วนหนึ่งมาจากความสำนึกของสาวกเกี่ยวกับพระเยซู บ่อเกิด ๑. ส่วนหนึ่งมาจากพันธสัญญาเก่า ๒. ส่วนหนึ่งมาจากความสำนึกของสาวกเกี่ยวกับพระเยซู ๓. ส่วนหนึ่งมาจากเก็บจากวัฒนธรรมที่ได้สัมผัส ตามกระแสแห่งประวัติศาสตร์
ลักษณะ ๑. มีความหวังในเมสซิอา ๑. มีความหวังในเมสซิอา ๒. เมสซิอา = ผู้นำการเมืองและศาสนาหรือผู้นำประเทศนั่นเอง เหมือนศาสนาอิสลาม ๓. พระเยซูเป็นผู้ให้กำเนิดศาสนา - เซนต์ปอลเป็นผู้ประดิษฐาน ๔. ศาสนาคริสต์เดิมนั้นสอนให้ดำเนินตามแบบชาวยิว - ต่อมา St. ปีเตอร์ ประกาศว่า คริสตชนที่เป็นยิวก็ทำ แบบยิวต่อไป คริสตชนที่เป็นกรีกก็เป็นคริสต์แบบกรีก
ศาสนาอื่น นอกจากศาสนาคริสต์ ๕. เพราะกฤษฎีของจักรพรรดิคอนสแตนติน ค.ศ. ๓๑๓ ห้ามถือ ศาสนาอื่น นอกจากศาสนาคริสต์ ๖. ทำให้ยุโรปมีศาสนาเดียวและได้รับความรู้ปรัชญาจากกรีก ๗. แต่ก็ทำให้ยุโรปตกอยู่ใน “ยุคมืด” เหมือนกันเพราะทุกประเทศ ต้องฟัง pope ด้วย
นิกาย ๑. โรมันแคธอลิค - กรุงโรม ๒. กรีกออร์ธอดอกซ์ - ยุโรปตะวันออก นิกายใหญ่ ๆ มี ๓ นิกาย ๑. โรมันแคธอลิค - กรุงโรม ๒. กรีกออร์ธอดอกซ์ - ยุโรปตะวันออก ๓. โปรเตสแตนต์ - คัดค้านพวกโรมันแคธอลิค เจริญรุ่งเรืองอยู่ในเยอรมัน (มาร์ติน ลูเธอร์) - ทำให้เกิดเสรีภาพในการนับถือศาสนา - ทำให้เกิดความรู้สึกถึงเอกราชของชาติที่ควรตัดสินด้วยตนเอง - ทำให้มีการนับถือเหตุผลมากกว่าจารีตประเพณี - ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่ามนุษย์มีสิทธิที่จะทำอะไรใหม่ที่ถูกต้องได้
๑. นิกายโรมันคาธอลิก : เชื่อว่า pope (สันตะปาปา) มีสิทธิและหน้าที่ในการวางบัญญัติใหม่ๆ ได้ ๒. นิกายกรีกออร์ธอดอกซ์ : มีพิธีกรรมอย่างเดียวกับนิกายคาธอลิก แต่ไม่อยู่ในอำนาจของ pope และไม่ถือว่าไม้กางเขนเป็นสิ่งสำคัญ ๓. นิกายโปรเตสแตนท์ : ถือตามคัมภีร์ใบเบิล ไม่มีนักบวช ไม่ถือว่าไม้กางเขนเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ ของสำนักวาติกัน
คัมภีร์ ๒. แบ่งเป็น ๒ ภาค - The Old Testament ได้รับมาจากศาสนายิว ๑. ไบเบิล หนังสือ ๒. แบ่งเป็น ๒ ภาค - The Old Testament ได้รับมาจากศาสนายิว - The New Testament เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์โดยเฉพาะ ๓. ยอมรับกันถึง ๓ ศาสนา โดยเฉพาะ The Old Testament - ยิว คริสต์ และอิสลาม
ศาสนากิจ 1. ศีลล้างบาป ถือว่าทุกคนมีบาปติดตัวมา จำต้องทำพิธีล้างบาปเสียก่อนที่จะนับถือศาสนาคริสต์ 2. ศีลกำลัง เป็นพิธีรับพระจิตให้มาอยู่ในตัว 3. ศีลมหาสนิท หรือเรียกอีกอย่างว่า มิสซา เป็นพิธีที่แสดงให้เห็นว่าผู้รับศีลข้อนี้แล้วได้อยู่แนบสนิทกับพระเยซู 4. ศีลแก้บาปหรืออภัยบาป เป็นพิธีที่ชาวคริสต์ที่สำนึกว่าตนได้ทำบาปลงไป
5. ศีลสมรส เป็นพิธีที่ให้บ่าวสาวประกาศคำมั่นว่าจะเป็นสามีภรรยากันตลอดไปไม่หย่าร้าง แม้มีบุตรธิดาก็จะนับถือพระเจ้าตลอดไป 6. ศีลบวช พิธีนี้จะทำกับผู้ที่เลื่อมใสมั่นคง พร้อมที่จะรับใช้ศาสนาคริสต์ แล้วก็จะเป็นบาทหลวง 7. ศีลเจิมครั้งสุดท้าย พิธีนี้จะทำให้เฉพาะคนป่วยหนัก ใกล้มรณะ
สัญลักษณ์ ~ เป้าหมาย ๑. - ไม้กางเขน - รูปพระเยซู สัญลักษณ์ ~ เป้าหมาย ๑. - ไม้กางเขน - รูปพระเยซู - รูปพระแม่มาเรีย เน้นความสำคัญต่างกันตามนิกาย ๒. - การเข้าถึงพระเจ้าและดำรงชีวิตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจ้า
ศาสนาอิสลาม ผู้ให้กำเนิดคือท่านนบีมุฮัมหมัด แปลว่าผู้ควรบูชา ฉายาที่ทุกคนรู้จักท่าน มี 2 ชื่อคือ อาบู กอซิม และอัลอามีน (ผู้ซื่อสัตย์)
๒. มีผู้นับถือเป็นอันดับสอง (ประมาณ1,500 ล้านคน) ๑. ศาสนาสากล ๒. มีผู้นับถือเป็นอันดับสอง (ประมาณ1,500 ล้านคน) ๓. เป็นศาสนาแห่งกฏหมาย ๔. มีรากฐานเดิมมาจากศาสนายิวและศาสนาคริสต์ ๕. เอกเทวนิยม – อัลเลาะห์ ๖. เป็นสัญลักษณ์ของชนชาติอาหรับ
๘. ศาสนากับการเมืองแยกกันไม่ออก เรียกว่าศาสนาการเมือง ๗. ดำเนินศาสนาตาม Mesiah มากกว่าศาสนาคริสต์เสียอีก ๘. ศาสนากับการเมืองแยกกันไม่ออก เรียกว่าศาสนาการเมือง ๙. อิสลาม อัสละมะ สันติ ตรงกับคำว่า เยรูซาเล็ม เป็นชื่อเรียกศาสนา ส่วนมุสลิมเป็นชื่อเรียก คนที่นับถือ ๑๐. เกิดประเทศซาอุดิอาระเบีย ณ วันที่ ๒๗ เดือนรอมฎอน ค.ศ. ๖๒๐ (ปีช้าง)