วรรณคดีสำคัญ สมัยกรุงธนบุรี
ระยะเวลาเพียง 15 ปี และเต็มไปด้วยสงครามนั้น ยอมที่จะหาเรื่องที่เป็นชิ้นเป็นอันได้โดยยาก มีวรรณคดีที่เกิดในสมัยนี้ 2-3 เรื่อง คือ ลิลิตเพชรมงกุฎ ของหลวงสรชิต (หน) ซึ่งต่อมาในต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ได้เป็นเจ้าพระยาพระคลัง โครงยอพระเกียรติพระเจ้ากรุงธนบุรี ของ นายสวน มหาดเล็ก คำฉันท์กฤษณาสอนน้อง ของพระภิกษุอิน เมืองนครศรีธรรมราช วรรณคดีที่สำคัญที่ควรนำมากล่าว คือ บทละครเรื่องรามเกียรติ์ อันเป็นพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑
เป็นบทละครที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ครบถ้วน ประกอบด้วยเรื่องน่ารู้ และสนุกสนาน อีกทั้งยังได้ปรับปรุงเป็นบทสำหรับการเล่นละครได้อย่างดี ละครไทยแท้ๆ แต่เดิมมักจะเป็นละครรำที่มีท่ารำบอกถึงเรื่องราวตามบทร้อง ดังนั้น ท่ารำและบทร้องจึงมีความหมายสอดคล้องต้องกัน ทั้งยังเข้ากับทำนองเพลงต่างๆ ที่ให้ไว้ด้วย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ขึ้นเพื่อใช้ในพิธีสมโภชพระนครใหม่
เนื้อเรื่องประกอบด้วยเรื่องราวน่ารู้ต่างๆ เริ่มด้วยหิรัญยักษ์ม้วนแผ่นดิน และกำเนิดตัวละครสำคัญๆ ทั้งฝ่ายยักษ์ ลิง และมนุษย์ แล้วจึงดำเนินเรื่องการสู้รบระหว่างพระรามกับทศกัณฐ์ ซึ่งต้องสู้รบกันหลายครั้งกว่าจะได้ชัยชนะเด็ดขาด ประกอบด้วยเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและเรื่องแทรกที่สนุกสนานบันเทิง เสริมด้วยอารมณ์ขัน ทำให้เรื่องราวมีสีสันเหมาะสมกับการแสดงละคร ทั้งยังให้คติธรรมที่ว่า ธรรมย่อมชนะอธรรม และยกย่องความซื่อสัตย์ ความกตัญญู บทละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมจากคนไทยทุกยุคทุกสมัย
พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ บทละครเรื่องอิเหนา
เรื่องอิเหนามาจากพงศาวดารชวา กล่าวถึงกษัตริย์วงศ์เทวัญสี่องค์ซึ่งเป็นพี่น้องกัน และครองนคร ๔ นคร คือ กุเรปัน ดาหา กาหลัง และสิงหัดส่าหรี อิเหนาแห่งเมืองกุเรปันได้หมั้นหมายกับบุษบาราชธิดาเมืองดาหา ต่อมาได้พบกับจินตะหราก็หลงรัก เมื่อถูกบังคับให้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับบุษบา จึงลอบหนีออกจากเมืองไปหาจินตะหรา ที่มา: http://www.maerim.ac.th/present_teach/ebook/sunanta/___.html
จนกระทั่งเมื่ออิเหนาไปช่วยท้าวดาหารบกับท้าวกะหมังกุหนิง และได้พบบุษบาก็หลงรัก จึงทำอุบายเผาเมือง ดาหา แล้วลักพาบุษบาไป ท้าวอสัญแดหวาโกรธแค้นในการกระทำอันมิชอบของอิเหนา จึงบันดาลให้ลมหอบบุษบาไปตกที่แคว้นปะมอตัน อิเหนาต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมายระหว่างตามหาบุษบา จนกระทั่งได้เข้าพิธีอภิเษกสมรส เรื่องจึงจบลงด้วยความสุข ที่มา : http://www.thaigoodview.com/node/23716
บทเสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผนเสภา
เป็นบทกลอนที่ใช้ขับเพื่อความบันเทิง ได้รับความนิยมในหมู่นักเลงกลอนตั้งแต่สมัยอยุธยา และกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ ๒ และ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้แต่งเสภามักจะเลือกหานิทานนิยายเรื่องเล่าที่ตนเคยรู้จัก มาแต่งเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกัน บทเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผนมีผู้แต่งหลายคน ใครพอใจจะขับเสภาตอนใดก็แต่งขึ้นเองเฉพาะตอนที่ตนขับ ที่มา : http://topicstock.pantip.com/isolate/topicstock/2010/07/M9451803/M9451803.html
เรื่องขุนช้างขุนแผนมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน บางตอนกล่าวถึงพระมหากษัตริย์บ้าง แต่ไม่ได้ต้องการแสดงเรื่องราวของพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเรื่องราวของคนไทยแท้ๆโดยไม่ได้ดัดแปลงจากวรรณกรรมของชาติอื่น ตัวละครในเรื่องมีชีวิตจิตใจราวกับคนจริงๆ ที่มีชีวิตอย่างคนธรรมดา ซึ่งมีทั้งทุกข์และสุข ความสมหวัง และความผิดหวัง ที่มา : http://kmbr2.net/?q=node/593
แก่นสำคัญ กล่าวถึงรักสามเส้าของขุนแผน ขุนช้าง และนางพิมหรือนางวันทอง การดำเนินเรื่องเริ่มต้นตั้งแต่ชีวิตวัยเด็กของตัวละครเอกทั้งสาม ความสมหวังในรักของขุนแผนหรือพลายแก้วกับนางพิม แล้วกลายเป็นการพลัดพรากจากกัน ไปสู่ความสมหวังในรักของขุนช้างที่มีต่อนางพิม เกิดการแย่งชิงความรักกันระหว่างขุนช้างกับขุนแผน ที่มา : http://www.watchdog.co.th/2010/%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99/
ลิลิตตะเลงพ่าย ที่มา : http://www.wannakadee.com/ลิลิตตะเลงพ่าย
ลิลิตตะเลงพ่ายเป็นหนังสือที่มีศิลปะการใช้ภาษาที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการแต่งเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้ชาติ ความดีเด่นของลิลิตตะเลงพ่ายคือ การเล่นคำและการใช้โวหาร ที่มา: http://www.sahavicha.com/?name=link&file=readlink&id=609
โวหารที่ใช้คือ อุปมาอุปไมย เพื่อให้เกิดภาพพจน์ จินตนาการ และสะเทือนอารมณ์ กวีได้สอดแทรกความรู้ต่างๆ มากมาย เช่น การจัด กระบวนทัพของไทยสมัยอยุธยา และยุทธศาสตร์ แต่ไม่เคร่งครัดในด้านภูมิศาสตร์ นอกจากนี้ กวียังได้นำชื่อนกและชื่อต้นไม้มาใช้ในบทครวญถึงนางตามแบบอย่างลิลิตยวนพ่าย ที่มา : http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK24/chapter1/t24-1-m1.htm
อ้างอิง http://www.nuanphun.com/ http://www.pradoo.ac.th/Frame/Student%20success44/Studen%20success/thonburi/index.html http://www.kpsw.ac.th/teacher/chantana/TONB1.htm http://onknow.blogspot.com/2010/03/blog-post_7203.html http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/st2545/5-5/no29/wannakadee.html http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=offway&month=19-11-2008&group=39&gblog=2 http://www.xpresssale.com/forum/index.php?topic=176.0
ขอบคุณค่ะ